"วรวัจน์"ชี้อำนาจ"นายกฯ"ปรับ ครม. รมต.ไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่ตรงไหนเหมาะสม ลั่นหากจะปรับต้องมั่นใจได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอ เหตุอาจมีบางพรรคถอนตัวได้ ชี้สองปีพอแล้วที่จะเห็นวิธีคิด-การทำงานของแต่ละคน โอดถ้ายังทำงานกันแบบนี้ปัญหาชาวบ้านก็ไม่ได้แก้ไขสักที
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าพรรค ภท.ขอยึดโควตารัฐมนตรีตามข้อตกลงเดิมตอนจัดตั้งรัฐบาล ว่า การพูดเช่นนั้นสามารถพูดได้ แต่ตามหลักการแล้ว การแต่งตั้ง ครม.เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากท่านเห็นว่าการบริหารงานเกิดปัญหา ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้นั้น นายกฯ ก็จะมีอำนาจโดยตรงในการปรับ ครม.
เมื่อถามว่า หากปรับ ครม.และสลับกระทรวงจริง มองว่าในอนาคตพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายวรวัจน์ กล่าวว่า เราต้องดูก่อนว่าทำไมจึงปรับเปลี่ยน เพราะวันนี้ก็มีหลายเรื่องที่มีปัญหาในการที่จะแก้ไข เช่น ปัญหาเรื่องยาเสพติด การทำงานไม่ไปด้วยกันทั้งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องมีการแอคชั่น เมื่อแก้ไขปัญหา ก็เป็นเรื่องที่นายกฯ ก็ต้องคิดว่าจะมีการปรับอย่างไร ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้หมดอยู่แล้ว หากตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนไม่ได้ จะฝืนต่อไปก็คงจะไม่เป็นประโยชน์
เมื่อถามว่า หากต้องมีการปรับ ครม.จริง มองว่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเสียงที่สนับสนุนของรัฐบาลอาจจะหายไป แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนายกรัฐมนตรีจะปรับ ครม.ก็ต้องมั่นใจว่าจะสามารถสนับสนุนได้เพียงพอ
ถามต่อว่า หมายความว่าการปรับ ครม.อาจจะทำให้มีบางพรรคออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า เราสามารถมองได้สองทางคือเขาจะไปต่อด้วยกัน หรือจะออกไปจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค พท.นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้มีการมาพูดคุยอะไรแล้วบ้างหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยอะไรเลย เรื่องนี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการการพูดคุยในพรรค
เมื่อถามอีกว่า แล้วในส่วนของ สส.ได้มีการพูดคุยกันเองบ้างหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า มีการพูดคุยบ้างถ้าหากทำงานไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ก็จะแก้ปัญหาไม่ได้สักที และจะไปกระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาล ซึ่งนายกฯ เองต้องส่งสัญญาณว่าจะทำงานอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาให้ได้ แต่หากบอกไปแล้วยังไม่ยอมแก้ปัญหา ยังทำงานไม่ได้ ก็ต้องเป็นอำนาจและดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตัดสินใจเองว่าจะปรับ ครม.อย่างไร
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าถึงเวลาที่ต้องมีการปรับ ครม.แล้วหรือไม่ หรือควรแก้ไขปัญหาอื่นก่อน นายวรวัจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตนมอง แต่คิดว่าทุกคนมองเหมือนกันเลยว่า หากยังทำงานกันเช่นนี้ปัญหาของชาวบ้านก็จะยังไม่ได้รับการแก้ไข
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นตอนนี้ผ่านมาสองปีแล้ว ก็จะเริ่มเห็นชัดแล้วว่าตรงไหนที่สามารถทำงานได้ หรือตรงไหนที่ยังทำงานไม่ได้ ตรงไหนที่มีปัญหา เราเริ่มมองเห็นแล้ว เพราะระยะเวลาสองปีเพียงพอที่จะดูวิธีคิดและวิธีการทำงานของแต่ละคนว่าเหมาะสมกับตรงนั้นหรือไม่ ซึ่งหากทำงานแล้วไม่เหมาะสมตรงนั้นก็ต้องปรับ
"ส่วนการปรับเปลี่ยนนั้น ต้องบอกว่าคนเป็นรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเลือกว่าจะอยู่ตรงไหนได้หรือไม่ได้ การตัดสินใจอยู่ที่คนเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะเป็นคนดูว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ" นายวรวัจน์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี