สะพัด!ข้อต่อรอง‘ภูมิใจไทย’

เซตซีโร่ยกชุด

ขอคุม‘พลังงาน’ถ้ามท.ถูกยึด

‘เพิ่มพูน’ฟังนายกฯคนเดียว

‘ภูมิธรรม’ไม่รู้ใครถูกปรับบ้าง

รอ‘อิ๊งค์’เคาะต้องให้เวลาคิด

เปิดข้อต่อรอง“ภูมิใจไทย”ย้ำจุดยืน“เซตซีโร่”รื้อ“ปรับครม.”ดีลโควตาใหม่ ยกคณะสู้กลับ‘พท.’ยึดทวง‘มท.‘คืนขอแลกคุม‘พลังงาน’ให้สมน้ำสมเนื้อ‘ภูมิธรรม’ยันไม่มีใครรู้เรื่อง‘สลับเก้าอี้’เป็นอำนาจ‘นายกฯ’ระบุต้องให้เวลา‘อิ๊งค์’คิดปรับครม.‘จุลพันธ์’ไม่ได้รับสัญญาณปรับครม.เชื่อนายกฯพิจารณารอบด้าน มั่นใจไร้รอยร้าวในรบ. ‘เพิ่มพูน’ไม่เชื่อโผปรับครม.หลุด ยันไม่ตื่นตระหนก

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)หลังเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาว่าตำแหน่ง รมว.มหาดไทย จะสลับมาเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยจะให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมขยับมาเป็นรมว.มหาดไทยแทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่จะสลับไปเป็นรองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ

ภท.ย้ำจุดยืนเซตซีโร่-รื้อปรับใหม่

ด้านแหล่งข่าวฯระบุว่าได้มีการพูดคุยเบื้องต้นระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยซึ่งจุดยืนของพรรคเพื่อไทยคือการยึดคืนเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย ขณะที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจุดยืนให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในรูปแบบเซตซีโร่คือเจรจาโควตากับพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ทั้งหมด

“หากพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยก็จำเป็นต้องนำกระทรวงที่อยู่ในระดับเดียวกันมาแลกเปลี่ยนเพื่อทดแทนโควตาในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเช่นกระทรวงพลังงานยืนยันว่าไม่มีการแลกโควตากระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ อย่างที่มีข่าวก่อนหน้านี้”แหล่งข่าวฯ ระบุ

‘ภูมิธรรม’ไม่มีใครรู้เรื่อง‘สลับเก้าอี้’

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโยกไปนั่งรมว.ศึกษาธิการโดยพรรคเพื่อไทย(พท.)จะยอมเสียเพิ่มอีก1กระทรวงให้พรรค ภท.มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ทุกคนไม่ได้หวั่นไหว หรือบอกว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน เพราะเราต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำจนกว่าจะมีคำสั่งหรือมีการปรับที่เป็นจริงเกิดขึ้น ตรงนั้นก็ต้องมีการแจ้งหรือพูดคุยกัน

“ยืนยันว่ารัฐมนตรีของเราทั้งหมดโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยไม่มีอะไรหวั่นไหว ข่าวนี้ถ้าเราไปตามอย่างที่คาดการณ์เราก็จะเหนื่อย อย่างตนตอนแรกมีข่าวว่าจะไปอยู่กระทรวงมหาดไทยให้ได้เลยจนหลายคนคิดว่าตนจะไม่ได้ทำงานที่กระทรวงกลาโหมแล้ว จนตนต้องบอกว่าไม่ใช่ ยังทำงานกันดีอยู่ เพราะตอนนี้ตนมีภารกิจที่ติดตลาด ก็ไปบอกว่านายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปอยู่กระทรวงมหาดไทย ไม่มีใครรู้เลยเรื่องจะสลับเก้าอี้หรืออะไร”นายภูมิธรรม กล่าวย้ำ

ต้องให้เวลานายกฯอิ๊งค์’คิดปรับครม.

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่าเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ได้นั่งรับประทานอาหารกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการเราก็คุยกันดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตนยืนยันรอนายกฯดำริ ท่านคิดอยู่ในใจ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ อันนี้ฟังจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ฉะนั้น อยู่ที่นายกฯคนเดียว ถ้านายกฯ บอกปรับ ครม. ภูมิธรรมออกไปอยู่พรรค ตนก็ต้องออก หรือภูมิธรรมย้ายไปกระทรวงไหนก็ต้องไป อยู่ที่เดิมก็ต้องทำหน้าที่ไป อยู่ที่ท่านนายกฯ

นายกฯยังไม่หารือ-ยันไม่มีเซ็ตซีโร่

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯได้มีการหารือกับนายภูมิธรรมหรือไม่ เพราะก็เป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งถ้าจะทำจริงคงมีการหารือ แต่ตอนนี้ตนเชื่อว่ายังอยู่ในภาวะที่ท่านกำลังคิดเรื่องราวข้อมูลต่างๆ อยู่ ยืนยันไม่มีหารือจริงๆ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการนั่งรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลกันก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันได้ว่า ยังไม่มี

เมื่อถามอีกว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะเป็นการเซ็ตซีโร่ตำแหน่งในรัฐบาลใหม่ทั้งหมด ไม่เหมือนข้อตกลงเดิมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นความคาดหวัง หรือเป็นการคาดเดาของประชาชน หรือของสื่อมวลชน เราไม่ได้คิดอะไรไปตามคำถามที่เพิ่มมากขึ้นมันไม่มีอะไรมันศูนย์อยู่แล้ว ยังไม่มีอะไรเพิ่ม แต่ถ้าเริ่มมีการคิด การคุย แล้วมาถามว่าจะไปตรงนั้นตรงนี้ อันนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่า ไม่มี

‘จุลพันธ์’ยังไร้สัญญาณปรับครม.

ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่าไม่มี ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆในส่วนครม.ที่เป็นอยู่ทุกคนก็ทำงานเต็มที่ และเรื่องของการปรับครม.สุดท้ายก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนจะพิจารณาอย่างไรเราเชื่อว่าจะเอาความเหมาะสมของการบริหารรัฐในการขับเคลื่อนประเทศเป็นหลัก เนื่องจากตอนนี้เรามีปัญหารุมเร้า ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีคงจะพิจารณาอย่างรอบด้านเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ในส่วนครม.เรายังไม่ได้รับสัญญาณใดๆและไม่ทราบว่านายกฯพิจารณาแล้วหรือไม่อย่างไรเลยด้วยซ้ำ

มั่นใจไร้รอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามถึงกระแสที่มีการปรับครม.แล้วจะมีการสลับกระทรวงกันโดยจะนำกระทรวงมหาดไทยกลับมาในกำกับของพรรคเพื่อไทยนั้นจะเป็นรอยร้าวอะไรหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มี ในส่วนของครม.เราก็รับฟังและมีการพบปะกันอยู่เรื่อยๆซึ่งตนได้เจอกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในวันที่มีการประชุมครม.ก็พบปะกัน ไม่มีความขัดแย้งอะไร ไม่มีประเด็นเรื่องของการสลับปรับเปลี่ยนอะไรมาพูดคุยกันเลย เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สื่อไปได้ยินมา แต่เราไม่รู้ว่าข้อสรุปสุดท้ายเป็นเช่นไร

เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลนายจุลพันธ์ กล่าวว่า“ไม่มีครับ ทำงานราบรื่นกันอยู่แล้ว เราพยายามเพราะทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันอยู่แล้วคือประชาชนที่เป็นเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ส่วนตัวไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่เป็นประเด็นเรื่องข้อขัดแย้งใดๆ“

ย้ำอำนาจนายกฯต้องให้เวลาคิด

เมื่อถามว่าเขาอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นไปได้ เป็นการขับเคลื่อนส่วนบุคคล อาจจะมองว่าแต่ละคนมีความสามารถหรือความเหมาะสมตรงไหน ซึ่งก็อาจจะคิดกันได้ แต่ในส่วนนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้เวลาท่านในการพิจารณาอย่างเหมาะสมที่สุด ส่วนรายชื่อที่ออกมาสิบกว่าโผนั้น ตนมองว่าสุดท้ายก็ต้องมีถูกสักอัน

‘ครูอุ้ม’ไม่เชื่อโผปรับครม.หลุด

ขณะที่พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสการปรับครม.หลุดมาว่าจะมีการสลับตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงกระแสการพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ของ พล.ต.อ.เพิ่มพูนจะไม่ขอรับเก้าอี้ในกระทรวงอื่นอีกนั้นว่าอย่าไปคิดอะไรมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และ ตนก็ยังไม่เคยได้ยินว่าทางพรรคคุยถึงเรื่องนี้

ย้ำต้องฟังจากนายกฯคนเดียว

เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คุยเรื่องนี้กับท่านรมว.ศธ.หรือยัง พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ฟังจากนายกฯคนเดียว ต้องฟังจากนายกฯคนเดียว เพราะว่าการดำเนินการไม่ใช้การปฏิวัติที่จะไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เรื่องระบบประชาธิปไตยก็ต้องมีการพูดคุยกัน และฟังจากท่านนายกฯคนเดียวฉะนั้นอย่าไปตื่นตระหนกอะไรต่างๆที่ไม่ใช้เหตุ ทุกอย่างให้ทำด้วยสติและปัญญา มีสติ มีปัญญา ในการกำกับในการทำงาน เรื่องพวกนี้คงไม่มีหลุดออกมา