วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ฮุนเซนหมู หรือ ทักษิณหมู หรือหมูทั้งคู่
เมื่ออายุ 18 ฮุนเซนได้เข้าร่วมงานกับ เขมรแดง ซึ่งมีผู้นำที่จบการศึกษามาจากฝรั่งเศส ในกลุ่มผู้นำ “ สมาคมนักศึกษาเขมรในฝรั่งเศส ” คล้ายๆกับการก่อตัวของคณะราษฎร์ ของไทย พวกที่จบจากฝรั่งเศสในตอนนั้น จะเป็นพวกบ้าทฤษฏีคอมมิวนิสต์ แต่ไม่สนใจความเป็นจริง ทุกอย่างจึงต้องมีคำว่า ”ประชาธิปไตย“ พ่วงเข้าไปด้วย เช่น การเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น “ กัมพูชาประชาธิปไตย” และเพื่อการปฏิรูปประเทศเขมรให้เป็นประชาธิปไตยแบบเขมรแดง นำประชาชน มาทำนารวม จนทำให้ต้องฆ่าประชาชนทั้งที่เห็นต่างและไม่รู้เรื่องไปมากมาย
อีก 4 ปีต่อมา เขมรแดง ซึ่งขาดฐานจากประชาชนส่วนใหญ่ทำท่าจะแพ้ ฮุนเซนจึงแปรพักตร์กระโดดไปอยู่กับ กลุ่มจัดตั้งของกองทัพเวียตนามที่เพิ่งจะรบชนะสหรัฐ มา
อีก 2 ปีต่อมา พวกฮุนเซนได้นำกองทัพ
เวียตนามบุกยึดกัมพูชาได้สำเร็จ ฮุนเซนจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลหุ่นเชิดของเวียตนาม ตำแหน่ง รมว.กต เมื่ออายุแค่ 26 ปี เท่านั้น (ตอนอายุเท่ากัน คุณทักษิณเพิ่งเป็น ร.ต.ต. เท่านั้นเอง )
เมื่อปี 2529 กองทัพอันมหึมาของเวียตนามเกือบ 3 กองพลทหารราบ ( พล.ร.315, พล.ร.2 และ บางส่วนของ พล.ร. 307) ได้ไล่ขยี้เขมร 3 ฝ่าย (เขมรแดง,เจ้าสีหนุ และ ซอนเซน) หนีตายมาอยู่ตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไทยได้เข้าช่วยเหลือพวกเขมรหนีตายเหล่านี้ไว้ เพื่อมนุษยธรรมในขณะเดียวกันก็ปกป้องอธิปไตยของฝ่ายไทยไปด้วยเพราะ ทัพเวียตนามไล่ล่าล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย
จึงเกิดยุทธการช่องบก ปี 2529 ขึ้น กองทัพเวียตนามใช้กองกำลังเกือบ 3 กองพล ร. (1 กองพล =4 กรม และ 1กรม = 4 กองพัน) บุกเข้ามาประชิดเขตแดนไทย ที่ช่องบก ไทยตั้งรับด้วยทหาร 5 กรม ร. (น้อยกว่ากองทัพเวียตนาม 3 เท่า) ยันทหารเวียตนามไว้ได้ตลอดการสู้รบเกือบ 2 ปี จึงสามารถผลักดัน ทหารเวียตนามกลับออกไปได้สำเร็จ ทหารทั้งฝ่ายเราและ เวียตนามเสียชีวิต ไปนับ100คน ทั้งที่ไทยไม่ได้ไปรุกรานใคร แค่รักษาอธิปไตยของชาติ และปกป้องทหารและประชาชนเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาในเขตไทยตามหลักมนุษยธรรมเท่านั้น (เรื่องแบบนี้ เขมรคงลืมไปแล้วเหมือนเช่นเคย)
อ่านมาถึงตรงนี้แบบย่อๆคงพอจะทราบได้ว่า
1.ผู้นำเขมรทุกคน ลืมบุญคุณของประเทศไทยง่ายจัง
2.ฮุนเซนเป็นเด็กในคาถาของเวียตนาม จึงถูกพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา โจมตีว่า ยอมยกดินแดนกัมพูชาไปให้เป็นของเวียตนามมากมาย ดังนั้นการพยายามมาเอาดินแดนไทย ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ จึงเป็นการปกปิดเรื่องในอดีตของ ฮุนเซน ได้ดีที่สุด
3. คุณทักษิณนั้น กระดูกคนละเบอร์กับฮุนเซนแน่นอน เช่น กรณีช่องบกที่เกิดขึ้นตอนนี้ ฮุนเซนรุกทางคำพูด จนทำให้คุณทักษิณเสียคนยับเยินไปหมด ในความคิดของคนไทย เพราะพื้นที่เกิดเหตุ ล้วนแต่มีหลักฐานชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย
4. ฮุนเซนนั้นรู้เรื่องในอดีต ที่ทหารไทยที่ใช้กำลังทหาร 5 กรม ร. ยันทหาร
เวียตนาม ซึ่งในขณะนั้นไม่เคยแพ้ใครเลย ที่ช่องบก ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นฮุนเซนจึงไม่น่าจะมีเจตนาที่จะรบแบบยืดเยื้อกับไทยแน่นอน อย่างมากก็แสดงอิทธิฤทธิ์หาคะแนนเสียงช่วยให้ตัวเองดูดีเท่านั้น เช่น ยิงเข้ามาก่อน ตอนเช้า พอเที่ยงก็ออกมาโวยวายรักชาติ ฟ้องคนโน้นคนนี้แล้วก็เลิกเอาดื้อๆ อ้างว่า เพื่อเห็นแก่สันติภาพของภูมิภาค ฯลฯ เป็นต้น
แต่แผนนี้ทำไม่ได้ง่ายๆ เมื่อปัจจุบัน เขมรยังต้องพึ่งพา โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จากประเทศไทยอยู่ มากพอสมควร
5. ฮุนเซน รู้ดีว่า ” พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต “ ( Emerald Triangle) นั้น มีของดีมากมาย เช่น มีเส้นทางเข้าถึงจาก 3 ประเทศ(ไทย ลาว และ กัมพูชา) มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริห์ของ ร.9 มีภูมิประเทศ ที่สวยงาม มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางท่องเที่ยวชายแดนติดต่อกันได้ทั้งสามประเทศ เหมาะแก่การสร้างสนามกอล์ฟ โรงแรม และกาสิโน การปักปันเขตแดนระหว่างไทย กับ สปป.ลาวก็ทำเรียบร้อยมาตั้งนานแล้ว กรณีนี้ คุณทักษิณ กับ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน (สภานายกพิเศษแพทยสภา คนปัจจุบัน) มนุษย์คู่บุญ คุณทักษิณ ก็เคยคิดเรื่องสร้างสนามกอล์ฟที่นี่ มาตั้งแต่ตอนคุณทักษิณ เป็นนายกฯวาระแรก ซึ่งตอนนั้นฮุนเซนก็แสดงท่าทีเห็นด้วย ดังนั้น การที่ฮุนเซน เข้ามาตอแยในพื้นที่ตรงนี้จึงน่าจะมีจุดหมายอื่นด้วย
6. สรุป เรื่องนี้ คุณทักษิณ เสียอยู่คนเดียว ฮุนเซนได้หาเสียงในฐานะเป็นคนรักชาติกับประชาชนกัมพูชาสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณทักษิณยับเยินไปทุกด้าน ต่อจากนี้ เรื่องนี้ ก็จะเงียบลงไปเอง เพราะคราวนี้ ฮุนเซน พูดใหญ่โตเกินตัวเองไปมาก จำเป็นต้องหา“ทางลง”โดยด่วน และการพูดใหญ่พูดโต ของ ฮุนเซน นั้นยังทำให้ทั้งจีน และ เวียดนาม เริ่มไม่สบายใจต่อท่าทีเกินเบอร์ของฮุนเซน บ้างแล้ว
ดังนั้นเรื่องนี้จะ ยุติลงได้ ไม่ใช่เพราะฮุนเซน เกรงใจคุณทักษิณหรือ นายก อุ๊งอิ๊ง แต่กลัว ท่าทีที่จริงจัง ของ ทหารไทย และท่าทีการสนับสนุนการปฏิบัติการของทหารไทยอย่างท่วมท้นจากประชาชนคนไทย รวมถึงกรณีที่ฮุนเซนพูดล้ำหน้า ไปถึงศาลโลก ทำเอาจีนสะดุ้ง เวียตนามต้องหันมามอง ดังนั้นหากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อไปนาน ประชาชนกัมพูชาก็จะรู้เรื่องจริงมากขึ้น “ กองงานตอบโต้ไว “ ของกัมพูชาก็น่าจะสร้างเรื่องไม่ทันครับ โดยเฉพาะการสร้างเรื่องแบบปากไว ไร้ความรับผิดชอบ
เช่น การพูดว่า ถ้าปิดด่านจะทำให้คนไทยเดือดร้อนกว่า
ดังนั้น บทสรุปในเรื่องนี้ คงจบไม่ดีแน่ ทั้ง2คน เดินหมากแบบนี้ หมูทั้งคู่ ครับ
พลโท นันทเดช / 9 มิถุนา’68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี