‘อนุทิน’ ไม่ปิดประตูอนาคต จับมือพรรคประชาชน หากนโยบายไปกันได้ ก็ไม่ควรมีข้อจำกัด ชี้ วันนี้ต้องเลิกพูดว่าพรรคไหนจับมือพรรคไหนได้ บอก สส.ปชน. ทักทายกันมากขึ้น แต่ถ้าตนทำผิด เชื่อ โดนชำแหละแน่นอน
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการไปออกรายการหนึ่ง ซึ่งมีการพูดถึงการทำงานของพรรคประชาชน จนมีหลายคนมองว่าจะมีการจับมือระหว่าง 2 พรรคหรือไม่ ว่า มีคนถามว่าเดี๋ยวนี้มีการพูดคุยกับพรรคประชาชน ซึ่งเมื่อสักครู่ที่ตนเดินลงมาก็เดินผ่านน้องๆ พรรคประชาชน ซึ่งก็มีการยกมือไหว้ ตนก็บอกว่าไม่เหมือนกันสมัยที่แล้ว ที่ไม่ค่อยมีการทักทายกัน แต่เดี๋ยวนี้ทักกันเยอะขึ้น มีรอยยิ้มให้กันมากขึ้น แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า แต่ถึงแม้จะมีรอยยิ้มในวันที่ ตนยังเป็นรัฐบาลอยู่ หากตนทำผิดก็เชื่อว่าพรรคประชาชนก็จะชำแหละตนในฐานะฝ่ายค้านไม่มียั้งอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ แต่ในส่วนมิตรภาพ จะมีให้กันก็ได้ นี่เป็นสิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์ไปไม่มีนัยอะไรมากไปกว่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขณะนี้พรรคประชาชนไม่มีนโยบาย ม.112 แล้วในอนาคตจะมีแนวทางการทำงานร่วมกันหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า วันนี้ต้องเลิกพูดว่าพรรคนั้นจับกับพรรคนี้ หรือพรรคนั้นจับกับพรรคโน้นไม่ได้
“สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้สามารถสรุปได้ว่าไม่มีพรรคอะไรจับมือกับพรรคอะไรไม่ได้ แต่ความจริงก็เป็นเรื่องที่ถูก เพราะเราไม่ได้มีความจงเกลียดจงชังกัน แต่เมื่อมีความเห็นหรือนโยบายที่ไม่ตรงกัน หรือนโยบายที่อีกฝ่ายรับไม่ได้ ณ ขณะนั้นก็อย่าพึ่งจับกัน แต่ในอนาคตข้างหน้านโยบายต่างคนต่างรับได้ ต่างคนต่างพยายามหาสิ่งที่ทำได้ แล้วเกิดประโยชน์กับประเทศ และประชาชน และขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ ก็ไม่ควรมีข้อจำกัดอะไรขึ้นมา” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี