‘หมอตุลย์’ไขข้อข้องใจ แพทย์ตั้งใจรักษา‘ทักษิณ’ทำไมถูกลงโทษด้วย
1 มิถุนายน 2568 นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่บทความ ระบุว่า...
แพทย์ตั้งใจรักษาทักษิณ ทำไมต้องถูกลงโทษด้วย?
ภายหลังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภา วีโต้มติแพทยสภา และนายทักษิณ ชินวัตรพูดเรื่องจริยธรรมของแพทยสภา ทำให้หมู่แพทย์ และประชาชนที่รักความถูกต้องจำนวนมากได้รวมตัวกันส่งเสียงสนับสนุนแพทยสภาให้ลงมติยืนยันมติลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลพิพากษาจำคุก 8 ปี ในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น 3 คดี ในการประชุมแพทยสภาวันที่ 12 มิ.ย. 68 ที่จะถึงนี้
หลายคนสงสัยว่าแพทย์รักษาคนไข้ (นายทักษิณ ชินวัตร) ทำไมต้องถูกลงโทษถึงขั้นพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้วย?
คำตอบคือ มันไม่ใช่การรักษาที่ถูกต้องตามมาตรฐานการรักษา และมีการออกความเห็นทางการแพทย์อันเป็นเท็จ แพทยสภาจึงมีมติลงโทษแพทย์ทั้งสามท่าน (และอาจมีอีกหลายท่านตามมาด้วย)
แล้วมันผิดมาตรฐานการรักษาตรงไหน?
และเรื่องไหนที่เป็นเท็จ?
หลายท่านคงจำได้ว่าโรคที่ถูกอ้างว่าทักษิณป่วยวิกฤต คือโรคเส้นเอ็นรอบหัวไหล่เปื่อยยุ่ย จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการส่องกล้องผ่าตัด เจาะ 4 รู (เป็นข้ออ้างที่ต้องรับตัวไว้รักษาในรพ.ตำรวจจนครบ 180 วัน โดยไม่ต้องกลับเรือนจำแม้แต่วันเดียว)
แล้วมันผิดมาตรฐานการรักษาตรงไหน?
ในเรื่องนี้ แพทยสภาได้ปรึกษาถามความเห็นจากราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้โดยเฉพาะ ได้ให้ความเห็นว่า แม้โรคเอ็นรอบหัวไหล่เสื่อม (Degeneration) อาจรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง เย็บซ่อมแซมเอ็นที่เสื่อมสภาพตามอายุ แต่หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว อยู่ในภาวะวิกฤต การผ่าตัดนี้อาจทำให้โรคอื่นๆเช่นโรคหัวใจกำเริบทรุดหนักลงได้ จึงเป็นข้อห้ามในการผ่าตัด ต้องเลื่อนการผ่าตัดไปอย่างน้อย 6 เดือน การที่แพทย์รพ.ตำรวจทำการผ่าตัดส่องกล้องดังกล่าว ทั้งๆที่ทักษิณเพิ่งมีอาการป่วยวิกฤตเมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 จึงเป็นการผ่าตัดที่ผิดมาตรฐานการรักษา อีกทั้งการผ่าตัดแบบนี้ตามปกติ หลังผ่าตัดพักฟื้นไม่กี่วันก็สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
แพทยสภาจึงใช้ความเห็นจากราชวิทยาลัยฯเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินพักใบอนุญาตฯ แพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะออกใบแสดงความเห็นทางการแพทย์ว่า จำเป็นต้องรับการผ่าตัด และจำเป็นต้องรับไว้รักษาตัวต่อเนื่องในรพ.ตำรวจเพิ่มอีก 60 วัน จนครบ 180 วันในวันที่ 17 ก.พ. 67 และวันรุ่งขึ้น นายทักษิณ ชินวัตรได้รับการอนุมัติพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเดินทางกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องกลับเรือนจำ
นั่นคือทักษิณ ไม่ได้รับโทษจำคุกแม้แต่วันเดียว
จริงๆแล้ว แพทย์ทั้งสองท่านที่ถูกพักใบอนุญาตฯ ไม่ได้เป็นแพทย์ผู้ทำผ่าตัดดังกล่าว เพราะแพทย์ทั้งสองท่านนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมประสาท (ผ่าตัดสมอง) แต่ที่ถูกแพทยสภามีมติลงโทษ เพราะทั้งสองคน เป็นผู้บริหารรพ.ตำรวจ และส่งความเห็น (อันเป็นเท็จ) ไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์
แพทย์ที่ทำผ่าตัดเป็นใคร ทำไมแพทยสภาไม่ได้สอบสวน และมีมติลงโทษ ตรงนี้ผู้เขียนก็ไม่ทราบรายละเอียด แต่อนุมานจากที่แพทย์ผู้บริหารต้องส่งความเห็นทางการแพทย์ไปนังอธิบดีราชทัณฑ์เอง แสดงว่า แพทย์ผู้ผ่าตัดไม่ยอมเซ็นใบรับรองแพทย์ (อันเป็นเท็จ) ว่าทักษิณต้องรักษาตัวในรพ.ตำรวจต่อเป็นเวลานานถึง 60 วันหลังการผ่าตัด ซึ่งผิดมาตรฐานการรักษาที่กล่าวไว้ข้างต้น
ขั้นตอนต่อไป แพทยสภาจะมีการประชุมในวันที่ 12 มิ.ย. 68 ที่จะถึงนี้ เพื่อยืนยันมติเดิม แต่คนที่ตึงเครียดที่สุด กลับไม่ใช่แพทย์ที่จะถูกลงโทษ
กลับกลายเป็นคนที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี