สะพัดแจกแหลก
แลกแพทยสภากลับมติชั้น14
‘อดีตสว.สมชาย’ปูด
รถหรู-ตำแหน่งใหญ่
ม็อบให้กำลังใจหมอ
ยึดมั่นจรรยาบรรณ

“อดีตสว.สมชาย” ปูดมีข่าวลือฝ่ายการเมืองยื่นข้อเสนอ เป็นรถหรู-ตำแหน่งการเมือง แลกให้แพทยสภากลับมติลงโทษแพทย์กรณีชั้น 14 เรียกร้องให้เปิดเผย ผลลงมติ ด้าน คปท.บุกให้กำลังใจ หมอยึดมั่นรักษาจรรยาบรรณ ขณะที่ศาลฎีกาฯ เตรียมความพร้อมนัดไต่สวนคดีชั้น 14 บังคับโทษเทวดา เผย“ทักษิณ”ไม่ไปศาลเพราะยังไม่มีหมายเรียก พร้อมขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงถึง 23 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการนัดประชุมของแพทยสภา ในวันที่ 12 มิ.ย. เพื่อพิจารณากรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข วีโต้มติของแพทยสภา เมื่อ 8 พ.ค. ที่ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน ที่วินิจฉัยอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ตนขอเรียกร้องให้กรรมการแพทยสภา ทั้งที่เป็นโดยตำแหน่ง และมาจากการเลือกตั้ง รวม69 คน ยกเว้นนายแพทย์ใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีส่วนได้เสีย เข้าร่วมประชุมทุกคนเพื่อยืนยันมติ ซึ่งตามหลักการตนเชื่อว่าแพทยสภาจะยืนยันมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. อย่างไรก็ดีขณะนี้มีข่าวลือบางประการที่มาจากหมอ บอกตนว่า ขณะนี้มีรถหรูส่งมาถึงหน้าบ้าน และมีข้อเสนอเกี่ยวกับการตอบแทนเรื่องตำแหน่ง หากกรรมการแพทยสภาลงมติตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ

นายสมชาย กล่าวด้วยว่านอกจากนั้นแล้วในส่วนของกรรมการแพทยสภาที่เป็นโดยตำแหน่งถูกกระบวนการบีบให้ลงมติตามฝ่ายการเมืองเช่นกัน โดยใช้กลไกให้อธิการบดีดำเนินการ โดยใช้ประเด็นการขู่ตัดงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง

“ขณะนี้ฝ่ายการเมืองพยายามทำทุกอย่าง แต่ผมเชื่อมั่นในจรรยาบรรณของแพทย์ที่เป็นกรรมการแพทยสภาที่ทำงานด้วยความเสียสละ ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม ยืนยันมติแพทยสภาเดิมเมื่อ 8 พ.ค. โดยไม่สนข้อเสนอตอบแทนทั้งรถหรู รวมถึงบ้าน และ ตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และขอเรียกร้องในการประชุมและลงมติครั้งนี้ ควรเปิดเผยการลงมติเป็นรายบุคคล เพื่อให้สังคมตรวจสอบต่อไป ซึ่งหากการลงมติแพทยสภาแย้งกับมติของตนเองก่อนหน้านั้น เท่ากับว่าแพทย์ทำตัวเป็นงูเห่า สังคมจะไม่เชื่อถือศรัทธา และจะเกิดกระบวนการแซงชั่นแน่นอน” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่าส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เตรียมเข้าประชุมร่วมกับแพทยสภานั้น ตนมองว่าไม่เหมาะสม และไม่มีเหตุผลใดที่จะเข้าร่วมเนื่องจากการประชุมแพทยสภา นั้นเป็นการพิจารณาผลการวีโต้ของนายสมศักดิ์ อีกทั้งตามธรรมเนียมแล้วนายสมศักดิ์ที่มีตำแหน่งสภานายกพิเศษแพทยสภาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนที่อ้างว่าจะไปชี้แจงนั้นตนมองว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

วันเดียวกัน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยมวลชนของ คปท. กองทัพธรรม ร่วมกับพี่น้องประชาชนที่ห่วงใยบ้านเมืองให้กำลังใจแพทยสภา เพื่อขอให้ยืนยันมติเดิม กรณีแพทย์ ช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ให้ไม่ต้องรับโทษ เพื่อเป็นการรักษาจรรยาบรรณและความยุติธรรมของประเทศไทย ณ อาคารแพทยสภา จ.นนทบุรี

ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ลงนามในหนังสือ พส.011/6489 เรื่อง การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ส่งถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา อ้างถึง หนังสือกระทรวงสาธารณสุข ที่สธ.0100/2200 (ด่วนที่สุด) ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงกระทรวงสาธารรสุข มีหนังสือแจ้งว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีความประสงค์ขอเข้าร่วมฟังการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาในการประชุมครั้งที่ 6/2568 ในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 โดยแจ้งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยผู้ติดตาม เพื่อชี้แจงและแสดงความเห็นตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ความละเอียดทราบแล้วนั้น

แพทยสภาพิจารณาแล้วขอเรียนว่า การประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ประกอบข้อ 12 แห่งข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการประชุมคณะกรรมการ พ.ศ.2560 กำหนดให้เฉพาะสภานายกพิเศษเท่านั้น ที่สามารถเข้าฟังการประชุม และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการได้ โดยที่ให้ถือเป็นการประชุมลับ

ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว มีระเบียบวาระในการพิจารณาเป็นจำนวนมาก แพทยสภาจึงได้จัดระเบียบวาระสำหรับสภานายกพิเศษฯ ไว้ในวาระ เรื่องประธานแจ้งที่ประชุม เพื่อทราบในเวลา 12.00-12.15 น. เพื่อให้สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ได้ชี้แจงและแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการแพทยสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีวันที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพร้อมหรือนัดไต่สวน กรณีความปรากฏการบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม4/2551 ,คดีหมายเลขแดงที่ อม.10 /2552 ,คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 68

ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลยในคดีทั้ง 3 คดี แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่อ้างในคำร้อง หรือไม่พร้อมกับสำเนาคำร้องให้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ให้ชี้แจงข้อประกอบการพิจารณาของศาล ว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ พร้อมแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน

ผู้สื่อข่าวนายงานว่า คดีนี้ศาลฎีกานักการเมืองยังไม่ได้ออกหมายเรียกตัวนายทักษิณ มาศาลในวันนัดดังกล่าว ทางองค์คณะทั้ง5 คนหรือทางศาลฎีกาก็ยังไม่มีคำสั่งอะไรเป็นพิเศษมา ก็คาดว่าในวันที่ 13 มิถุนายน นายทักษิณนี้จะยังไม่มีคำสั่งชี้ขาดเกี่ยวกับปมบังคับโทษเลย ก็ต้องรอดูว่าองค์คณะทั้ง 5 ของศาลฎีกานักการเมืองจะพิจารณาคำชี้เเจงเเละมีคำสั่งอย่างไรต่อไป ตอนนี้ก็ให้นักข่าวที่จะไปทำข่าวสามารถยื่นคำร้องขอทำข่าวได้หมดเลย ทางศาลฎีกาก็ได้เตรียมที่จอดรถไว้รองรับกว่า 200 คัน

ด้านความคืบหน้าจากทางฝั่งอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ว่าโดยขณะนี้ทางอัยการสูงสุดยังไม่ได้มอบหมายให้ใครไปศาลฎีกา หรือจำเป็นที่อัยการจะต้องเดินทางไปหรือไม่ เเต่ถ้าในหน้างานก็จะเป็นของสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตฯ ซึ่งจนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ใครไป

โดยมีรายงานว่าอัยการสูงสุดได้มีการชี้เเจงไปยังศาลฎีกานักการเมืองทำนองว่าไม่มีข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เนื่องจากเป็นชั้นบังคับคดี เพราะพอหลังจากศาลฎีก่มีคำพิพากษาเเล้วทางอัยการก็ไม่มีหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องอีก

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเเละผู้รับมอบอำนาจนายทักษิณ กล่าวว่าในวันที่ 13 มิถุนายน นี้ตนเเละทีมทนายความก็จะเดินทางไปศาลฎีกา ในส่วนประเด็นชี้เเจงเราก็ทำเตรียมไปชี้แจง เนื่องจากการพิจารณาคดีนี้เป็นรูปเเบบลักษณะคดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็เตรียมชี้เเจงในส่วนที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้ต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายในขณะต้องรับโทษตามความเป็นจริง ก็ต้องดูว่าภายหลังจากศาลได้รับข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆเเล้ว ศาลจะมีการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไร หรือมีประเด็นอะไรเพิ่มหรือไม่ ซึ่งตนเป็นทั้งทนายความเเละในฐานะผู้รับมอบอำนาจสามารถกระทำการเเทนตัวการได้ ในที่กฎหมายให้กระทำการแทนได้ ส่วนมวลชน หรือผู้สนับสนุนก็คาดว่าจะไม่เดินทางไปศาล ตนทำคดีมาก็ไม่เคยมีลักษณะที่จะนำมวลชนไปศาล ทนายทำหน้าที่ทนายไม่ใช่ผู้นำมวลชน ที่ผ่านมาก็ทำคดีโดยยึดตามหลักกฎหมายเป็นไปตามขั้นตอน

สำหรับนายทักษิณก็จะไม่ได้เดินทางไปศาลด้วยเนื่องจากศาลฎีกานักการเมืองยังไม่ได้มีหมายเรียกมา ซึ่งจะต้องใช้สิทธิชี้แจงต่อศาลตามกระบวนการ

นายวิญัญัติ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายเวลาส่งเอกสารไต่สวนไปอีก30 วัน ซึ่งศาลฎีกาอนุญาตจนถึงวันที่ 23 มิถุนายนนี้