จะปรับ‘ครม.’ในวันไหนก็ได้
‘เพื่อไทย’ยังโว
แค่รอสัญญาณจากนายกฯ
‘สรวงศ์’อ้างดูความมั่นคงก่อน
โพลล์เชื่อ‘พท.’ไม่กล้ายึดคืน
เก้าอี้‘มหาดไทย-เกษตรฯ’
เลขาฯเพื่อไทย ชี้จะปรับครม.วันไหนก็ได้แค่รอสัญญาณและใบสั่งจากนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ แต่ตอนนี้ชลอไว้ก่อน เพราะปัญหาอื่นมาเยอะกว่า ด้านนิด้าโพล์ไม่เชื่อเพื่อไทย จะกล้ายึดกระทรวงมหาดไทย-เกษตร ฟันธงประเด็นเทวดาชั้น 14 ทำรัฐบาลสั่นคลอน
เมื่อวันที่ 8มิถุนายน2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าการจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ขอยึดตามข้อตกลงเดิม ไม่ย้ายกระทรวง ว่า ตนยืนยันอีกครั้งว่าหากนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะปรับ ครม.จริงๆ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค พท.ซึ่งเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมาพูดคุยกันว่าจะปรับอย่างไร จะขยับเล็กหรือขยับใหญ่ ซึ่งตนเชื่อว่าสิ่งที่นายอนุทินพูดคงจะเป็นไปได้ว่านายกรัฐมนตรียังไม่ได้พูดอะไร ยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับครม. นายอนุทินตอบคำถามตามที่สื่อมวลชนถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ จะอย่างไร แต่ในเมื่อยังไม่มีสัญญาณอะไรจากนายกรัฐมนตรี นายอนุทินก็ต้องยืนยันว่าอยู่ที่เดิม เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะปรับครม.จริงๆ มองว่าจะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า ตนมองว่าอยู่ที่การพูดคุยกัน หากนายกรัฐมนตรีเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมาพูดคุยกันแล้ว และทุกคนไม่มีปัญหาในการที่จะสลับกระทรวง ทุกคนเห็นด้วยหมด ก็ไม่มีผลกระทบอะไร
ปรับครม.ก็ต้องมาคุยกัน
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า อย่างที่ตนว่าการที่นายอนุทินพูดเช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่ายังไม่ได้รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการปรับครม. แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ท่านก็ต้องตอบเช่นนี้ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วจะตอบอย่างอื่นไม่ได้ ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติในการตอบคำถามสื่อมวลชน รวมถึงนี่คือมารยาททางการเมืองของนายอนุทินด้วย
ต่อข้อถามว่า มองว่าการตอบคำถามของนายอนุทินจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ตนมองว่ายังไม่ขนาดนั้น ซึ่งหากจะกระทบก็ต่อเมื่อที่นายกรัฐมนตรีเรียกพรรคร่วมรัฐบาลมาคุย และขอปรับกระทรวงแล้ว และนายอนุทินไปตอบเช่นนั้น แบบนี้จะกระทบแน่นอน แต่ตอนนี้ที่นายกรัฐมนตรียังไม่มีการเรียกพรรคร่วมมาพูดคุยหรือยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ เรื่องการปรับครม. การที่นายอนุทินตอบคำถามเช่นนั้น ถือเป็นมารยาทที่สุภาพบุรุษ
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค พท.นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคได้มีการมาพูดคุยอะไรแล้วบ้างหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ยัง เนื่องจากช่วงนี้มีปัญหาที่ใหญ่กว่าการปรับครม. คือปัญหาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะกระทบทั้งเพื่อนบ้าน เศรษฐกิจชายแดน รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทยที่อยู่บริเวณชายแดน ตนเชื่อว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงเรื่องนี้มากกว่าการจะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยเรื่องการปรับ ครม.
โวจะปรับครม.เมื่อไหร่ก็ได้
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรค พท.มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบ้างแล้วหรือไม่ ว่า ระดับพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ส่วนระดับหัวหน้าพรรคจะคุยกันแล้วหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ตอนนี้ตนไม่อยากให้สังคมโฟกัสประเด็นการเมืองมากไป เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกำลังมุ่งทุกสรรพกำลังไปที่ปัญหาชายแดน
“ผมมองว่าวันนี้อย่าเพิ่งโฟกัสการเมือง ขอให้สังคมโฟกัสไปที่ความมั่นคงก่อน เพราะสำคัญที่สุด ณ ตอนนี้ ส่วนจะปรับ ครม.ตอนไหนเป็นอำนาจนายกฯ แล้วแต่นายกฯ จะเห็นสมควร ตอนไหนก็ตอนนั้น ผมในฐานะเลขาพรรคและรัฐมนตรี ถ้านายกฯ มีข้อสั่งการอย่างไร ผมพร้อมปฏิบัติ“ นายสรวงศ์กล่าว เมื่อถามว่า พรรคร่วมยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ตนมองว่ายังไม่มีอะไร นายกรัฐมนตรีท่านคุยกับทุกพรรคอยู่แล้ว เพราะหากจะมีการปรับ ครม.เกิดขึ้น ท่านนายกรัฐมนตรีต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยเหตุและผล ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปปรับเลย และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะเข้าใจ เนื่องจากทุกการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชน
ชั้น14ความอยูรอดของรัฐบาล
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กล้าไหม ยึดมหาดไทยและเกษตร และกรณีปมชั้น 14” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกรณีปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงการส่งผลต่อความอยู่รอดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร จากกรณีปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 29.62 ระบุว่า จะส่งผลมาก ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ รองลงมา ร้อยละ 29.31 ระบุว่า ค่อนข้างส่งผล ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ ร้อยละ 24.58 ระบุว่า ไม่ส่งผลใด ๆ เลย ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ ร้อยละ 15.73 ระบุว่า ไม่ค่อยส่งผล ต่อความอยู่รอดของรัฐบาลฯ และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความสำคัญของผลการประชุมแพทยสภา ในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 จากกรณีการลงโทษแพทย์ 3 คน ปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยหลังจากนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.27 ระบุว่า ค่อนข้างมีความสำคัญ รองลงมา ร้อยละ 26.72 ระบุว่า มีความสำคัญมาก ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสำคัญร้อยละ 16.11 ระบุว่า ไม่มีความสำคัญเลย และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
พท.ไม่กล้ายึดมท.-เกษตร
ด้านความเชื่อมั่นต่อการทำงานของแพทยสภาในการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมปฏิบัติตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.40 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 15.95 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 14.20 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 0.61ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ด้านความเชื่อของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าจะกล้ายึดกระทรวงมหาดไทย มาจากพรรคภูมิใจไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.12 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 32.06 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 13.82 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามความเชื่อของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าจะกล้ายึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาจากพรรคกล้าธรรม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.73 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 29.69 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 20.07 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 11.91 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
‘ภูมิธรรม’ยกเลิกไปปารีส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ได้ยกเลิกภารกิจเดินทางไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประชุมทางทหาร และงานปารีส แอร์โชว์ ระหว่างวันที่15-19 มิ.ย.68 นี้ เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่12-13-14มิ.ย.นี้ สำหรับวันที่ 12มิ.ย.68 แพทยสภาประชุมว่าจะเห็นชอบมติเดิม คือ ลงโทษแพทย์3ราย ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีรักษาตัวชั้น 14 หรือจะเห็นด้วยกับการยับยั้งมติแพทยสภาของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ส่วนวันที่ 13มิ.ย.68 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดไต่สวน ส่งตัวนายทักษิณ รักษาตัวชั้น14 ถูกต้องหรือไม่และ14มิ.ย.68 การประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งยังคาดเดาการประชุมไม่ได้ ว่าจะเป็นผลบวกหรือลบ
‘อ้วน’โยนนายกฯตัดสินปรับครม.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ระบุว่า การปรับครม.ขอยึดตามข้อตกลงเดิมไม่ย้ายกระทรวง ว่า ตนไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องของนายกฯที่จะพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะเอาอย่างไร ตอนนี้ตนมุ่งแต่แก้ปัญหาเรื่องชายแดน ส่วนเรื่องปรับ ครม.อยู่ที่นายกฯจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง เราทำงานการเมืองมาก็รู้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ ซึ่งอยู่ที่การพูดคุยกับนายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องการยึดอะไร ทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุยของนายกฯ กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเมื่อถึงเวลาพูดคุยแต่ละฝ่ายก็จะเสนอความเห็นให้นายกฯตัดสินใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี