วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'อิ๊งค์’ร้องเพลงชาติปลุกคนไทยสามัคคี ท่องคาถา‘สันติวิธี’ ทำเป็นขึงขังกลางวงครม.

'อิ๊งค์’ร้องเพลงชาติปลุกคนไทยสามัคคี ท่องคาถา‘สันติวิธี’ ทำเป็นขึงขังกลางวงครม.

วันพฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องบก แถลงการณ์ ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาสันติวิธี ร้องเพลงชาติปลุกคนไทย แนวหน้าออนไล์
  •  

'อิ๊งค์’ร้องเพลงชาติปลุกคนไทยสามัคคี
ท่องคาถา‘สันติวิธี’
ทำเป็นขึงขังกลางวงครม.
หยุดปล่อยข่าวแทงกันเอง
‘อ้วน’ฉุนข่าวเบรกปิดด่าน
มทภ.1ตรวจความพร้อมรบ


รัฐบาลแถลงการณ์ปมชายแดนไทย-เขมร ย้ำปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาสันติวิธี-ยึดก.ม.ระหว่างปท.ย้ำใช้เวทีเจบีซีเคลียร์ข้อขัดแย้ง นายกฯขึงขังกลางครม. คนไทยต้องรวมเป็นหนึ่ง อย่าทิ่มแทงกันเอง บ้านเมืองต้องมาก่อนการเมือง แถลงย้ำซ้ำๆ ใช้สันติวิธีแก้ ไม่เชื่อมีขบวนการสมคบคิดขยาย ปมร้อนหวังผลการเมือง ร้องเพลงชาติ “ไทยรักสงบ แต่รบไม่ขลาด” ปลุกคนไทยสามัคคี ลั่นเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ถ้าสันติวิธีไร้ผล ยอมรับสัมพันธ์ฉันท์มิตรคนสนิทฮุนเซน แต่ไม่ยอมให้เพื่อนเผาบ้าน ขณะที่ “บิ๊กอ้วน”ฉุนปัดข่าวนายทหารเขมรโทรเคลียร์ปิดด่าน ลั่นเลอะเทอะ มท.ส่งหนังสือแจ้งผวจ.7จว.ชายแดนเข้ม 4 แนวทางปฎิบัติช่วงชายแดนตึงเครียด

เมื่อเวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลออกแถลงการณ์ “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” โดยรัฐบาลขอยืนยัน จากเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่ช้องบก จ.อุบลราชธานี รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตย และคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม


รบ.แถลงการณ์ย้ำยึดสันติวิธี

แถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาโดยสรุปว่า หลังเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายหารือใกล้ชิตทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้พูดคุยกันด้วยความห่วงใยสถานการณ์ ผลจากการพูดคุยรัฐบาลทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า จะร่วมมือกันทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ ไม่ลุกลามบานปลาย และเห็นพ้องที่จะใช้กลไกทวิภาคีต่างๆที่มีอยู่แก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือ กลไก JBC ไทยและกัมพูชามุ่งมั่นแก้ปัญหาโดยสันติวิธีบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาและความตกลงต่างๆ เช่น MOU 2543 และข้อมูลหลักฐานรวมถึงภาพถ่ายดาวเทียม และไทยพร้อมเจรจากัมพูชาผ่านกลไกระดับทวิภาคีที่มีอยู่ เช่น JBC การประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม ซึ่งกัมพูชาตอบรับตามคำขอ และเป็นเจ้าภาพประชุมวันที่ 14 มิถุนายน ที่กัมพูชา

ยันสถานการณ์ชายแดนสงบเรียบร้อย

“รัฐบาลขอยืนยันว่า ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาทั่วไปสงบเรียบร้อย รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเต็มที่ตามขั้นตอนปกป้องอธิปไตยของไทยและรักษาสิทธิทางกฎหมายของไทยอย่างครบถ้วน และเชื่อมั่นว่าไทยและกัมพูชาสามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้บนพื้นฐานการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนบริเวณชายแดนรวมถึงความเป็นครอบครัวของสมาชิก”อาเซียน”ด้วยกัน”แถลงการณ์ระบุ

‘นายกฯ’ยังไม่ได้คุยผู้นำเขมร

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดนไทย- กัมพูชา บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีได้หารือกับผู้นำกัมพูชาหรือยังว่า ยัง จะนำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ด้วย

ปลุกคนไทยสามัคคีรบ.จะได้มีแรงเจรจา

นายกฯแถลงหลังประชุมครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้หารือสถานการณ์ชายแดน เน้นย้ำเรื่องของการรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะปัญหาทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยและคนไทยทุกคนต้องรักษาสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมืองไทยในประเทศที่เราต้องมาแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้ ทหารทำงานดีไม่ดี มันเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันและขอความช่วยเหลือจากทุกสื่อด้วย เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนกลุ่มมากหรือคนกลุ่มน้อยก็ตาม ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าเมื่อเรามีปัญหาระหว่างประเทศ

“คนไทยต้องสามัคคีถึงจะมีแรงพูดคุยเจรจาหรือต่อสู้ก็ตาม ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ความสามัคคี ความรักกันของคนในชาติ เพื่อสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ใช่แปลว่าพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชนก็คือ ประเทศไทย ซึ่งเราขอความร่วมมือจากทุกคน การแสดงความคิดเห็น การปล่อยข่าวเฟกนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ยืนยันรัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ เราต้องรักษาอธิปไตยของเราไว้ นี่คือสิ่งสำคัญและจำเป็นว่าเราต้องทำแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ร้องเพลงชาติรักสงบแต่พร้อมรับทุกรูปแบบ

และว่า รัฐบาลและทหารคุยกันตลอดว่าจะไปทางไหนอย่างไร เราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทย เพลงชาติของเราก็บอกอยู่แล้วไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เราเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยของคนไทยทุกคนแน่นอน เราเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์พร้อม เผื่อมีเหตุปะทะขึ้นมา เราก็ต้องพร้อมรับมือ ไม่ใช่มาบอกว่าเราสันติวิธี แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่ผิดคาดไม่พร้อม ไม่ได้ เราต้องพร้อมรับมือทุกรูปแบบ แต่แน่นอนว่าเราเลือกสันติวิธี เลือกไม่ให้มีการปะทะ ไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อไม่ว่าเป็นคนประเทศไหนก็ตาม

“ตอนนี้อุปกรณ์ เครื่องมือพร้อม แต่พูดคุยได้ทุกระดับ วันนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์หน้างาน และจะนัดคุยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) วันที่ 14 มิถุนายน จะพูดคุยรายละเอียด” นายกฯกล่าว

ไม่เชื่อมีขบวนการสมคบคิดจุดไฟชายแดน

และย้ำว่า แต่ระหว่างนี้ ก่อนพูดคุยกัน เราต้องคิดอยู่เสมอว่าคนในชาติเราต้องรักและเข้าใจว่าความร่วมมือนั้นสำคัญมาก แต่รายละเอียดเล็กๆที่คุยทุกระดับ เราทั้งสองฝ่ายไม่สามารถแถลงเปิดเผยทั้งหมดได้ ขอให้เข้าใจ อย่ามองเรื่องนี้เป็นการเมืองภาพเล็กที่คนไม่สนับสนุนกันต้องมาต่อสู้กัน มันไม่จำเป็นไม่ใช่นาทีนี้ วันนี้คนไทยต้องรวมกันเพื่อที่จะปกป้องพื้นที่ของเราปกป้องคนไทยด้วยกัน ตรงนี้คือสิ่งสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองหรือไม่ ขณะนี้มีขบวนการสมคบคิดไทยกับกัมพูชาจุดไฟชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง นายกฯถามกลับว่า “ขบวนการสมคบคิดกับใคร คนไทยกับกัมพูชาหรือ ตนไม่คิดอย่างนั้น คิดว่าไม่มีแบบนั้น”

ไม่เถียงเป็นมิตรกัน-ชี้ทุกคนต้องมีเพื่อน

ถามว่า นายกฯ อยากชี้แจงกรณีโซเชียลมีเดียโจมตีนายกฯถึงท่าทีที่ผ่านมา และโยงถึงคนในตระกูลนายกฯดองกับคนสนิทของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายกฯกล่าวว่า ระดับความสัมพันธ์ของผู้นำ ตนไม่เถียงว่าเป็นมิตรกัน ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่เราจะมีเพื่อน พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่าคนข้างๆเป็นเพื่อนหรือเปล่า ทุกคนมีเพื่อนได้ แต่ถามว่าถ้าวันหนึ่งเพื่อนทะเลาะกัน หรือเพื่อนไม่เข้าใจ เราปรับความเข้าใจกันถูกใช่หรือไม่ ก็คงเป็นเรื่องง่าย ถ้าสมมุติเป็นเรื่องนู้นเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องการค้าหรือเรื่องอะไรก็ตาม เรายกหูคุยตรงกันได้ นั่นคือสิ่งที่ทำตลอด ไม่เฉพาะกัมพูชาเท่านั้น ก็ทำแบบนี้กับมาเลเซียรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน

ย้ำเพื่อนคือเพื่อนแต่ไม่ปล่อยให้เผาบ้าน

“แต่ถามว่าถ้าเรามีปัญหาที่ลึกซึ้ง เพื่อนวันนี้ทะเลาะกัน ฉันขอบ้านเธอได้หรือไม่ มันไม่มีเพื่อนคนนั้นที่บอกว่าได้จ้ะ ให้บ้านกัน ไม่ใช่อย่างนั้น เราต้องบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อนความสัมพันธ์อันดีมีจริงๆ และตอนที่เกิดเรื่องความไม่สงบ ตัวดิฉันกับนายกฯกัมพูชาก็คุยกันว่า เราจะถอยความรุนแรงไม่ปะทะกัน ท่านก็ให้ความร่วมมือจริงๆ วันนั้นพอมีเรื่องเกิดขึ้น ระดับหน้างานเขาก็จัดการกันต้องทำความเข้าใจตรงนี้ด้วย” นายกฯ กล่าว

แผ่นเสียงตกร่องท่องยึด“สันติวิธี”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีรัฐบาลดูนิ่งไป ควรต้องปรับยุทธศาสตร์เชิงรุกหรือไม่ เพื่อเป็นการตอบโต้บ้าง นายกฯกล่าวว่า เราดูเรื่องความสงบสุขว่าถ้าปิดด่านชายแดนจะเกิดความรุนแรงเกิดโทษหรือคุณขึ้นหรือไม่ อย่างไร เรื่องนี้ปรึกษากับทหารมาตลอด หน้างานอุณหภูมิประมาณไหน วันนี้รัฐบาลออกแถลงการณ์ก็ได้คุยกับกระทรวงการต่างประเทศรวมถึงทหารแล้วให้ประชาชนทราบว่า เราพร้อมดูแลประชาชน และพร้อมคุยกับต่างประเทศด้วยสันติวิธี นี่คือใจความหลักที่จะเกิดขึ้น

ถามต่อว่า ท่าทีสมเด็จฮุนเซ็น และ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชาที่ออกมา ดูจะไม่สอดคล้องกับสิ่งที่นายกฯพูดว่าจะเจรจาตามลำดับ นายกฯกล่าวว่า นั่นคือสิ่งที่เราต้องยืนยัน ถ้าเขาออกมารุนแรง แล้วเรารุนแรงกลับ ถามว่าสันติวิธีจะเกิดหรือไม่ แต่ถามว่าเราเตรียมรับมือหรือไม่ เราเตรียมแน่นอน แต่ถ้าเราเลือกได้ เราเลือกสันติวิธี และวันนี้เรายังเลือกได้

ส่ง“บิ๊กอ้วน”ลงพื้นที่-สงสัยนักข่าวดุจัง

ถามถึงกรณีกัมพูชาล้ำเข้ามาในพื้นที่แล้ว 200 เมตร นายกฯย้อนถามกลับว่า ได้ไปดูหน้างานแล้วหรือยัง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แม่ทัพภาค 2 พูดชัดเจนว่ามีการรุกล้ำ นายกฯชี้นิ้ว พร้อมระบุว่า ใช่ ก่อนจะกล่าวต่อว่านายภูมิธรรมลงพื้นที่ไปดูหน้างาน พร้อมกับบอกสื่อมวลชนว่า ไปดูด้วยกันเลยก็ได้ โดยสื่อมวลชน กล่าวตอบว่า นายภูมิธรรมไม่พาไป ก่อนที่นายกฯจะร้อง “อ๋อ” และกล่าวว่า เขาไม่พาไป พร้อมกับหัวเราะและปลอบสื่อมวลชนว่า ไม่เป็นอะไร สื่อมวลชนบอกว่า ไม่เสียใจ มาถามกับนายกฯได้ ก่อนที่นายกฯ จะกล่าวว่า นึกว่าเสียใจ จะบอกว่าไม่เป็นอะไรนะ พร้อมหัวเราะ ก่อนถามสื่อมวลชนว่าเป็นอะไรหรือเปล่า นักข่าววันนี้ดุจังเลย ก่อนที่นักข่าวจะระบุว่า ไม่ได้ดุ

นายกฯขึงขังย้ำกลางครม.ปท.ต้องมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุม ครม.วันนี้ ก่อนเข้าวาระการประชุมนายกฯได้พูดกับครม.ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังอย่างที่ไม่เคยเห็นในที่ประชุมครม.มาก่อน โดยใช้เวลาพูด 3 นาทีว่า ในสถานการณ์นี้คนไทยต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาของประเทศชาติ ไม่ใช่ปัญหาของพรรคการเมือง ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องการเมืองต้องมาทีหลังบ้านเมือง เรื่องการเมืองกับเรื่องบ้านเมืองต้องแยกกัน การให้ข่าวลักษณะที่ทิ่มแทงกันเอง การปล่อยเฟกนิวส์ เท่ากับเป็นการทำลายชาติทำลายประเทศ ต้องช่วยกันดูแลความรู้สึกประชาชน ดังนั้น ขณะนี้ขอให้รวมกันเป็นหนึ่ง คนไทยต้องผนึกกำลังกัน ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ ทหารดำเนินการอยู่ ซึ่งดำเนินการได้ดี

ย้ำจุดยืนรบ.ตัดตอนไม่ให้ถึงศาลโลก

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายรัฐมนตรีและรมว. กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลออกแถลงการณ์แก้ปัญหาชายแดนกัมพูชาว่า แถลงการณ์ดังกล่าวย้ำจุดยืนรัฐบาล จุดยืนอธิปไตยของประเทศ ยึดมั่นในบูรณภาพเหนือดินแดนไทย สิทธิทางกฎหมายของไทย และแก้ปัญหาโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลดำเนินการไปตามขั้นตอนและข้อเท็จจริงที่รับรู้ เราไม่ได้ทำตามอารมณ์ หรือความต้องการของใคร แต่ดำเนินการภายใต้การปกป้องของอธิปไตย

“บางเรื่องเราไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเขาพยายามขยายวงไปถึงศาลโลก เราพยายามจะจำกัดวงไม่ให้ไปถึงจุดนั้น เราจะพูดเฉพาะจุดปะทะ และยึดเอ็มโอยู 43 เนื่องจากง่ายในการหาข้อสรุปร่วมกันได้ ขณะนี้สิ่งที่เกิดปัญหาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ส่วนพื้นที่อื่นยังไม่มีอะไรรุนแรง เราอย่าไปเล่นเกมตามเขา จะกลายเป็นประเด็นที่นานาชาติเข้ามา และเรามั่นใจในจุดยืนของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ เรื่องนี้สำคัญจะกระทบเอกราชและดินแดนของไทย ไม่อยากให้ขยายวงกว้าง”นายภูมิธรรมกล่าว

รอผลถกเจบีซีอย่าข้ามขั้น-เบรกปลุกปั่น

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า สิ่งที่เราคุยกับกัมพูชา และนายกฯไทยได้คุยกับนายก ฯกัมพูชา ตนก็พูดคุยกับรองนายก ฯ กัมพูชา ทุกฝ่ายยอมรับแล้วว่าวันที่ 14 มิถุนายน จะประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) เขตแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เราควรคิดไปทีละขั้น หากการประชุมในครั้งนี้หาข้อยุติไม่ได้ ก็ต้องดูว่ามีกลไกอะไรอีก ยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมการไว้แล้ว ในการต่อสู้ด้านกฎหมาย การเจรจาร่วมตามกลไกต่างๆ และหากจำเป็น ทหารเตรียมการในแนวหน้าไว้หมดแล้ว ไม่อยากให้มีการปลุกปั่นหรือตำหนิกัน ซึ่งวันนี้แกนนำฝ่ายค้านก็มีโทนเสียงที่ดีขึ้น ไม่ใช่พูดตามอารมณ์และเอามันส์ เพราะเรื่องนี้ผิดพลาดนิดเดียวเสียหายใหญ่หลวง

อุบไต๋แผนแก้ปัญหา-พูดมากทำเจรจายุ่งยาก

“เราอยากได้เสียงสนับสนุนจากประชาชน เหมือนที่กัมพูชาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชนของประเทศเขาเอง อยากให้เสนอแนวทางแก้ปัญหา ไม่ใช่มานั่งตำหนิรัฐบาล ขณะเดียวกันการปิดด่านมีขั้นตอนวิธีการอยู่ ไม่ใช่ปิดไปทั่ว ไม่อยากไปพูดว่าเราดำเนินการขั้นตอนไหนบ้าง เพราะไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ อย่าไปอยากรู้มาก เพราะการเปิดเผยมากเกินไปก็จะสร้างความยุ่งยากในการเจรจา”นายภูมิธรรมกล่าว

ใช้น้ำเย็นเข้าลูบก่อน-แต่พร้อมหมดแล้ว

ถามว่ากระแสประชาชนไม่พอใจท่าทีนายกฯและนายภูมิธรรม นายภูมิธรรมกล่าวย้ำว่า เราอยากลดความขัดแย้งไม่อยากยกระดับไปสู่ปัญหาระดับโลก ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาอีกมากมาย จะเรียกว่าเราใจเย็นก็ได้ เขา กำลังร้อนเราก็เอาน้ำเย็นลูบ หากมองว่าเราไม่แสดงท่าทีก็พูดได้ แต่ในทางปฏิบัติเตรียมไว้หมดแล้ว ยืนยันมีความเข้าใจอันดีกับกองทัพ รวมถึงพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 คุยกันตลอด ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา วันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลมาโต้แย้งกัน เรามีจุดยืนเจรจาเรื่องสันติ หาอนาคตจะนำไปสู่ความรุนแรง บรรทัดสุดท้ายเราก็พร้อมหมด

มติครม.ย้ำไทยไม่รับอำนาจศาลโลก

เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเตรียมไว้ ไม่มีประเด็นนำไปสู่ศาลโลกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มติครม.ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน 12 มีนาคม 2567 ยืนยันมีหนังสือลงวันที่ 19 มีนาคม 2567 แจ้งให้หน่วยราชการทุกหน่วยทราบ ให้ถือเป็นข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ ให้ทำข้อกำหนดไว้ว่า “ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลไอซีเจ (ศาลโลก) ในทุกเรื่อง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ”ชัดเจนอยู่แล้ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ต้องถามเลยประเด็นนี้ ไม่อยากนำเรื่องนี้มาพูดให้กระจายไป ประชาชนพยายามทำความเข้าใจ และปฎิเสธว่าไม่มีความคิดปลดแม่ทัพภาคที่ 2 นี่คือการปลุกปั่นให้ประชาชนระแวงแทงใจ ย้ำว่าเรื่องนี้สำคัญ และกระทบเอกราชอธิปไตยถ้าเราเดินไม่ดี เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงคราม เพราะเห็นแก่ประชาชน รวมถึงทหารที่ดูแลปกป้องอธิปไตย

รอดูแผนที่ทางอากาศปมเขมรล้ำแดน200ม.

ผู้สื่อข่าวถามย้ำมีข้อมูลชัดเจนว่าทหารกัมพูชาล้ำมาในเขตแดนไทย 200 เมตร เป็นที่มาของการเสนอปิดด่าน เพื่อกดดันให้ออกจากจุดนั้น แต่มีการสั่งให้ชะลอไว้ก่อน ทำให้ไทยเสียเปรียบกัมพูชาไปแล้ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ด่านต่างๆยังไม่ได้ได้รับผลกระทบ และใช้มาตรการเบาไปหาหนัก ถามย้ำว่าทหารเสนอปิดด่าน เพื่อกดดันทหารกัมพูชาที่ล้ำเข้ามา 200 เมตรให้ออกไป รมว.กลาโหมบอกว่า เรื่องนี้มีกระบวนการอยู่ ต้องเอาหลักฐานทางอากาศมาชี้แจงกันจึงจะตอบโจทย์ทุกอย่าง ให้รอ ไปดูในเวทีเจบีซี

นายภูมิธรรมยังชี้แจงอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่และไม่ได้ทำให้กัมพูชาย้ำได้เปรียบไทยแล้ว ล้ำหรือไม่ล้ำมันมีแผนที่อ้างสิทธิ์ในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างประกาศอาณาเขต ฝ่ายไหนเป็นคนละเมิด กลไกในเอ็มโอยู 43 จะดำเนินการเอง ในแนวหน้ายังไม่ไปสู่จุดปะทะกัน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันกับตน เราอยู่ในจุดที่เขาล้ำเข้ามาในไทยไม่ได้เด็ดขาด แต่จุดที่เป็นปัญหาอยู่ เป็นจุดที่อยู่ในจุดที่อ้างสิทธิ์กัน

บิ๊กกองทัพตรวจความพร้อม

วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวฝ่ายกองทัพ โดย เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก Royal Thai Army” โพสต์ข้อความระบุ “The best armor of the army” หมัดเด็ด กองทัพบก พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 ตรวจความพร้อมรบ กองพันทหารม้าเฉพาะกิจ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ตามแผนเผชิญเหตุของ ทบ.ที่กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ “Home of tanker” จ.สระบุรี ซึ่งพล.ม.2รอ.ถือเป็นหน่วยรถถังที่สมบูรณ์แบบที่สุดหน่วยหนึ่งของกองทัพบกไทย ทั้งนี้ เหล่า tanker แสดงความพร้อมรบ และ สง่างาม เพื่อชาติและราชบัลลังก์

แจ้งผวจ.7จว.ชายแดนเข้ม4แผนปฎิบัติ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครองมีหนังสือด่วนที่สุด กำชับแนวทางการปฏิบัติงานในสถานการณ์ตามแนวขายแดนไทย - กัมพูชา ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ประกอบด้วย ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ กำชับปฎิบัติตาม 4 แนวทางช่วงที่สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรตึงเครียด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ตะเพิด‘อิ๊งค์’ ‘เจิมศักดิ์’จี้เห็นแก่ชาติ ยุติหน้าที่‘ผู้นำประเทศ’ ตะเพิด‘อิ๊งค์’ ‘เจิมศักดิ์’จี้เห็นแก่ชาติ ยุติหน้าที่‘ผู้นำประเทศ’
  • ‘ภูมิธรรม’ย้ำยึดเจรจาสันติ มั่นใจ‘กองทัพ’ไม่เป็นชนวนรัฐประหาร โต้นอบน้อม‘เขมร’ ‘ภูมิธรรม’ย้ำยึดเจรจาสันติ มั่นใจ‘กองทัพ’ไม่เป็นชนวนรัฐประหาร โต้นอบน้อม‘เขมร’
  • \'บิ๊กอ้วน\'ย้ำปกป้องอธิปไตย-ไม่ทำเสียประโยชน์ในประเทศ-เพื่อนบ้าน เหตุยังจำเป็นต้องร่วมมือกันอีก 'บิ๊กอ้วน'ย้ำปกป้องอธิปไตย-ไม่ทำเสียประโยชน์ในประเทศ-เพื่อนบ้าน เหตุยังจำเป็นต้องร่วมมือกันอีก
  • รื้อใหญ่! ‘ภูมิใจไทย’เสนอ‘2 สูตร’ล้างไพ่‘ปรับครม.’ คาดตั้งโต๊ะเคาะดีล มิ.ย.นี้ รื้อใหญ่! ‘ภูมิใจไทย’เสนอ‘2 สูตร’ล้างไพ่‘ปรับครม.’ คาดตั้งโต๊ะเคาะดีล มิ.ย.นี้
  • ‘อิ๊งค์’ยัน‘รัฐบาล- กองทัพ’เป็นเอกภาพ ยันไม่มีใครทำงานช้า ยึด‘สันติ’ไม่ปะทะ‘เขมร’ตามแรงเชียร์ ‘อิ๊งค์’ยัน‘รัฐบาล- กองทัพ’เป็นเอกภาพ ยันไม่มีใครทำงานช้า ยึด‘สันติ’ไม่ปะทะ‘เขมร’ตามแรงเชียร์
  • ทีข้าเอ็งอย่าโวย! ยุ‘ภูมิใจไทย’เอาคืน มหาดไทยแลกคมนาคม ตลบหลัง‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ทีข้าเอ็งอย่าโวย! ยุ‘ภูมิใจไทย’เอาคืน มหาดไทยแลกคมนาคม ตลบหลัง‘ทักษิณ-เพื่อไทย’
  •  

Breaking News

เจ้าของสไลเดอร์บ้านลมพ้นผิด หลังเกิดอุบัติเหตุจนเด็กเสียชีวิต 6 ราย

‘นายก อบต.เกาะกูด’ไม่หวั่นทหารกัมพูชาซ้อมรบ เตือนกระสุนตกฝั่งไทยอาจเกิดขัดแย้ง

​‘โฆษก ภท.’ปัดข่าว! ‘ภูมิใจไทย-รทสช.’นัดกินข้าว คุย‘ปรับ ครม.’

(คลิป) 'บิ๊กเล็ก' เปิดลิสต์! อาวุธ-ยุทโธปกรณ์ 'คนไทย' ผลิตได้เอง ปืนใหญ่-จรวดหลายลำกล้อง ฯลฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved