‘อิ๊งค์’ย้ำสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา การเจรจาผ่านไปด้วยดี ขอมั่นใจไม่มี‘สงคราม’ บอกใช้ความจริงใจคุย‘กัมพูชา’ ทุกระดับคอนเฟิร์มร่วมวง JBC 14 มิ.ย. ยันมาตรการ‘เปิด-ปิดด่าน’ตามกรอบเวลา ไม่‘ปิดถาวร’ตามข่าวลือ
10 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้ง โดยมีการปฏิบัติงานร่วมกันและมีการพูดคุยในหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาก็ค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี ในระดับนโยบายรัฐบาลได้ให้ในพื้นที่ของหน่วยงานความมั่นคง กองทัพ และการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ก็ได้คุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงการคุยกันระหว่างกระทรวงและทุกหน่วยงานทั้งไทยและกัมพูชา
ทั้งนี้ ตนก็ได้มีการพูดคุยกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็มีการประสานงานกัน มีการเจรจาเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งลัพธ์ที่ออกมาเราสามารถเจรจากันด้วยสันติวิธี ทำให้ไม่มีการปะทะกันที่รุนแรง
นายกฯ กล่าวว่า โดยในระดับพื้นที่หน่วยงานความมั่นคงและกองทัพได้มีการประสานกับผู้นำเหล่าทัพของกัมพูชาในหลายครั้ง เพื่อที่จะพูดคุยเจรจาบริเวณชายแดน ซึ่งแต่ละหน่วยมีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำให้การพูดคุยเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้สมเด็จฮุน เซน ได้มีการประสานงานส่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อมาขอความร่วมมือในการดำเนินการแก้ไขบริเวณที่มีการพิพาท ซึ่งได้มีการรายงานกับสมเด็จฮุน เซน เรียบร้อย ทำให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น รวมถึงมีการปรับกำลังพลในพื้นที่ที่มีข้อพิพาทให้อยู่ในสถานการณ์ปกติ ส่วนบริเวณพื้นที่อื่นๆยังมีกำลังพลตามเดิม ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) วันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยมีการคอนเฟิร์มในทุกระดับ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ระดับนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันวันที่ 14 มิ.ย.นี้มีการประชุมเกิดขึ้นแน่นอน
นายกฯ กล่าวอีกว่า กรณีที่กัมพูชามีความประสงค์จะส่งเรื่องไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก ทางรัฐบาลไทยขอยืนยันว่าไม่รับเขตอำนาจศาลโลก โดยที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการผ่านวิธีทางการทูต ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเวทีสากลและมีผลลัพธ์ที่ดีมาโดยตลอด แน่นอนว่าเรื่องนี้บางครั้งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชนได้ เพราะเป็นการเคารพการพูดคุยในเรื่องของข้อมูลของทั้งสองประเทศ ตรงนี้เป็นสิ่งจำเป็นไม่สามารถรายงานได้ตลอด
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้มีการกำชับมาตรการชายแดนต่างๆให้มีการเปิด-ปิดตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ไม่ได้มีการปิดด่านถาวรตามที่มีข่าวลือออกมา เพราะทราบดีว่าพื้นที่ตรงนั้นมีการค้าขายระหว่างประเทศ ถ้าปิดด่านถาวรจะส่งผลเสียต่อประชาชน ฉะนั้นก็มีมาตรการรัดกุมในเรื่องของเวลาเปิด-ปิดด่าน และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้มีส่วนในการเจรจาในครั้งนี้ เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับหัวหน้าหน่วยทุกคนที่ได้มีรายงานตรงมายังตนตลอดเวลา ซึ่งบางอย่างตนไม่สามารถออกมาพูดได้ เพราะจะเกิดผลกระทบค่อนที่ข้างไม่ดี แต่มีบางข้อมูลที่เล็ดลอดออกไปก็ได้มีการบอกกับทางกัมพูชาและมีการตกลงกันได้ และเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในเรื่องของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวมถึงไม่ให้สร้างความแตกแยกภายในประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคงและสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่าเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยสันติวิธี รวมถึงทำให้ผู้ประกอบการในบริเวณดังกล่าวเกิดความมั่นใจตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนเน้นย้ำ รัฐบาลขอยืนยันอีกครั้งการเจรจาทั้งหมดนี้ผ่านไปด้วยดี และขอเน้นย้ำว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า นายกฯให้ความมั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีสงครามเกิดขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “คะ”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีความมั่นใจกับท่าที สมเด็จฮุน เซ็น แค่ไหน หลังออกมาโพสต์ข้อความที่มีนัยเชิงลบ เช่น การขยับกำลังไม่ได้เป็นการถอย เหมือนการนอนอยู่แล้วเปลี่ยนท่า น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เราสื่อสารในเรื่องนี้ในลักษณะที่คล้ายกันหลายจุด เช่น คำว่าถอยทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากใช้คำนี้เราใช้คำว่าปรับกำลัง เพราะเราปรับกำลังทั้งคู่เป็นการให้เกียรติกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่แค่กัมพูชาอย่างเดียวแต่ของเราก็ปรับกำลังเช่นกัน การที่เขาบอกว่าพร้อมรับมือเราก็พร้อมเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการปะทะในแบบไหนเราต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อน
เมื่อถามว่าได้เห็นหนังสือที่ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอให้รักษาอธิปไตย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่ายังไม่เห็นหนังสือเพียงแต่ทราบว่ามีการมายื่น ทุกความคิดเห็นรัฐบาลรับฟังอยู่แล้ว สิ่งที่เราทำอยู่ทางกองทัพก็วางกำลังดูแลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าอะไรคือประเด็นหลังในการพูดคุยกับ สมเด็จ ฮุน เซ็น และ ฮุน มาเนต แล้วทำให้ท่าทีอ่อนลง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทั้งสองประเทศต้องการสันติวิธี และเราพูดคุยตามความจริงใจว่าเรามีความจริงใจแบบนี้ ไม่ต้องการเห็นคนทั้งสองประเทศมีปัญหากัน เราต้องการความสงบ ตอนนี้เราเร่งเครื่องเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าไม่อยากให้มาเป็นสนามรบหรืออะไร
เมื่อถามว่าหนึ่งในข้อเสนอคือการให้ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกให้เป็นสากล และยกเลิกเอ็มโอยู 43 เราจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาหลังเกิดความขัดแย้งครั้งนี้เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เราขอพิจารณาเป็นเรื่องๆไป เหมือนที่เรายืนยันกับทางกัมพูชา ว่าเราขอโฟกัสที่เรื่องข้อพิพาทก่อนไม่ใช่เอาทุกเรื่องมาปนกันหมด ไม่อย่างนั้นจะไม่ชัดเจนในแต่ละหัวข้อ แต่ทุกเรื่องที่มีปัญหาหรือว่ายังไม่จบฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายบริหารต้องพิจารณาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพูดได้หรือไม่ว่ารัฐบาลแก้ที่ละปมที่ละจุด น.ส.แพทองธารตอบว่า ใช่ค่ะแก้ทีละปมทีละจุด
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี