วันที่ 14 มิถุนายน 2568 นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Kamnoon Sidhisamarn ระบุว่า เขมรถือฤกษ์ 15 มิถุนา 2025 วันครบรอบ 63 ปีได้ปราสาทพระวิหาร ยื่นศาล ICJ ไม่สน JBC หวังได้อีก 3 ปราสาท 1 พื้นที่
เป็นคนไทยต้องอดทน!
ขอยืมคำของตัวละครในเรื่อง 2499 มาแปลงเพื่อระบายความรู้สึกช่วงนี้จริง ๆ เพราะขณะที่ได้ยินเสียงซ้ำ ๆ จากนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่าเข้าใจกัน ๆ กำลังคุยกัน ๆ และเจบีซี ๆ ๆ ๆ ๆ สมเด็จฮุนมาเนตก็แถลงผ่าน fb ก่อนประชุมเจบีซีไม่กี่ชั่วโมงรวมสองสามประการ
สำหรับผม ไฮไลท์อยู่ที่กำหนดการยื่นศาล ICJ
“กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ จะส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลโลกในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2025”
บอกตรง ๆ ขนลุก !
จะบังเอิญหรือเจตนาไม่อาจทราบได้ แต่วันที่ 15 มิถุนายน 2025 หรือ 2568 มีความสำคัญกว่าวันธรรมดา ๆ ทั่วไป และก็ไม่ใช่วันอาทิตย์ธรรมดา ๆ ทั่วไปแน่นอน
เพราะเป็นวันครบรอบ 63 ปีของชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกัมพูชาต่อไทยบนเวทีศาลโลก หรือ ICJ ในคดีพิพาทที่ต่อสู้กันทุกรูปแบบเกือบ 3 ปี
วันที่ 15 มิถุนายน 1962 หรือ 2505 คือวันอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารของ ICJ
ย้อนเวลาไป 63 ปี คนไทยทั้งเสียใจและขึ้งโกรธกันครึ่งค่อนประเทศ
น้ำตาที่หลั่งออกมาท่วมท้นแผ่นดิน
วันนี้ ปิศาจแห่งคำพิพากษา 15 มิถุนายน 2505 ยังตามมาหลอกหลอนคนไทยอีก
ปิศาจตนนั้นใช้สิ่งที่เรียกว่าหลักกฎหมายปิดปาก หรือ Estoppel มาพันธนาการว่าประเทศไทยยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสที่จัดทำขึ้นในปีค.ศ. 1908 แล้ว ก่อนจะปักมีดลงตรงขั้วหัวใจว่าปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในอาณาเขตใต้อธิปไตยของกัมพูชา
แผนที่จะตรงกับการแบ่งเส้นเขตแดนไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศสที่ให้ยึดหลักสันปันน้ำตามอนุสัญญาค.ศ. 1904 หรือไม่ ไม่สำคัญ
เพราะเมื่อไทยผูกพันกับแผนที่ตามหลักกฎหมายปิดปากแล้ว แผนที่เขียนไว้อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามแผนที่ - ปิศาจว่าไว้อย่างนั้น
แม้วันนี้เราไม่ได้พูดเรื่องปราสาทพระวิหาร
แต่ปราสาทอื่น ๆ บริเวณชายแดน และพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนหลายจุด ก็จะมีความเกี่ยวพันกับแผนที่ทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2505 ที่นำมาแถลงกับพี่น้องประชาชนบรรยายลักษณะปิศาจของคำพิพากษา 15 มิถุนายน 2505 ไว้ได้อย่างกระชับและมีพลัง
ขอนำบางตอนมาร่วมรำลึกความทรงจำเนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปีแห่งการหลั่งน้ำตาของคนไทยทั้งชาติดังนี้
“รัฐบาลขอแถลงให้ประชาชนชาวไทย และชาวโลกทั้งหลายทราบทั่วกันว่า ภายหลังที่ได้อ่านคำพิพากษาโดยตลอดแล้ว รัฐบาลมีความเสียใจที่ไม่อาจจะเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ด้วยเหตุผลหลายประการทั้งในทางข้อเท็จจริง ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ และในทางหลักความยุติธรรม…
”ศาลมิได้ยึดตัวบทสนธิสัญญาระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส แต่กลับยึดตามแผนที่ซึ่งขัดต่อตัวบทอันชัดแจ้งของสนธิสัญญา…
“ในการนี้ศาลอ้างเหตุที่ฝ่ายไทยมิได้ประท้วงความไม่ถูกต้องของแผนที่ เป็นทางให้ฝ่ายไทยจะต้องเสียอธิปไตยบนดินแดน แต่ในขณะเดียวกันไม่ใช้หลักเดียวกันนี้ขึ้นกล่าวอ้างแก่ฝ่ายกัมพูชาและฝรั่งเศสในเรื่องการปกครองของฝ่ายไทยเหนือเขาพระวิหารมาเป็นเวลาช้านานกว่า 50 ปี…
“นอกจากจะไม่ยอมรับฟังและหักล้างคารมและเหตุผลที่ฝ่ายไทยเสนอ
ต่อศาลแล้ว ในคำพิพากษายังแสดงให้เห็นว่าไม่มีความพยายามสืบหาข้อเท็จจริงในท้องที่ให้แน่ชัด ทั้งไม่นำพาต่อความเห็นผู้เชี่ยวชาญการแผนที่...
”นอกจากนั้นยังมีข้อสำคัญอีกว่า แผนที่ซึ่งศาลถือเป็นหลักชี้ขาดให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารนั้น ก็เป็นแผนที่ซึ่งได้สร้างขึ้นผิดไปจากความแท้จริงแห่งภูมิประเทศอีกด้วย…
“…ฯลฯ…..”
จะประชุม JBC วันนี้ เมื่อวานนี้ผู้นำเขมรผู้ลูกประกาศแล้วว่าพรุ่งนี้จะยื่นเรื่องต่อ ICJ
มารอดูว่าผู้นำไทยผู้ลูกจะแผ่นเสียงตกร่องทำนองเจบีซี ๆ ๆ ๆ อีกหรือไม่
บอกแล้วไง - เป็นคนไทยต้องอดทน !
คำนูณ สิทธิสมาน
14 มิถุนายน 2568
1 วันก่อนวันครบรอบ 63 ปีคำพิพากษาศาลโลกให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร
#63ปีคำพิพากษาศาลโลก #ICJ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี