วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
แฉพรรคการเมืองรวมหัวกินรวบ ‘อภิสิทธิ์’จัดหนัก มองแค่ประโยชน์การเลือกตั้ง

แฉพรรคการเมืองรวมหัวกินรวบ ‘อภิสิทธิ์’จัดหนัก มองแค่ประโยชน์การเลือกตั้ง

วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กรณ์ จาติกวณิช กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม แฉพรรคการเมืองรวมหัวกินรวบ ดร.วิรไท สันติประภพ แนวหน้าออนไล์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
  •  

แฉพรรคการเมืองรวมหัวกินรวบ
‘อภิสิทธิ์’จัดหนัก
มองแค่ประโยชน์การเลือกตั้ง
ตามบี้พวกทุจริตต้องติดคุก
‘วิรไท’ซัดรัฐกบต้มไม่ตื่นตัว
ห่วงอ่อนแรงกระโดดหนีไม่ทัน

วงเสวนาอัดยับการเมือง-เศรษฐกิจกินรวบ “อภิสิทธิ์” ซัดพรรคการเมืองรวมหัว มองแค่ผลประโยชน์การเลือกตั้ง เทียบเกาหลีใต้ พอทหารถอยออกจากการเมืองประธานาธิบดีโกงติดคุกจริง เชื่อ เมืองไทย หากนายกฯ โกง ติดคุกจริง คงพัฒนาเทียบเท่า ด้าน “วิรไท” ซัดรัฐกบต้ม เฉยไม่ตื่นตัว ปลุกประชาชนตื่น ก่อนถูกต้มจนอ่อนแรงกระโดดหนีไม่ทัน

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.68 ที่คณะเศรษฐ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม จัดเวทีสาธารณะ หัวข้อ “Why Nations Fail – บทเรียนที่ประเทศไทยต้องไม่ล้มเหลว” โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าพูดถึงระบบการทำงานของภาครัฐที่ยังทำงานอยู่แต่ไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีองค์กรจัดอันดับรัฐล้มเหลวนั้นไทยอยู่ที่อันดับ 95 คะแนนก็อยู่ตรงกลาง ที่มีคำเตือนแล้ว ทั้งนี้ตนได้อ่านหนังสืออีก 2 เล่ม เล่มแรกบอกว่าโครงสร้างของรัฐที่จำนำส่การพัฒนาประเทศค่อนข้างแคบ มีความเสี่ยงสูง เพราะด้านหนึ่งคือรัฐรวบอำนาจ ทำลาย กลไกตลาด ระบบทุนนิยม การแข่งขัน และอีดด้านหนึ่งคือรัฐไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ ไร้กติกาไร้ระบบไร้ระเบียบ ดังนั้นต้องมีความพอดี ส่วนหนังสืออีกเล่มย้ำว่าลำพังเทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบของการพัฒนาประเทศทั้งหมด เพราะในอดีตการเข้ามาของเทคโนโลยีก็สร้างความมั่งคั่งกับแค่นายทุนหยิบมือ แต่สิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์คือการปฏิวัติอุตสาหกรรม มีกฎกติกาการรวมตัวกันของแรงงาน มีอำนาจต่อรอง มีระบบจัดเก็บภาษี และจัดทำสวัสดิการ


ด้วยเหตุนี้ ตนมองว่าไทยมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถบรรลุศักยภาพที่มีที่คิดว่าจะทำได้ เพราะเวลาสถาบันต่งๆ จัดอันดับประเทศไทย เรื่องคอรัปชั่น เสรีภาพทางเศรษฐกิจ เสรีภาพทางการเมือง ความเป็นประชาธิปไตย ความพร้อมในการเอาเทคโนโลยีไปใช้ ยังเห็นการจัดอันดับที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีแต่ลดลงเรื่อยๆ อาจกระเตื้องขึ้นมาบางปีแล้วก็เสื่อมถอยลงไปอีก จุดอ่อนมีทั้งเศรษฐกิจและการเมือง โดยในเรื่องของเศรษฐกิจนั้น ถ้าดูที่อื่น 10 ปีมานี้บริษัทที่เติบโตในตลาดหลักทรัพย์จะเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่ของไทยน่าจะมีแค่ 1 บริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี นอกนั้นคือรัฐวิสาหกิจเดิมธุรกิจที่ผูกขาด ตรงนี้จึงทำให้ยากการก้าวข้ามสภาพปัจจุบัน ถ้าลองไปเสนอความคิดดีๆ กับธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทยปฏิกิริยาจะเหมือนกันหมดว่าน่าสนใจมาก แต่ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะทำ เพราะทุกวันนี้เขาไม่ต้องแข่งขันอะไร ถ้าต่อไปสังคมไม่โต ไม่มีอำลังซื้อคำตอบของเขาก็แค่ไปลงทุนในต่างประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนในทางการเมือง วันนี้ ตนก็ยังมองว่าการเมืองจะเป็นแบบนี้ไปอีกอย่างน้อย 3-4 ปี เพราะเกือบทุกพรรคการเมืองก็พึงพอใจกับสภาพอย่างนี้ คนที่เป็นรัฐบาล ก็พึงพอใจกับความที่ได้เป็นรัฐบาล ส่วนจะผสมกลมกลืนหรือไม่คนละเรื่อง แต่ยังสามารถดำรงสถานะความเป็นรัฐบาล ใช้สถานะความเป็นรัฐบาลหวังว่าจะเอื้อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าได้ระดับหนึ่ง แต่ถามว่ามีวิสัยทัศน์หรือมีจุดร่วมจะพาประเทศไปทางไหนหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบ ขนาดพรรคฝ่ายค้านก็มองในทำนองว่า ห้วงเวลาอยู่ข้างเขา ยิ่งประเทศสะสมปัญหามากขึ้นเท่าไหร่ วันข้างหน้ายิ่งมีโอกาสพลิกกลับมา ดังนั้น

“ประเทศไทยต้องหลุดพ้นจากสภาพนี้ก่อน เพราะเวลาเดินเร็วมาก ถ้าเสียโอกาสไปอีกเพียงแค่ 2 ปี 3 ปี 4 ปี แล้วคิดจะไปไล่ตามให้ทันทีหลังก็เหนื่อย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จุดหนึ่ง ที่ทำให้เรายังไม่สามารถไปไหนได้เพราะความตื่นตัว เศรษฐกิจที่เริ่มถดถอยแต่คนไม่มีการตื่นตัว น่าจะเกิดความชินชา ซึ่งเมื่อเหล่านี้จะไปผูกพันกับคอรัปชั่นด้วยแต่คนก็จะชินชาว่ามันก็เป็นอย่างนี้ ประเด็นท้าทาย หรือเราต้องรอให้เกิดวิกฤตก่อน หรือรอจนถูกต้มจนสุกแล้ว ส่วนตัวเคยหวังว่าโดนัลด์ทรัมป์จะมาช่วยเรา เพราะวันที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีการประกาศนโยบายแรกๆ ทำให้คนไทยมีอารมณ์ร่วมหมดว่าจะทำอย่างไรให้ ประเทศไทยรอด แม้กระทั่งฝ่ายค้าน ที่บอกว่าจะต้องให้กำลังใจรัฐบาล ดังนั้นตอนนี้ต้องมีการกระตุ้นความรู้สึกคนไทยให้มีส่วนร่วมในการปรับตัว และต่อสู้เพื่อให้ประเทศไทยอยู่รอด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า จริงๆ หลายเรื่อง หลายภาคส่วนตนเห็นว่าก็มีการขยับ แต่ที่จับตาอยู่คือระบบศาล ระบบยุติธรรมไปด้วยหรือเปล่า และอย่างที่มีผู้กล่าวมาก่อนหน้านี้ว่าผู้ที่มีอำนาจในระบบเศรษฐกิจผูกขาด มีอิทธิพลมากต่อระบบการเมือง นี่คือจุดล่อแหลมจุดอันตรายที่เราต้องหาทางแก้ไขให้ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งจากหนังสือที่ตนได้อ่าน มีการเปรียบเทียบไทยกับเกาหลีใต้ เพราะเคยอยู่ในระดับการพัฒนาเดียวกัน แต่วันนี้เกาหลีใต้ไปไกลกว่าเยอะ สิ่งที่เขาคิดและชี้ชัดคือบทบาทของทหารเกาหลีใต้ถอยออกไปเยอะจากการเมือง แต่ส่วนตัวอยากจะชี้ให้เห็นเพิ่มเติมว่า นอกจากกองทัพเกาหลีใต้ถอยออกไปแล้ว จะเห็นว่า ประธานาธิบดีทุกคนที่โกงกินติดคุกหมด ถ้าประเทศไทยมีนายกฯ โกงและติดคุกด้วย เราก็อาจจะไปถึงจุดที่เกาหลีไปถึงด้วยเช่นกัน

