“สมชัย ศรีสุทธิยากร” ชี้ตรรกะป่วยจัด ปม “สมศักดิ์”แจงเหตุวีโต้มติแพทยสภา ด้าน โฆษกสธ. แฉมีขบวนการล็อบบี้กรรมการแพทยสภาเคลื่อนไหว ระดมกำลังเต็มที่ เพราะกลัวแพ้มติได้ไม่ถึง 2 ใน 3 เตือนแพทยสภาไม่ใช่กลุ่ม องค์กรการเมือง อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวทำลาย 3 นายแพทย์

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการและอดีต กกต. โพสต์สื่อโซเชียลแสดงความคิดเห็นหลังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเหตุผลการยื่นวีโตมติแพทยสภาที่ลงโทษแพทย์ 3 กรณีชั้น 14 โดยระบุว่า “ตรรกะป่วยจัด”

นายสมชัย ได้ตั้งคำถามเปรียบเปรยว่าหากคิดเพียงว่าการกระทำของแพทย์หากไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ป่วย “ไม่ถือเป็นการผิดจรรยาบรรณ”การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือกระบวนการยุติธรรมของรัฐนั้นก็ “ไม่ผิดจรรยาบรรณ” ใช่ไหม

ถ้าเช่นนั้น หมอออกใบรับรองแพทย์เป็นเท็จให้คนสมัครงาน ให้คนได้รับการยกเว้นการรับราชการทหาร ให้คนเอาไปเคลมเงินจากบริษัทประกัน หรือ คดีฆ่าคนตาย หมอก็ชันสูตรว่าเป็นอุบัติเหตุให้ฆาตกรพ้นผิด อย่างนี้ก็คงไม่ผิดจรรยาบรรณในความเห็นของท่านรัฐมนตรีและบรรดาที่ปรึกษาของท่าน

“หรือนี่ คือตรรกะ ของนักการเมืองที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี เคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ที่บอกว่าตัวเองเลือกข้างถูกเสมอ ยกเว้นข้างประโยชน์ของประชาชน” นายสมชัย กล่าว

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โพสต์ข้อความระบุว่า แพทย์ 365วัน จากคนที่เห็นและเติบโตอยู่กับแพทย์ ทั้งชีวิต คุณพ่อผมเป็นหมอ ตั้งแต่ผมลืมตาดูโลกและจำความได้คุณพ่อผมทำงานอย่างหนัก รักษาและดูคนไข้ตลอดเวลาทุกวัน จะดึกดื่นค่ำคืนเมื่อมีคนไข้หนักก็จะต้องออกไปทันที แม้เที่ยงคืนตี1ตี2 คุณพ่อก็จะเอาผมนั่งรถไปเป็นเพื่อน ให้รอในรถบ้าง ไปรออยู่ที่ห้องพักแพทย์บ้าง ทำให้ได้เห็นชีวิตของคนเป็นแพทย์ คนที่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคน มันเหนื่อยแค่ไหน ทุ่มเทอย่างไร

ดังนั้นจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์ ไม่มีเวลาหยุดพัก ต้องอยู่ในหน้าที่ตลอดเวลา คิดและทำด้วยจิตอาสา ทุ่มเทอย่างหนักมาตลอดต่อเนื่อง ผมภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อที่เป็นคุณหมอ ผมเชื่อในความเป็นมืออาชีพและจรรยาบรรณของความเป็นหมอที่ได้ถูกปลูกฝัง และกล่อมเกลามาอย่างหนักตลอดทั้งชีวิต

ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่มีความคิด มีสติ มีปัญญา มีเหตุและผล เคยได้เห็นการทำงานของคนที่มีอาชีพที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคน จะเข้าใจและคิดไม่ต่างกัน ผมยืนยันชัดเจนว่าผมสนับสนุน ให้กำลังใจและเชื่อมั่นในบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน #คิดดีทำดี #ให้กำลังใจแพทย์ทุกคน #หมอดีๆยังมีอยู่จริง

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก วิรังรอง ทัพพะรังสี ระบุว่า อาจารย์ผูัใหญ่ส่งมาค่ะ ภาพอธิการบดี นายกสภาฯ จุฬา - มหิดล ทั้งอดีตและปัจจุบันรวมทั้งเจ้ากรมแพทย์

ขอกราบแสดงความนับถือ และให้กำลังใจคณะแพทย์ทุกท่านทั้งประเทศค่ะ เกียรติภูมิของ แพทยสภาคือเกียรติภูมิของแพทย์ ไทยทุกคนค่ะ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า หมอผี

ผมไม่ใช่กลุ่มเกลียด คุณทักษิณ ชินวัตร ผมไม่ใช่กลุ่มที่ไม่อโหสิหรือไม่ให้อภัยคุณทักษิณ ชินวัตร เหมือนที่โฆษกกระทรวงสาธารณสุขพูดถึงตรงข้าม ผมเป็นคนแก่ขี้ลืม ไม่เคยโกรธใครนาน เมื่อคุณทักษิณ อ้างว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลาน ผมเป็นคนแก่ด้วยกันก็ยินดี และเห็นว่าบ้านเมืองคงจะสงบสุข

แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ผมกลับเห็นบ้านเมืองแตกแยกกว่าเดิม กฎหมายหลายส่วนถูกละเมิด ข้าราชการจำนวนหนึ่งซูฮกคุณทักษิณอย่างน่าละอาย ไร้ศักดิ์ศรี มิรู้ผิดรู้ชอบ แต่เอาเถอะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในเมืองไทยก็ถูกฝึกให้มีดีเอ็นเอ ในสายเลือดแบบนี้มาตลอด หาก“ศีล” แปลว่า “ความปกติ” ผมคิดเอาเองว่า ขณะนี้ บ้านเมืองเหมือนไม่มีศีล กล่าวคือ “ไม่มีความปกติ” ผมคิดเอาเองว่า หากคุณทักษิณติดคุก“ตามที่ควรจะเป็น” บ้านเมืองจะกลับมามีศีลหรือความปกติอีกครั้งหนึ่ง ผมคิดเอาเองว่า คุณทักษิณ เหมือน“แม่นาคพระโขนง” ถูกตีออกจากหม้อ การจะจับลงหม้อมันยากแสนยาก หมอผีเก่งๆก็ไม่ยอมจับ

หากป.ป.ช.เปรียบเหมือนหมอผี ผมก็ไปหาหมอผีนี้มาหลายครั้ง แต่หมอผีนี้ ก็ไม่ยอมจับ กลับไล่เราออกจากบ้านอีก วันนี้ ชาวบ้านชาวเมืองไม่ต้องกินต้องนอนกันแล้ว เขาก็เลยยกขบวนไปศาลฎีกา เพื่อขอให้จับหมอผีนี้ลงหม้ออีกครั้ง ให้ชดใช้กรรมตามที่ทำไว้ ผมนี่เอาใจช่วยศาลฏีกา ช่วยจับลงหม้อทีเถอะ ชาวบ้านชาวเมืองไม่เป็นอันกินอันนอนกันแล้ว.

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า หลังจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทำหนังสือถึงนายกแพทยสภายับยั้งมติของแพทยสภาที่ให้ลงโทษแพทย์ด้วยการพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ปรากฎว่า มีการเคลื่อนไหวหนักขึ้นของหลายกลุ่ม รวมทั้งคณะแพทย์บางส่วนออกมาโจมตีนายสมศักดิ์ มุ่งจะให้นายสมศักดิ์พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเลยไปถึงการขับไล่รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้ดูเลวร้าย ขณะเดียวกันมีข่าววงในแจ้งมาว่า กรรมการแพทยสภาบางคนได้ระดมกำลังอย่างเต็มที่เพื่อให้กรรมการแพทยสภามาประชุมวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เพราะเกรงว่าถ้าลงมติไม่ถึง 2 ใน 3 จากกรรมการแพทยสภาทั้งหมด กล่าวคือ ไม่ถึง 46 คนจาก 69 คน พวกตนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่สามารถคว่ำการวีโต้ หรือยับยั้งของนายสมศักดิ์ได้ และนั่นเท่ากับว่า การลงโทษพักใบอนุญาตประกอบเวชกรรมแพทย์ 2 คนก็จะต้องยืนไปตามนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใดๆได้

น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ แพทยสภาเป็นองค์กรของวิชาชีพแพทย์ มีกฎหมายรองรับ คือ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 กำลังถูกโยงใย ลากดึงไปเป็นกลุ่ม หรือคณะทางการเมืองจากกรรมการแพทยสภาบางคนบางส่วน ก่อเกิดเป็นความขัดแย้ง โดยเอาความรู้สึกส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ไม่คำนึงถึงเหตุผล ข้อเท็จจริง และความยุติธรรม ซึ่งส่งผลให้แพทย์ที่ถูกสอบสวนและถูกลงโทษทั้งการตักเตือน และการพักใช้ใบประกอบเวชกรรมกลายเป็นเหยื่อ

โฆษกสธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวต่อไปว่า การพักใช้ใบประกอบเวชกรรมของแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจอาการและโรคของนายทักษิณแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็กระทบต่อชื่อเสียงของแพทย์ดังกล่าว เพราะชื่อได้ปรากฏออกไปสู่สาธารณะและยังเปรียบเสมือนการลงโทษประหารชีวิตทางอาชีพ เพราะปกติแพทย์ที่มีใบอนุญาติประกอบเวชกรรมย่อมสามารถตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้ตามวิชาชีพ

“บรรดาแพทย์บางท่านที่ออกโรงเปิดชื่อ เปิดสถาบัน หน่วยงานที่สังกัด ขอให้ระมัดระวังเพราะแพทย์เป็นวิชาชีพมีเกียรติ ไม่ว่าโจรผู้ร้าย คนดีคนเลวเมื่อเจ็บป่วยมา แพทย์มีหน้าที่ต้องดูแลรักษาโดยมุ่งไปที่ความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ นี่คือจรรยาแพทย์ จะเลือกปฏิบัติไม่ได้ สังคมกำลังจับตามองว่า แพทย์บางส่วนกำลังเล่นการเมืองไปกับเขาด้วย อยากให้อ่าน พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ให้ดี กฎหมายให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษเอาไว้อย่างไร และอำนาจหน้าที่ของแพทยสภามีอะไรบ้าง ต่างทำหน้าที่ให้อยู่กับคำว่า เป็นธรรม มีคุณธรรมและถูกกฎหมาย นี่คือการตัดสินแพทย์ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวเป็นตัวกำหนด”น.ส.ตรีชฎา กล่าว