เกาะติด'ชั้น 14' 'ทนายนกเขา'ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี

เกาะติด'ชั้น 14' 'ทนายนกเขา'ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี

วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 10.38 น.

"ทนายนกเขา"สังเกตการณ์ ศาลนัดพร้อมคดีทักษิณ ชั้น 14 ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี ด้าน"หมอตุลย์"ยันศาลมีอำนาจติดตามคดี

เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ศาลอาญา ถ.ราชดำเนิน นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรับฟังการไต่สวน คือ พิจารณาว่าการเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ และมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบของราชทัณฑ์หรือไม่


โดย นายนิติธร กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่โจทก์คนเดิมคืออัยการ หรือ ป.ป.ช. จำเลยก็คนเดิมคือนายทักษิณ  คดีนี้เป็นคดีที่จะดำเนินการไต่สวนเพื่อบังคับคดี คือมีเหตุกรณีว่าเมื่อศาลพิพากษาให้จำคุกไปแล้ว มีการบังคับโทษให้จำคุกจริงหรือไม่  ฉะนั้นวันนี้จะมีการไต่สวนหรือไม่ ต้องดูบุคคลที่ 3 ที่ออกคำสั่งให้เรียกคำชี้แจงมา ก็มี โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ป.ป.ช. และนายทักษิณ ที่แต่ละคนต้องส่งเอกสารเข้ามา รวมถึงวันนี้ตัวบุคคลก็ต้องมาด้วย แต่นายทักษิณให้ทนายความมา เพราะฉะนั้นวันนี้ศาลนัดเป็น 2 เรื่อง นัดเพื่อการไต่สวน และนัดพร้อม ถ้ามีพยานมาแล้ว เห็นความว่าจะไต่สวนศาลก็จะไต่สวน ส่วนที่ยังไม่มาก็จะเลื่อนไป ถ้าพบว่าการบังคับโทษยังไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามกฎหมาย แล้วใครเป็นผู้กระทำบ้าง ศาลก็จะลงรายละเอียดไว้และจะไปดำเนินคดี ตนคิดว่าคดีนี้ศาลก็จะทำให้กระจ่าง ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ให้มีข้อสงสัย ให้เวลาทุกฝ่ายตามกฎหมายอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ แพทยสภามีมติออกมาตามเดิม ลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีรักษาตัวนายทักษิณที่ ชั้น 14 นายนิติธรกล่าวว่า ในส่วนของแพทยสภาถือว่าเป็นที่ยุติแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับมติแล้วก็ไปศาลปกครองได้ แต่สิ่งที่เราจะหารือกันในขณะนี้ ประเด็นเรื่องการพักโทษที่ผ่านมา มีการร้องไปรวมในคำร้องหลัก หลังจากนี้คงเห็นชัดเจนว่ากระบวนการพักโทษมีปัญหา บ่งชี้ถึงอาการของนายทักษิณ กระบวนการในการรักษา และอีกเรื่องคือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาการพักโทษก็จะดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง ส่วนทางด้าน คปท. ก็จะเคลื่อนเรื่องการพักโทษต่อ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นแพทย์ใหญ่ที่พบว่ามติแพทยสภาได้สั่งพัก เพราะฉะนั้นตำรวจก็ต้องมีการบริหารจัดการกับแพทย์ เพราะยังรับราชการอยู่ ทั้งหมดเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน เพราะว่าทุกฝ่ายที่ทำงานในขณะนี้มาจาก ร่างปัญหาเดียวกัน คือรากบังคับโทษของนายทักษิณ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็จะถูกเรียกเอกสารมาที่ศาล

นายนิติธร กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีส่วนร่วมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะว่าตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องมีส่วนในการบังคับคดี จะต้องมีส่วนในการบริหารกระบวนการยุติธรรมด้วย ต้องรับผิดชอบในกรณีที่ มีการบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้องหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งสะเทือนอยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคน ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ทุกคนเพิกเฉยหมด และคดีนี้ก็จะเป็นบรรทัดฐาน อาจจะย้อนกลับไปถึงกรณีที่มีการพักโทษจะสะเทือนหมด

ส่วนม็อบจะมีการยกระดับหรือไม่ นั้น นายนิติธรกล่าวว่า ผู้ชุมนุมไม่ต้องยกระดับ รัฐบาลต้องยกระดับ

ด้าน นพ.ตุลย์ กล่าวว่า การบังคับคดีเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์เพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายบริหารพยายามอภิบายว่า งานนี้ศาลไม่เกี่ยว มันจบสิ้นแล้วอันนี้ไม่ถูกต้อง ซึ่งการบังคับคดีนั้นจะคาบเกี่ยวกับ กรมราชทัณฑ์ เรือนจำ และศาลที่ยังมีอำนาจอยู่ ต้องคอยติดตามว่าการบังคับคดีนั้น ทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้เมื่อมีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เห็นว่ายังไม่มีการบังคับคดีอย่างถูกต้อง จึงมาร้องตาม ข้อบังคับ ที่ 62 ของข้อบังคับศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าบุคคลที่ พบเห็นว่ามีการกระทำผิดระหว่างการบังคับคดีสามารถร้องต่อศาลได้ ยืนยัน การบังคับคดี ไม่ใช่เรื่องของกรมราชทัณฑ์เพียงฝ่ายเดียว ว่าศาลยังมีอำนาจอยู่ 

"คืนที่ 22 สิงหาคม ต่อคืน 23 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร ได้เปลี่ยนที่จากเรือนจำไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีความเห็นของแพทย์ทั้งที่กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจให้อยู่ตลอด180 วัน โดยส่วนตัวคนคิดว่าข้อเท็จจริงในเรื่องก็อาจจะมีส่วนสำคัญ แสดงว่าการบังคับคดียังไม่เกิดขึ้นแม้แต่วันเดียว ซึ่งจะมีผลว่าการบังคับคดีได้เกิดขึ้นแล้วหรือยัง และส่วนที่สองการพักโทษที่ได้รับอนุญาตโดย รมว.ยุติธรรม เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้ารวมทั้งสองส่วน ศาลโดยองค์คณะ พิจารณาว่าไม่ถูกต้องทั้งสองส่วน ท่านก็อาจจะมีหมายที่บอกว่านายทักษิณ อาจจะต้องกลับสู่เรือนจำตามหมายเดิมที่ให้จำคุก1 ปี " นพ.ตุลย์ กล่าว


///

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top