นัดบุกสตช.จันทร์นี้
คปท.ยื่นหนังสือถึงผบ.ตร.
จัดการ2หมอรักษา 'แม้ว'
แกนนำ คปท.ประกาศบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จันทร์นี้เรียกร้อง ผบ.ตร. ไล่ออก 2 หมอ หลังแพทยสภาชี้ชัดให้ข้อมูลทางการแพทย์บิดเบือนเป็นเหตุอำนวยความสะดวกนักโทษคนดัง เพื่อไทยป้องแม้วอย่าโยงมติแพทย์สภา
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่16 มิถุนายนนี้ เวลา 09.30 น. คปท. จะรวมตัวกันที่เวทีชมัยมรุเชฐ ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อเรียกร้องให้มีคำสั่งไล่ออกจากราชการแพทย์ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกระบุว่าให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ ไม่ตรงกับความเป็นจริง และเป็นเหตุให้นักโทษคนหนึ่งได้รับ อภิสิทธิ์ในการพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลตำรวจ
นายพิชิตระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มุ่งเรียกร้องความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจในทางที่ส่งผลกระทบต่อความศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม พร้อมย้ำว่า การแสดงออกของ คปท. จะเป็นไปโดยสงบ และเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อทวงถามความยุติธรรมจากผู้มีอำนาจสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี แพทยสภาโหวตเกิน 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิมลงโทษ 3 แพทย์ ปม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รักษาอาการป่วยที่ชั้น 14โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ประเด็นแพทยสภา กับประเด็นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อม หรือนัดไต่สวนคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เป็นคนละประเด็นกัน เรื่องแพทยสภาตรวจสอบจริยธรรม 3 แพทย์มติที่ออกมาจะมีความชัดเจนหรือมีข้อเคลือบแคลงใจสงสัยถึงอคติในใจ หรือมีความไม่เป็นกลางหรือนัยใดหรือไม่ บางส่วนก็สะท้อนผ่านผลโพลล์ออกมาแล้ว ส่วนแพทย์ 3 ท่านก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเพื่อเข้าถึงความเป็นธรรมให้กับตัวเองและสามารถสู้ต่อ รวมถึงกระบวนการในการยื่นศาลปกครองได้
กรณีนี้จึงอาจยังไม่จบแค่ในชั้นแพทยสภานี้ แต่ขอยืนยันว่าประเด็นของแพทยสภากับประเด็นของศาลฯเป็นคนละกรณีกัน เท่าที่ติดตามข่าว ทีมงานฝ่ายกฎหมายของนายทักษิณ มีความเชื่อมั่นว่า กระบวนการทางราชทัณฑ์มันจบแล้ว ถือว่านายทักษิณ ถูกคุมขังและเป็นการคุมขังในโรงพยาบาล ซึ่งครบถ้วนแล้ว แต่ทั้งนี้สุดแต่ดุลพินิจของศาล ไม่มีใครไปก้าวล่วงได้
“กรณีมติแพทยสภา กับคดีชั้น 14โรงพยาบาลตำรวจที่ศาลฯ ถือเป็นคนละประเด็น ไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่เชื่อมโยงกัน ไม่ควรนำมาเชื่อมโยงให้เกิดความสับสน” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรม โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ไต่สวนนัดแรก ก็ได้คำตอบแล้ว” ระบุว่า กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาเป็นนัดแรก และมีการกำหนดไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก นัดไต่สวนในวันที่ 4, 8, 15 กรกฎาคม ดังนั้นการไต่สวนพยานให้ครบ 20 ปาก ต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย
ตามที่ได้ติดตามและประมวลข่าวจากการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พอจะเห็นข้อเท็จจริงอะไรบางอย่าง ถ้าสมมุติว่าเป็นศาลฎีกา
หรือเป็นผู้พิพากษาพิจารณาคดีนี้ ผมคิดว่าอาจจะไม่ต้องไต่สวนครบ 20 ปากก็ได้ ถ้าดูตามพยานหลักฐานในตอนนี้ สามารถไต่สวนแค่พยานหลักฐาน 2 ปาก ก็น่าที่จะสรุปผลหรือสามารถที่จะชี้ได้ว่าคดีชั้น 14 เป็นอย่างไร
สำหรับหลักฐานสำคัญ เช่น ผลการลงมติของแพทยสภาในการลงโทษแพทย์ 3 คน ที่ช่วยเหลือคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ซึ่งสามารถที่จะดูในรายละเอียดการสอบสวนของ
แพทยสภาได้ โดยเฉพาะเวชระเบียน ซึ่งเป็นข้อมูลที่แพทยสภาสามารถวินิจฉัยได้ว่า นายทักษิณป่วยวิกฤตหรือไม่ ป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ เพราะเวชระเบียนของนายทักษิณ ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานได้ดู แต่เชื่อว่าแพทยสภา ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพเดียวกันสามารถดูได้ และคำวินิจฉัยหรือการตัดสินของกรรมการแพทยสภา เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งศาลสามารถรับฟังได้ เป็นพยานเอกสารชิ้นสำคัญ เป็นสารตั้งต้นของการไต่สวนคดีชั้น 14 ว่าป่วยจริงหรือป่วยทิพย์
ส่วนพยานบุคคลศาลฎีกาฯได้ไต่สวนหนึ่งคน คือนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อได้ไต่สวนเพียงเดียว สามารถเห็นข้อบกพร่อง ข้อพิรุธในหลายประเด็น เช่น ถามถึงการเขียนใบส่งตัวล่วงหน้าก่อนที่จะมีการตรวจ หรือศาลถามถึงการส่งตัวนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจเลย โดยไม่ผ่านโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ซึ่งไม่เคยมีปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลย ฯลฯ
ตอนนี้แค่พยาน 2 เรื่องนี้ น่าจะมีหลักฐานเพียงพอ ที่จะวินิจฉัยได้หรือคาดการณ์ได้เลยว่า นายทักษิณป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ ยังไม่รวมถึงพยานที่ศาลฎีกาฯจะไต่สวนให้ครบกระบวนความ คือพยานทั้ง 20 ปาก หรืออาจจะมากกว่านั้น ตามที่ศาลฎีกาเห็นสมควร
แต่สำหรับผมในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ที่ติดตามเรื่องนี้ เห็นว่าแค่พยาน 2 เรื่องนี้ก็เพียงพอ สำหรับการตัดสินแล้วว่านายทักษิณป่วยทิพย์และไม่ได้ติดคุกเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี