‘ภูมิใจไทย’เสนอ2สูตร‘ล้างไพ่’

ปรับใหญ่ครม.

ขอคุม‘คมนาคม-เกษตรฯ-พาณิชย์’

คาดตั้งโต๊ะเคาะดีลมิถุนายน

‘อนุทิน’ย้ำรอฟัง‘อิ๊งค์’เท่านั้น

‘พท.’เชื่อปรับไร้แรงกระเพื่อม

“อนุทิน” ย้ำ ปรับครม.ยังไม่มีการพูดคุย-เกริ่นนำ-ติดต่อมา ชี้ต้องหารือระดับ“หัวหน้าพรรค” ย้ำต้องฟังนายกฯ ด้าน“สส.ภท.” นั่งไม่ติด ชง 2 สูตรปรับครม.ให้ ‘อนุทิน’เอาไปดีล‘พท.-พรรคร่วมฯขอรื้อใหญ่ แลก‘คมนาคม’กับยึด ‘เกษตรฯ-พาณิชย์’คาดเปิดโต๊ะเจรจามิถุนายนนี้ ‘สมคิด’เชื่อปรับครม.ไร้แรงกระเพื่อม

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวหลุดจากรมว.มหาดไทย ไปนั่งรมว.ศึกษาธิการ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้นว่า วันนี้ ตนอยู่เจนิวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาประชุมเรื่องลดความเสี่ยงอุบัติภัย ยังไม่ได้พูดคุย หรือมีการติดต่อจากใครเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นตนคิดว่าเราต้องฟังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องการหารือโครงสร้างใดใดของคณะรัฐมนตรี ก็ต้องมีการหารือในระดับหัวหน้าพรรค ซึ่งตอนนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เรียกประชุมใดใดทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า แสดงว่าข่าวที่ระบุออกมาว่า พรรคภูมิใจไทยยอมแล้ว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่มีการคุยยังไม่มีมีการติดต่อ ยังไม่มีการเกริ่นนำทั้งสิ้น ตนพบนายกฯ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้คุยอะไร คุยแต่เรื่องงาน ยังลามาประชุมภัยพิบัติ มาแสวงหาความร่วมมือจากประเทศต่างๆ มีเรื่องที่ควรจะคุยและเป็นประโยชน์กับประชาชน ต่อประเทศไทยตั้งมากมาย ทุกคนก็มาทำงานกัน เป็นประโยชน์ และเป็นศักดิ์ศรีของประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องระบบการเตือนภัย เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เราก็มาพูดว่าขนาดเรามีระบบเซลล์บอร์ดแคสและกำลังพัฒนาให้ละเอียดมากกว่านี้ สัมภาษณ์เรื่องนี้จะได้มีประโยชน์ ประชาชนฟังก็จะได้มีความมั่นใจ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงภัยพิบัติ ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม

‘ภท.ชง2สูตรปรับครม. ให้‘หนู’ดีล

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสการปรับครม.หลังจากก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่า พรรคเพื่อไทย จะขอกระทรวงมหาดไทย คืนจากภูมิใจไทยขณะที่พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอให้รื้อใหม่ทุกกระทรวง ต่อมา มีรายงานว่า นายอนุทิน จะหลุดจากรมว.มหาดไทย เปลี่ยนไป คุมกระทรวงศึกษาธิการแทน ด้าน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ จะไม่ขอรับตำแหน่งใดอีก โดยพรรคเพื่อไทย เสนอเก้าอี้ให้ภูมิใจไทยเพิ่มอีก 1 กระทรวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด บรรดาสส.พรรคภูมิใจไทย ได้หารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อกระแสข่าวดังกล่าว โดยจะนำข้อหารือ ไปเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อไปเจรจากับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยข้อเสนอแบ่งเป็น 2สูตร จำนวน 8ตำแหน่ง โดยสูตรที่1 ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม รมว.สาธารณสุขและรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นข้อเสนอแรกในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งข้อเสนอนี้พรรคภูมิใจไทยยอมลด รมว.1ตำแหน่ง แต่มีเงื่อนไขกำกับดูแลการบริหารทั้ง 3กระทรวง100% โดยรัฐมนตรี 7คน ของภูมิใจไทย จะรับผิดชอบ 3กระทรวง กรณีที่ 2.รองนายกฯ กำกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ(สทนช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยพรรคภูมิใจไทย รับงานเศรษฐกิจ ดูแลเกษตรกร การเจรจาการค้าระหว่างประเทศและงานพัฒนาและแก้ปัญหาระบบน้ำ ทั้งระบบ ซึ่งพรรคมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้ทันที ทั้งนี้ ยังต้องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยและทำงานยกระดับภาคเกษตรให้ก้าวทันเทคโนโลยีมากที่สุด

‘สมคิด’เชื่อปรับครม.ไร้แรงกระเพื่อม

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่า เชื่อว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างแน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ยอมรับตรงกัน ว่าเป็นอำนาจของนายกฯ จึงมั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกท่านจากทุกพรรคย่อมพร้อมที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา และตอบสนองความต้องการของประชาชน สำหรับร่าง พรบ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้านั้น ก็เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะร่วมกันผลักดัน เพราะไม่เพียงกฎหมายนี้เสนอในนามรัฐบาลที่ทุกพรรคร่วมกันผลักดัน ไม่ไช่ของพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นนโยบายรัฐบาลที่ทุกพรรคเห็นร่วมกัน เพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน

‘เทพไท’ยุคืนมหาดไทยแลกคมนาคม

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท คุยการเมือง ระบุว่าสำหรับกระแสข่าวการปรับครม.เริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วมีข่าวหนาหูมากยิ่งขึ้น มีทั้งข่าวปล่อย ข่าวจริง ข่าวลวง ข่าวโยนหินถามทาง แต่ตอนนี้ค่อนข้างจะชัดเจนแล้ว ถ้าดูจากกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยึดคืนกระทรวงมหาดไทยจากพรรคพรรคภูมิใจไทย ยังมีกระแสข่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยินยอมโดยตั้งเงื่อนไขว่า 1.ต้องปรับใหญ่ โละกันใหม่ มาเคลียร์กันใหม่ จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆกันใหม่ 2.จะต้องแลกกระทรวง ถ้ายึดกระทรวงมหาดไทยไป ก็ต้องเอากระทรวงเกรด A มาแลกกันเพื่อให้สมน้ำสมเนื้อ

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ถ้าพิจารณาดูท่าทีเช่นนี้ แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยยอมตามเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์ว่า พรรคภูมิใจไทยคงยอมไม่ได้ เพราะดูท่าทีจากนายอนุทิน ชาญวีรกุล ที่เคยตอบนักข่าวมาก่อน เรื่องการที่จะยึดคืนกระทรวงมหาดไทยของพรรคเพื่อไทยนายอนุทินเคยบอกว่า ถ้าจะยึดกระทรวงมหาดไทยก็ต้องออกแรงหน่อย แต่ตอนนั้นเป็นเพียงกระแสข่าว แต่ตอนนี้เมื่อนายทักษิณ ชินวัตร ออกมายืนยันเองว่าจำเป็นต้องเอากระทรวงมหาดไทยคืน เพื่อมาสร้างผลงานให้กับรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ทำให้เสียง นายอนุทิน ก็อ่อนลง พรรคภูมิใจไทยก็ดูเหมือนจะสยบยอมต่อความต้องการของพรรคเพื่อไทย โดยตั้งเงื่อนไขว่า ต้องนำกระทรวงเกรดAมาแลก

เชื่อ’อนุทิน’ไม่ยอม’เพื่อไทย’ง่ายๆ

นายเทพไท กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า 1.พรรคภูมิใจไทยยังไม่พร้อมที่จะแตกหักกับพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ถ้าพร้อมแตกหัก คงจะยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ยอมแลกแน่นอน แตกเป็นแตก หักเป็นหนัก พังเป็นพัง ยุบสภาเป็นยุบสภาไปเลือกตั้งกันใหม่ใหม่ 2.อาจเป็นเพราะเหตุผลจำเป็นบางอย่าง ที่จำเป็นจะต้องจับมือกันต่อ ประเภทหวานอมขมกลืน หรือประเภทกลืนเลือด จำเป็นต้องอยู่ต่อ ถ้าแตกหักยุบสภาไปก็บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย 3.อาจจะเป็นกลลวงของพรรคภูมิใจไทย ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยได้ใจไปก่อน แล้วค่อยตีตลบหลัง เอาคืนในภายหลัง ลักษณะทีเองข้าไม่ว่า แต่ทีข้าเอ็งอย่าโวย ถ้าหากว่าผมเป็นพรรคภูมิใจไทย เมื่อพรรคเพื่อไทยยึดกระทรวงมหาดไทยคืน กระทรวงที่จะแลกกันได้มีกระทรวงเดียว คือกระทรวงคมนาคม ที่พรรคภูมิใจไทยเคยรับผิดชอบดูแลมาก่อนนอกจากนั้นกระทรวงอื่นเป็นลักษณะกระทรวงเกรดAก็จริง แต่ยังไม่สมน้ำสมเนื้อ ถ้าเอากระทรวงอื่นมาแลกกับกระทรวงมหาดไทย ต้องแลกกันในอัตราส่วนหนึ่งกระทรวงต่อ 2กระทรวง ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยคงจะไม่สยบยอมต่อพรรคเพื่อไทยแบบง่ายๆหรอกครับ