‘หนู’พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากถูกริบเก้าอี้

มันใจเก้าอี้มท.1ยังปึ้ก

ย้ำไม่มีสัญญาณจากนายกฯ

‘อิ๊งค์’เรียกรมต.พท.ถกด่วน

‘รทสช.’ขอโควตารมต.เดิม

ถ้าเปลี่ยนพร้อมเป็นฝ่ายค้าน

“อิ๊งค์” ยังไม่ตอบปมปรับ ครม. “ชูศักดิ์” โยนถามนายกฯปรับครม.เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ชี้ “รทสช.”ต้องเคลียร์ให้จบก่อน ถือมติพรรคเป็นหลัก “อนุทิน” ลั่นวาทะเด็ด หากถูกเขี่ยพ้นรัฐบาล พร้อมเป็น “ฝ่ายค้าน” มั่นใจเก้าอี้ มท.1 ยังเหนียว ย้ำนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณปรับครม.วอนอย่าเพิ่งรบกันเอง แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ‘วิทยา’ยันรทสช.ไม่ปรับ-ไม่เปลี่ยน ลั่นหากปรับเก้าอี้ พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ยังกั๊กขับกลุ่ม 18 ส.ส.พ้นพรรคบอกรอยุบสภา รทสช.แยกยับ’สุชาติ’ประกาศตั้ง ‘กลุ่ม 18’หักก๊วน’พีระพันธุ์’รอวันแยกทาง ลุยทำการเมือง

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมอบนโยบายในพิธีปิดประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี2568 ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความคืบหน้า ปรับครม.อาจจะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล บางพรรคมาร่วมรับประทานอาหารเพื่อพูดคุยกัน โดย น.ส.แพทองธาร ไม่ตอบคำถาม แต่เดินขึ้นรถออกไปทันที

มีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกข้าราชการการเมืองในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ประชุมด่วนในช่วงบ่ายวันนี้ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)

‘ชูศักดิ์’โยนถามนายกฯปรับครม.

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือครม.สัญจรที่ จ.พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 23-24มิ.ย. ออกไปก่อน โดยไม่มีกำหนด ว่า มีการแจ้งให้ทราบแล้วว่า จะเลื่อนประชุมออกไปและยังไม่ได้กำหนดว่า จะประชุมเมื่อไหร่ ซึ่งได้รับแจ้งเพียงเท่านี้ จริงๆต้องถามนายกฯว่า เป็นอย่างไร เราสันนิษฐานไปเองว่า อาจเกิดจากการปรับ ครม.หรือไม่ อันนี้เราไม่ทราบรายละเอียด ต้องดูจากผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจคือ นายกฯว่า เลื่อนเพราะอะไร

แนะ’รทสช.’คุยขัดแย้งภายในให้จบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสัญญาณการปรับ ครม.มาบ้างหรือยัง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบละเอียด เข้าใจเหมือนกับหลายคน เรื่องนี้คงคุยเป็นการภายใน พวกเรายังไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังไม่จบ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่า มันต้องเคลียร์เรื่องพวกนี้ ส่วนตัวเห็นว่า ต้องเคลียร์ให้จบว่า เป็นอย่างไรกันแน่ เพราะหากคาราคาซังแบบนี้ ยังมีปัญหาแบบนี้ อาจจะไม่มั่นคง ตนคิดว่า ผู้ใหญ่ นายกฯคงดูอย่างรอบคอบ ต้องตัดสินใจว่า ท้ายสุดจะเคลียร์กันอย่างไร เป็นอย่างไรและจบลงอย่างไร จากนี้จะได้ทำให้ถูก

เมื่อถามว่า หากไม่เป็นมติของพรรค รทสช.นายกฯจะยังไม่รับปรับ ครม.ให้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องถือมติของพรรคเป็นหลัก เพราะการเมืองเป็นระบบพรรค นายกฯพูดถูกแล้วที่ให้พรรค รทสช.ไปจัดการคุยกันตัดสินใจกัน

‘หนู’ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้าน-หากยึดมท.

ที่จังหวัดอุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายกฯสั่งเลื่อนประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พิษณุโลก วันที่24มิ.ย.นี้เกี่ยวกับจะปรับครม.ในเร็วๆนี้หรือไม่ว่า ทราบมีการเลื่อนประชุมก็คงเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในขณะนี้เช่นความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากมีการประชุมครม.สัญจรก็ต้องลงพื้นที่กันไปตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ก็อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่า มีเหตุความขัดแย้งอยู่อีกพื้นที่ แต่ครม.กลับไปลงในอีกพื้นที่ซึ่งตนคิดว่านายกฯตัดสินใจถูกแล้ว

เมื่อถามว่า ขณะนี้นายกฯได้ส่งสัญญาณเรื่องปรับ ครม.มาที่ นายอนุทิน แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี”เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับไปก่อนโดยที่ไม่แจ้งให้ทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า“ไม่มี”เมื่อถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่า ยังจะได้นั่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย นายอนุทินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า มั่นใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้จริงๆ พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมครับ”จากนั้น นายอนุทิน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า“ให้รบกับศัตรูกันก่อน อย่าเพิ่งมารบกันเอง ถ้าเราหันมารบกันเอง จะร้องเพลงชาติให้ใครฟัง”

กินข้าว’สันติ’เตรียมเลือกตั้งครั้งหน้า

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีปรากฏภาพไปพบกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำ 6สส.เพชรบูรณ์และยังปรากฏภาพแกนนำพรรคภูมิใจไทย ไปร่วมรับประทานอาหารกับ นายสันติ ที่คาดว่าจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย จะมี สส.จากพรรคอื่นมาร่วมเพิ่มอีกหรือไม่ ว่า วันนี้เรามานั่งหารือกันว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับบ้านเมือง การทำงานทางการเมืองหากเป็นไปในทางเดียวกัน โครงสร้างทางการเมืองเหมือนกัน มันก็สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้เยอะ เราคุยถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายสันติหรือไม่ ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อจะไปร่วมงานกับทั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคกล้าธรรม (กธ.) และสุดท้ายมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุย และไม่มีข่าวอะไรทั้งสิ้น ขณะนี้ให้สิ่งที่มันดำเนินอยู่ให้เป็นตัวเล่าเหตุการณ์ จะไปพูดอะไรเลยไม่ได้ เราต้องให้เกียรติทุกฝ่าย เพราะว่าแต่ละคนทั้งหลายก็ยังมีสังกัดกันอยู่ และเราไม่ได้ทำอะไรตอนนี้ เรากำลังพูดถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ปัดส่งสัญญาณถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า

เมื่อถามว่า ขณะนี้จะทำให้เก้าอี้ดูมั่นคงขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยคิด เก้าอี้จะมั่นคงหรือไม่มันอยู่ที่การทุ่มเทงาน ไม่เคยคิดเอาจำนวน สส.ที่มีอยู่มาเป็นตัวชี้วัดว่าจะอยู่ในตำแหน่งได้หรือไม่ เมื่อถามว่า เก้าอี้ที่เพิ่มขึ้น จะต้องให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อถามด้วยว่า เป็นการส่งสัญญาณไปถึงคนที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณอะไร

‘ไชยชนก’ขออย่านำปรับครม.รกสมอง

ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีการประชุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนภัยสาธารณภัยในระดับพื้นที่ (จังหวัดอุบลราชธานีอำนาจเจริญ และศรีสะเกษ) ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบาย ก่อนการประชุม มีการเสวนาหัวข้อ“การเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนสาธารณภัยในระดับพื้นที่“โดย นายไชยขนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย มาร่วมเป็นวิทยากรเสวนา ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า เชื่อว่าทุกท่านติดตามสถานการณ์การเมืองใกล้ชิด โดยเฉพาะการปรับ ครม.สิ่งเดียวที่ตนจะต้องย้ำกับทุกคนคือ สติ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้บริหารของพวกท่าน หน้าที่ยังคงเหมือนเดิม คือต่อประชาชนคนไทย ไม่ใช่ผู้บริหาร สถานการณ์เรื่องภัยความมั่นคงเป็นแนวหลัง ในฐานะที่รวมตัวกัน อยากจะบอกว่า ต้องมีสติ เราต้องเตือนสติประชาชนเช่นกันในเรื่องนี้ วันนี้เราต้องไม่ตระหนก วันนี้รั้วของชาติกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเชื่อว่า จะสามารถผ่านไปได้ทุกอย่างและจะทำอย่างมีศักยภาพ ด้วยความภาคภูมิใจและความสามัคคี หลังจากนั้นเราจะพัฒนาประเทศไปได้อย่างยั่งยืน อยากให้ทุกท่านเชื่อมั่นและมั่นใจว่า หากเราสามัคคีกัน ตระหนักทำอย่างมีสติ เราสามารถทำได้อย่างแน่นอน

‘รทสช.’ยืนยันไม่ปรับเปลี่ยนตัวรมต.

นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุผ่านสื่อว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากโดนยึดกระทรวงพลังงาน ว่า ตนจะพูดเล่นทำไม มีที่ไหน เมื่อเขาไล่ออกเราจะหน้าด้านนั่งอยู่ทำไม ซึ่งกระแสกปรับ ครม.ตนถามหัวหน้าพรรคเมื่อ 3-4 วันก่อนบอกว่า นายกฯยังไม่มีการสอบถามว่า จะให้ปรับอย่างไร เราก็ต้องอยู่เฉยๆ แต่หากเขาถามมา เราก็จะยืนยันตำแหน่งเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน เรายังยืนยันตามนี้คือ ไม่มีการปรับเปลี่ยนทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯและแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าให้พรรครวมไทยสร้างชาติไปจัดการปัญหาของตัวเองก่อน นายวิทยา กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเมื่อเราร่วมหัวจมท้ายกันมาแล้ว ก็รอเวลายุบสภาแล้วค่อยแยกย้ายจากกันไป ปัญหาที่เกิดในพรรคเป็นเรื่องธรรมดา หัวหน้ากับเลขาธิการพรรคต้องปวดหัวกันบ้าง ก็ต้องยอมรับแรงเสียดทานให้ได้ ก็ต้องอยู่กันไปอย่างนี้ จนถึงขณะนี้นายกฯยังไม่ได้ประสานมาว่า ให้มีการปรับ และยังไม่มีการนัดหัวหน้าพรรคกินข้าวเพื่อพูดคุย ซึ่งคนที่จะพูดคุยเรื่องนี้คือ หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เราให้สิทธิ์ 2คนนี้ในการตัดสินใจ

ยึดเก้าอี้ไปให้คนนอกเราจะอยู่ทำไม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากพรรคแกนนำต้องการให้พรรครทสช.สละโควตาให้กับบุคคลภายนอก นายวิทยา กล่าวว่า ในการตั้งรัฐบาล เขาเชิญเราไป เราก็ส่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคไปพูดคุย ได้ข้อสรุปอย่างไรก็ยุติ เวลาเขาจะเอาใครมาแทนก็ต้องคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรค แล้วใครล่ะที่เป็นคนยื่นหนังสือมาขอเป็นแทน หรือหากรัฐบาลตัดสินใจเอาคนอื่นมาเป็นแทนก็เท่ากับเชิญเราออกจากรัฐบาลแล้ว ซึ่งเป็นการเมืองตื้นๆ อย่าคิดอะไรมาก เมื่อถามว่า ในแง่กฎหมายเป็นไปได้หรือไม่ว่านายกฯสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อรัฐมนตรีด้วยตัวเองก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ นายวิทยา กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ก็เท่ากับเขาให้เราออก เป็นการแสดงว่าไม่ต้องการพรรคเราแล้ว ถ้าจะเอาคนอื่นเราก็ต้องออก จะนั่งไปทำไม

ถ้าเปลี่ยนกระทรวงพร้อมเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ระบุเช่นเดียวกันว่าหากเปลี่ยนกระทรวงก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน นายวิทยา กล่าวว่า ก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ตนคิดว่านายกฯคงไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก ตอนนี้ประเทศกำลังออกศึกกับความยากจนและกัมพูชาอยู่ ถ้าเปลี่ยนแบบนี้ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น คิดได้แต่จะทำยังไง ซึ่งหากเราออกก็ต้องเป็นฝ่ายค้านโดยปริยาย เพราะเขาไม่ให้อยู่จึงจำเป็น

‘สุชาติ’ตั้งชื่อ“กลุ่ม18”จับมือลุยการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวกลุ่ม สส.นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ภายหลังร่วมรับประทานอาหารคํ่ากันที่ร้าน Neil’s Tavern Steak เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มสส.ได้ตกลงกันว่าหลังจากนี้จะใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่ม 18” เนื่องจากมีสมาชิกเป็น สส.จากหลายกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มของนายสุชาติ แต่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติได้และ18คนจะเหนียวแน่น ไม่มีถอยหลัง เดินหน้าอย่างเดียว และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันว่า ตลอด2ปีที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานในพรรคได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้บริหารของพรรค โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ไม่ได้สร้างความสมดุลและสนับสนุนการทำงานของ สส.ในพรรค ทุกอย่างไม่เป็นธรรม จึงตัดสินใจแสดงจุดยืนว่า จะอยู่กันเป็นกลุ่ม 18 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อ สส.ในกลุ่ม18ได้แก่ 1.นายสุชาติ 2.นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ 3.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ 4.นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ 5.นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ 6.นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ 7.นายวัชระ ยาวอหะซัน สส.เขต 1 นราธิวาส 8.นายพิพิธ รัตนรักษ์ สส.เขต 2สุราษฎร์ธานี 9.นายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน สส.เขต 4 สุราษฎร์ธานี 10.นายปรเมษฐ์ จินา สส.เขต 5 สุราษฎร์ธานี 11.นายถนอมพงษ์ หลีกภัย สส.เขต 1 ตรัง 12.นางธิวัลรัตน์ อังกินันท์ สส.เขต 1 เพชรบุรี 13.จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เขต 3 เพชรบุรี 14.นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.เขต 4 ชลบุรี 15.นายศาสตรา ศรีปาน สส.เขต 2 สงขลา 16.น.ส.กุลวลี นพอบรมดี สส.เขต 1 ราชบุรี 17.นายอนุชา นาคาศัย สส.เขต 1 ชัยนาท และ 18.น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.เขต 10 นครศรีธรรมราช