ที่ผ่านมามีคนพูดกับตนว่า “หวังว่าทหารจะไม่เข้ามาอีก” แสดงว่ามีการเรียนรู้ระดับหนึ่ง ว่าถ้าเราจะไปหวังพึ่งกลไกลบางอย่างที่คิดว่าลอยมาแล้วจะแก้ปัญหาได้ในที่สุดเราก็จะผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันนี้ส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญยังเป็นอุปสรรคอยู่ แต่คนที่ที่รู้สึกแบบเดียวกันไม่กล้ากระโดดมารื้อรัฐธรรมนูญเพราะไม่รู้ว่ารื้อแล้วจะได้อะไรกลับมา เพราะสัญญาณที่เกิดขึ้นคือ เห็นว่าองค์กรอิสระไม่น่าเชื่อถือ พอบอกไม่เอาเผด็จการทหาร แต่คำตอบเดียวที่มีคือ ให้ทุกอย่างเป็นไปตาม เสียงข้างมากที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าไปสู่จุดนั้นก็แสดงว่า เราไม่เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ดังนั้นสำหรับตนการช่วยการทำให้กลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจของคนที่มาจากการเลือกตั้งคือสิ่งสำคัญ กระบวนการส่งคนเช้าสู่อำนาจสำคัญ จึงกลับมาที่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบต่างๆ ที่ไม่จำกัดอยู่แค่องค์กรอิสระ หรือศาลแต่คือสื่อมวลชนด้วย

ทั้งนี้ คิดว่ากันคาดหวังให้ราชการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากเพราะระบบราชการ ไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง แต่คนที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงคือระบบการเมืองที่เข้มแข็ง ถ้ารัฐบาลเสถียรภาพง่อนแง่น จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็คงลำบาก ตนคิดว่าโครงสร้างตามรัฐธรรมนูญปี 2540 คนร่างตั้งโจทย์ชัดว่าไม่เอารัฐบาลผสม แต่ออกแบบให้รัฐบาลเข้มแข็งกับ ออกแบบให้มีระบบตรวจสอบใหม่ คือการสร้างองค์กรอิสระจำนวนมาก ซึ่งถ้าองค์กรเหล่านั้นทำงานได้ผลตามนั้นคิด มันก็ไปได้ วันนี้โจทย์นั้นก็ยังอยู่กับเรา เราอยากได้รัฐบาลเข้มแข็ง มีทิศทางที่ชัดเจนในการที่จะปรับโครงสร้างต่างๆ แต่ต้องถูกตรวจสอบ โดยองค์กรที่ควรเชื่อถือไ ด้และมีความเป็นอิสระ

“วันนี้คนไทย เด็กไทย ภาคเอกชนไทยข้าราชการไทยไม่ได้เลวร้ายไปกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงคิดว่า ทำได้เดือนหน้าได้ จึงต้องมาหาจุดพลิกตรงนี้ให้ได้เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ กล่าว และว่า การเริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องทำให้คนไทยตื่นตัวร่วมกันว่า ต้องช่วยกันสร้างการเปลี่ยนแปลง

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.การคลัง กล่าวว่า ตนก็มีอารมณ์อึดอัดต่อหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ว่าระดับสังคมหรือเศรษฐกิจก็ตาม จากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งพบว่า สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศคือ 1. ภูมิลักษณะที่เปลี่ยนแปลงเร็ว 2. เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง 3. การเปลี่ยนแปลงผู้นำเพราะหลายประเทศมีการเลือกตั้ง เช่นสหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำก็ทำให้ประเทศพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อกลับมามองประเทศไทย ที่เราเคยหวังว่าเมื่อไม่นานมานี้เราก็ประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับหลายประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม วันนี้สิ่งที่ชัดเจนเรามีปัญหาหลักอยู่ 2 อย่างคือ 1. เรามีปัญหาเรื่องเงินฝืดธนาคารไม่ปล่อยกู้เศรษฐกิจไม่โต GDP ไม่โต 2. มีปัญหาหนี้สินโดยเฉพาะหนี้สินครัวเรือนซึ่ง 2 ปัญหานี้ เปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่น หลังยกฟองสบู่ ก็อยู่ในสภาวะ เงินฝืดหลายปีจนนายกรัฐมนตรีอาเบะมีนโยบายเมื่อ 2012 เรียกว่าธนู 3 ดอก 1. ผ่อนคลายการเงินลดอัตราดอกเบี้ยลงไปต่ำกว่า 0% 2. กระตุ้นนโยบายการคลัง 3. การปฏิรูปภาคธุรกิจ ซึ่งต้องทำพร้อมกันทั้ง 3 เรื่อง โดยเฉพาะดอกสุดท้ายที่ทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัว และวันนี้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็มีความคึกคัก แม้ปัญหาจะอย่างมากอยู่แต่ก็เป็นบทเรียนให้กับประเทศไทยว่าวันนี้ด้วยปัญหาคล้ายๆ กันรวมถึงปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

“ดังนั้นไทยอาจจะเรียนรู้บทเรียนนโยบายของญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้อาจจะทันท่วงทีต่อการกระตุ้นให้ประเทศไทยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างน้อยใน 10 ปีข้างหน้า และปัจจัยที่สำคัญมากคือ เรื่องของผู้นำ ญี่ปุ่นยังต้องพึ่งนายกฯ อาเบะ ผมกล้าพูดว่าถ้าไม่มีอาเบะก็ไม่สามารถที่จะผลักดันนโยบายที่ท้าทายทางการเมืองได้ เหมือนกับที่ญี่ปุ่นได้ทำมาเพราะฉะนั้นกลับมาที่ประเทศไทยของเราช่องทางมันมีแต่ต้องอาศัยผู้นำคำถามที่สำคัญคือแล้วเราจะทำอย่างไรถึงจะได้ผู้นำที่ดี” นายกรณ์ กล่าว


ขณะที่ ดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าโลกปัจจุบันมีโอกาส ที่จะทำนโยบาย หรือมาตรการต่างๆให้ถูกเพื่อเปลี่ยนสภาวะปัญหาที่เผชิญอยู่มาเป็นโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ได้ โดยเฉพาะการพัฒนาทางเทคโนโลยีสามารถนำมาสู่โอกาสที่หลากหลายได้ อยากได้ก็ตามอย่างมีหลายปัจจัยที่ยังกังวลว่ารัฐยังไม่สามารถ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ได้อย่างยั่งยืน เช่นโครงสร้างสถาบันการเมือง เศรษฐกิจที่มีลักษณะกินรวบ มากกว่ากันเปิดโอกาสการมีส่วนร่วม และเราเริ่มเห็นปฏิสัมพันธ์ของสถาบันเศรษฐกิจ และสถาบันการเมืองกินร่วมทำให้โอกาสของคนส่วนใหญ่ของประเทศยากขึ้น นอกจากนี้หลักนิติรัฐยังเห็นว่าอ่อนแอทุกระดับ

“ตอนนี้เราอาจจะไม่ใช่รัฐที่ล้มเหลวหรือรัฐที่สอบตก แต่ผมรู้สึกว่า เป็นรัฐกบต้ม รัฐนิ่งเฉยมากขึ้น ดังนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นกบที่นิ่งเฉยแต่ตระหนักถึงอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆจะทำอะไรก็ให้รีบๆทำ ก่อนที่จะปล่อยให้น้ำร้อนขึ้นเรื่อยๆนะขณะที่กล้ามเนื้อเราอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ดังนั้นต้องช่วยกันตระหนักรู้และหาทางออกจากหม้อน้ำที่อุณหภูมิ สูงขึ้นเรื่อยๆก็เชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ได้” ดร.วิรไท กล่าว และว่า ส่วนสำคัญคือการปฏิรูประบบราชการพราะเป็นตัวเชื่อมของของสถาบันการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้อ่อนแอมาก และกลายเป็นเสริม หรือจำยอมให้เกิดการกินรวบ วันนี้เราเห็นนโยบายการเมืองหลายอย่างที่ไม่ค่อยยึดโยงผลประโยชน์ของประชาชน และก็เห็นการตัดสินใจของภาครัฐหลายอย่างเหมือนกันที่ไม่ได้ยึดโยงกับประโยชน์ของประชาชน จึงต้องปฏิรูประบบราชการ

ขณะที่ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ตัวชี้วัดคุณภาพของสังคมไทยวันนี้ มี 3-4 ตัวคือ1.คุณภาพของนิติรัฐ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมหรือไม่ เพราะหลายกรณีในเมืองไทยที่คนทำผิดไม่ต้องรับผิด กฎหมายถูกบังคับใช้ไม่เท่ากันในหลายกรณี 2. เรื่องคอรัปชั่น ที่คนมองว่าเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ใครๆ ก็จ่ายทั้งๆ ที่สังคมอื่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ 3.การผูกขาดกินรวบ และ 4 ความเป็นประชาธิปไตย นี่คือสัญญาณ ที่สำคัญของคุณภาพสถาบันการเมืองและเศรษฐกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ศบ.ทก.\'ลั่นไม่เพิกเฉย จ่อประท้วงเขมร หากพบวางทุ่นระเบิดใหม่​ ลั่นผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ 'ศบ.ทก.'ลั่นไม่เพิกเฉย จ่อประท้วงเขมร หากพบวางทุ่นระเบิดใหม่​ ลั่นผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​
  • \'อิ๊งค์’ร้องเพลงชาติปลุกคนไทยสามัคคี ท่องคาถา‘สันติวิธี’ ทำเป็นขึงขังกลางวงครม. 'อิ๊งค์’ร้องเพลงชาติปลุกคนไทยสามัคคี ท่องคาถา‘สันติวิธี’ ทำเป็นขึงขังกลางวงครม.
  • ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา\'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว\'พรุ่งนี้ ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'พรุ่งนี้
  • \'กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม\'จัดเสวนา \'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว\' 'กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม'จัดเสวนา 'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'
  • ยก 6 เหตุผล! \'กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม\'ค้านร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ยก 6 เหตุผล! 'กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม'ค้านร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร
  • \'อภิสิทธิ์\'สับเละ‘พนันถูกกฎหมาย’ จี้ถามรัฐบาลตรงๆประโยชน์ของมันคืออะไร?? 'อภิสิทธิ์'สับเละ‘พนันถูกกฎหมาย’ จี้ถามรัฐบาลตรงๆประโยชน์ของมันคืออะไร??
  •  

Breaking News

‘ศศิกานต์’ยัน‘พีระพันธุ์’ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหา

แฉทุจริตจตุจักร! ‘สุดารัตน์’เปิดข้อมูลส่อเอื้อเอกชน ‘ค่าเช่าพุ่ง-ห้องน้ำพัง’ จี้‘ป.ป.ช.’เร่งสอบ

‘นฤมล’ลั่นมีเงินทุนก้อนแรก 1 แสนล้าน ตั้ง‘สหกรณ์ สกสค.’คาด 3 เดือนครูลงทะเบียนได้

สาวLGBTQ+แสบ! 'หลอกตีสนิทชาวจีน' ออกอุบายขอไปห้อง-ก่อนกวาดทรัพย์เกลี้ยง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved