วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'เพื่อไทย'ลุยปรับคณะรัฐมนตรี 'อิ๊งค์'ขอคุยเดี่ยว'อนุทิน' ลิ่วล้อตามแซะพรรคร่วมรบ.

'เพื่อไทย'ลุยปรับคณะรัฐมนตรี 'อิ๊งค์'ขอคุยเดี่ยว'อนุทิน' ลิ่วล้อตามแซะพรรคร่วมรบ.

วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : นายกฯ‘อิ๊งค์’ แนวหน้าออนไลน์ ปมปรับ ครม. โพลอยากปรับ กลาโหม เรียก‘อนุทิน’ ลิ่วล้อตามแซะพรรคร่วม หน.ภูมิใจไทย
  •  

'เพื่อไทย'ลุยปรับคณะรัฐมนตรี
'อิ๊งค์'ขอคุยเดี่ยว'อนุทิน'
ลิ่วล้อตามแซะพรรคร่วมรบ.
ถ้าไม่พอใจก็ไปเป็นฝ่ายค้าน
เปิดโพลรมว.กห.อาการหนัก
ปชช.อยากให้ปรับเป็นคนแรก

นายกฯ‘อิ๊งค์’จ่อเรียก‘อนุทิน’หน.ภูมิใจไทย คุยพรรคเดียว ปมปรับ ครม. ปล่อยลิ่วล้อตามแซะพรรคร่วมรัฐบาลหากไม่พอใจอยู่แล้วไร้ความสุขก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ด้านลูกน้องเสี่ยหนูฉะกลับพววแมลงหวี่  ‘มหิดลโพล’เผยปชช.อยากให้ปรับครม.มากที่สุด คือเก้าอี้   รมว.กลาโหม ตามด้วย  

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำพรรคภูมิใจไทย หารือเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ เพียงพรรคเดียว หลังมีการเลื่อนการประชุม ครม.สัญจรออกไป จนถูกจับจ้องว่า เป็นการเลื่อนเพื่อรอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สอดคล้องกับที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า หากไม่ได้อยู่กระทรวงมหาดไทยต่อ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน


ขณะที่ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ยังไม่มีแนวคิดจะปรับอะไร เว้นแต่พรรคนั้นๆจะเสนอปรับในส่วนของพรรคตัวเองเข้ามา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของพรรคกล้าธรรม เตรียมเสนอปรับรัฐมนตรีของพรรคหนึ่งตำแหน่ง โดยจะเสนอให้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา กลับมาเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ อีกครั้ง แทนนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ผู้เป็นพ่อ ส่วนพรรคร่วมอื่นๆ ยังคงยืนยันโควตาเดิม

‘อนุสรณ์’เชื่อรบ.ยังทำงานได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลื่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ ออกไปก่อน เนื่องจากติดภารกิจไปต่างประเทศ และอาจรอให้ การปรับครม.แล้วเสร็จก่อนว่า การปรับ ครม.จะปรับเมื่อไหร่ ไม่มีผู้ใดทราบ เพราะอำนาจการปรับครม.อยู่ที่ท่านนายกฯแต่เพียงผู้เดียว ฉะนั้น จึงขอให้เชื่อมั่นน.ส.แพทองธารว่าหากปรับครม.การทำงานของรัฐบาล ก็จะดีขึ้นด้วยรัฐมนตรีใหม่ วิธีคิด วิธีนำการทำงานแบบใหม่ หากยังไม่ปรับ รัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็ยังสามารถทำงานได้

“ทั้งนี้ หากสังเกตจะพบว่านายกฯไม่ติดยึดเรื่องปรับ หรือไม่ปรับครม.แต่สถานการณ์โลก สถานการณ์ประเทศ ณ เวลานี้ การแข่งขันสูง ทุกคนจึงต้องตั้งตนบนความพร้อมสูงสุดใช้เวลาในการเป็นรัฐมนตรีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ส่วนรัฐมนตรีที่จะปรับเข้ามาใหม่ก็ขอให้ตั้งตนบนความพร้อม เพราะงานของรัฐบาลรอไม่ได้ ไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนพีเรียด เพราะความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้”นายอนุสรณ์ ย้ำ

แซะถ้าไม่พอใจก็ไปเป็นฝ่ายค้าน

นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะมีปัญหาภายในก่อนการปรับครม.หรือไม่นั้น ถือเป็นวิถีของแต่ละพรรคที่จะต้องบริหารจัดการแก้ไขปัญหาภายในพรรคของตัวเองให้ดี อย่าให้ปัญหาภายในของพรรคของตัวเองส่งผลกระทบ
ต่อรัฐบาล

“สำหรับกรณีที่บางพรรคแสดงอาการไม่พอใจ หากถูกปรับเปลี่ยนกระทรวงนั้น ก็ขอให้เชื่อมั่นนายกฯแต่หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคนั้น อยู่เป็นรัฐบาลร่วมกันแล้ว ไม่มีความสุข ไม่สามารถพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับให้งานของรัฐบาลขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ก็สามารถตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านได้ ถือเป็นวิถีของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนได้”นายอนุสรณ์ กล่าว และว่าหลายปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศ เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และคณะรัฐมนตรี สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะครม.เดิมหรือ ครม.ใหม่ เชื่อว่าทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ได้อย่างดี

‘วิสุทธิ์’ชี้‘ภท.’ขู่ เรื่องธรรมดา

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานสส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยระบุว่าหากไม่ได้กระทรวงมหาดไทยพร้อมถอนตัวและเป็นฝ่ายค้าน ว่า เป็นธรรมดาในขณะนี้ที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งทุกคนต้องพูดเช่นนั้นเช่นนี้ แต่สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ต้องมีการตกลงกันได้ ไม่มีใครอยากกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งการที่เขาจะพูดก็เป็นสิทธิ์ เขาอยากทำอะไรก็เป็นเรื่องต่อรองปกติ

เมื่อถามว่า มองว่าจะถึงขั้นที่พรรคภูมิใจไทยจะออกไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี สุดท้ายก็ต้องมีการเจรจากันอยู่แล้ว การเมืองคือต้องยอมรับข้อเท็จจริง โดยเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่ต้องเจรจากัน เราเข้าใจและไม่มีอะไรเป็นข้อกังวลในเรื่องนี้

โยนอำนาจ‘นายกฯ’ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า สส.พรรคเพื่อไทยได้คุยในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สส.ของพรรคเพื่อไทย ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีเต็มที่ในการตัดสินใจ เพราะท่านเป็นคนที่ดูแลการบริหาร และทราบดีที่สุดว่าควรจะบริหารหรือกำกับอย่างไร ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าหากไม่มีพรรคภูมิใจไทย เสียงรัฐบาลจะน้อยลงเพราะพรรคภูมิใจไทย ก็ถือเป็นพรรคที่มีจำนวนสส.มาก เป็นอันดับที่ 2 ของฝั่งรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนก็มีตัวเลขในมือที่ต้องเจรจาอยู่แล้ว ฉะนั้นการที่พูดอย่างนั้นอย่างนี้ก็อาจจะเป็นเทคนิคการเจรจาทางการเมือง เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรตื่นเต้นหรือน่ากังวล และไม่มีอะไรร้ายแรง หรือแตกหักกัน

‘สุทิน’ชี้‘หนู’แค่อยากรักษาสถานะ

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศ พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากโดนยึดเก้าอี้มท.1 ว่า มองว่าเป็นเรื่องของความพยายามที่อยากจะรักษาสถานะของตัวเอง ไม่เพียงแค่นายอนุทินเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคน ทุกพรรคที่คาดว่าจะถูกปรับออกซึ่งก็แสดงออกได้ หลายวิธีการทั้งการต่อรอง ขู่ หรือ ขอความเห็นใจ ซึ่งตนเชื่อว่าสังคมพอจะมองออกว่าบุคคลใดใช้วิธีการอย่างไร ทั้งนี้ หากเป็นประเทศที่ไม่คุ้นชินกับการมีรัฐบาลผสมก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง แต่ไทยเราเป็นประเทศที่มีประสบการณ์สูงในเรื่องของรัฐบาลผสม แม้ว่าจะรู้สึกน้อยใจ งอน หรือมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เราก็จะมีวิธีการที่จะหาจุดลงตัวได้เสมอ

หนุน‘อิ๊งค์’ถึงเวลาปรับ ครม.

“ส่วนตัวผมมองว่าถึงเวลาปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อให้หลายนโยบายเดินหน้าเป็นรูปธรรม นำไปสู่การผลักดันผลงานต่างๆ เพื่อประชาชนการปรับ ครม.ถือเป็นเรื่องปกติแต่ในบริบททางการเมืองรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หากไม่เอื้ออำนวยให้มีการปรับ ก็เป็นเรื่องน่าห่วง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯที่จะชั่งน้ำหนัก รวมถึงต้องดูภูมิต้านทานของรัฐบาลด้วย หากเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแรงก็ปรับได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรามีภูมิต้านทานที่ยังเปราะบาง ก็ยังไม่เหมาะ แต่ผมเชื่อว่าท่านนายกฯจะวิเคราะห์สถานการณ์และตัดสินใจเรื่องปรับครม.ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะท่านเองก็มีคณะทำงาน มีทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ผ่านเรื่องนี้มาเยอะ”นายสุทิน กล่าว

‘วรชัย’โดดยุส่ง‘อนุทิน’จะไปก็ไป

ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมเป็นฝ่ายค้าน มองอย่างไรว่า สิ่งที่ประชาชนเห็นอยู่วันนี้เขาเห็นว่ารัฐบาลทำงานกันคนละทิศละทาง ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย มีให้เห็นหลายครั้งในการพิจารณากฎหมายต่างๆรวมถึงการทำงานของแต่ละกระทรวงก็ไม่สอดประสานกัน ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ประเทศชาติและประชาชน
เสียประโยชน์ เมื่ออยู่กันไม่ได้ก็ควรต่างคนต่างเดินไม่ควรทำงานด้วยกันต่อเพราะเห็นว่าความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย มีแต่จะลุกลามขยายตัวขึ้นทุกวันไม่มีท่าทีจะกลับมาดีเหมือนเดิม ทำให้เห็นว่าประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย

ซัดอยู่ก็อึดอัด อยู่ก็ขัดกันทุกวัน

นายวรชัย กล่าวว่า เมื่อนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ขู่ว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตนว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด เพราะนายอนุทินก็อยู่ในภาวะที่อยู่อย่างอึดอัด ทำงานด้วยกันไม่ได้ควรจะแยกกันเดินต่างคนต่างทำหน้าที่ให้ประชาชนในบทบาทที่เลือก ไม่ว่าเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้านก็ทำงานให้ประชาชนได้ ในอนาคตหากพรรคภูมิใจไทย สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนจนชนะเลือกตั้งได้วันนั้น นายอนุทินก็สามารถเป็นนายกฯทำงานให้ประชาชนได้จึงควรถือโอกาสนี้จังหวะนี้ที่สถานการณ์สุกงอมในการปรับคณะรัฐมนตรีแยกทางในจังหวะที่ประชาชนก็ไม่ได้ต่อว่าทำให้นายอนุทินจะไม่เสียหายทางการเมือง

เด็กภท.สวนแมลงหวี่น่ารำคาญ

ขณะที่ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย แสดงความคิดเห็นกรณี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาไล่พรรคร่วมที่ไม่สบายใจให้ถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้านว่า “สส.ท่านนี้มีอำนาจอะไรมาพูด? เพราะอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี อยู่ที่นายกรัฐมนตรี พรรคร่วมฯ ก็รอฟัง นายกฯ เท่านั้น เสียงแมลงหวี่แมลงวันแบบนี้ แค่ทำให้รำคาญหู”

นายพลพีร์กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น สส.เขต ลงพื้นที่ตลอดเวลา ยืนยันว่าประชาชนไม่ได้อยากเห็นการปรับ ครม. แต่กลับกังวลเรื่องปากท้องและการทำมาหากิน ชาวบ้านอยากเห็นการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนั่นต่างหากคือสิ่งที่นักการเมืองควรเร่งดูแลแก้ไข นอกจากนี้ เรายังมีปัญหาชายแดนที่กำลังลุกลาม บานปลาย และสุ่มเสี่ยงถึงขั้นเสียดินแดน แบบนี้มันใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องการเมืองหรือไม่?

จี้จัดความสำคัญ/เลิกส่งเสียงไร้สาระ

“ขณะนี้ราคามันสำปะหลังตกต่ำ ชาวสวนขาดทุนกันทั่วประเทศขณะที่สินค้าทุกอย่างก็แพงขึ้น แต่รายได้ของประชาชนกลับลดลง เรื่องปรับ ครม. จึงไม่ควรหมกมุ่นเกินไปเพราะยิ่งวุ่นวาย ภาพลักษณ์ของประเทศก็ยิ่งไม่น่าเชื่อถือ แล้วแบบนี้ใครจะกล้ามาลงทุน เราควรจัดลำดับความสำคัญของปัญหา แล้วเร่งแก้ไขให้ตรงจุด ตอนนี้มีทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาชายแดน ต้องจัดการให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องปรับ ครม. ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง ก็ขอให้เพลาๆ ลงบ้าง ส่วนพวกแมลงหวี่ แมลงวันก็ช่วยเลิกส่งเสียงกันสักทีจะได้มีข่าวที่เชื่อถือได้จริงๆ ไม่ใช่มีแต่เสียงหึ่งๆ ไร้สาระ” นายพลพีร์ กล่าว

เปิดผลสำรวจ‘มหิดลโพล’

วันเดียวกัน รศ.ดร.สุณีย์ กัลยะจิตร คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผย ผลสำรวจประเด็น “คนไทย ต้องการปรับ ครม.หรือไม่” ของคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเป็นการสำรวจทัศนคติและความคิดเห็นด้านสถานการณ์การศึกษาและปัญหาที่เป็นกระแสสังคม ในพื้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ คณะผู้วิจัยประยุกต์ใช้การวิจัยเชิงสำรวจด้วยการลงพื้นที่สัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า (face to face) และการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (phone survey) โดยใช้แบบสัมภาษณ์ผ่านช่องทางออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 11,802 ตัวอย่าง ในช่วงระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายน 2568 ผลการศึกษาสรุปสาระสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นในประเด็น ท่านต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 87.6 ระบุว่า ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.)

กระทุ้งแก้ปัญหาศก.ปากท้อง

สาเหตุหลักที่ทำให้ประชาชนต้องการให้มีการปรับ ครม. สะท้อนถึงความไม่พอใจในประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง การขาดภาวะผู้นำ และความชัดเจนในการบริหาร การไม่ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ รวมถึงปัญหาด้านการทุจริต ความไม่โปร่งใส และการ
ไม่ตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการและคุณภาพชีวิต รวมถึงปัญหาเฉพาะพื้นที่ อย่างปัญหาพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นต้น

ห่วงปรับเพิ่มขัดแย้ง-เกมการเมือง

ขณะที่ความคิดเห็นประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสำรวจ หรือร้อยละ 12.4 ระบุว่า ไม่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเหตุผลที่ยังไม่ต้องการให้มีการปรับ ครม. ส่วนใหญ่มาจากการรับรู้ถึงประสิทธิภาพและความตั้งใจในการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ความเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ การเห็นว่ารัฐบาลเข้าใจประชาชน รวมถึงความต้องการให้เกิดความเสถียรภาพและการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การพัฒนาประเทศดำเนินต่อไปได้ และมีความกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีใหม่ อาจนำมาซึ่งปัญหาด้านประสบการณ์ ความขัดแย้ง หรือการเล่นเกมการเมือง แทนที่จะเป็นการสร้างประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

อยากให้ปรับรมต.กลาโหม-คลัง

เมื่อสอบถามถึงกระทรวงที่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีมากที่สุด 5 อันดับ พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด หรือร้อยละ 46.75 ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีในส่วนของกระทรวงกลาโหมมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาอันดับ 2 คือ กระทรวงการคลัง ร้อยละ 41.86 อันดับ 3 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร้อยละ 38.26 อันดับ 4 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 28.93 อันดับ 5 มีสัดส่วนใกล้เคียงกันคือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยละ 27.89 และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 27.88 ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สําหรับ กระทรวงมหาดไทย ที่นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยออกมาระบุว่า พรรคภูมิใจไทยต้องคืนให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะไม่ตอบสนองนโยบายนั้น ผลสำรวจพบว่าอยู่ในอันดับที่ 12 ของกระทรวงที่อยากให้มีการปรับ ร้อยละ 18.03

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จากแนวหลัง สู่แนวหน้า!! พ่อค้า แม่ค้า ร่วมมอบของกิน-ของใช้แก่ทหารชายแดน จากแนวหลัง สู่แนวหน้า!! พ่อค้า แม่ค้า ร่วมมอบของกิน-ของใช้แก่ทหารชายแดน
  • จะได้รู้ใครเป็นใคร? \'อดีตครูวีระ\'ยุส่ง\'ไทย\'ปฏิบัติตามมาตรการ\'ตระกูลฮุน\' จะได้รู้ใครเป็นใคร? 'อดีตครูวีระ'ยุส่ง'ไทย'ปฏิบัติตามมาตรการ'ตระกูลฮุน'
  • ทบ.แจง\'ทหารไทย\'ปรับปรุงเส้นทางพื้นที่\'ช่องบก\' ในภารกิจลาดตระเวน-ส่งกำลังบำรุง ทบ.แจง'ทหารไทย'ปรับปรุงเส้นทางพื้นที่'ช่องบก' ในภารกิจลาดตระเวน-ส่งกำลังบำรุง
  • ทัวร์ลงทุกวัน! ไล่ตะเพิด‘อิ๊งค์’พ้นประเทศแทนแรงงานต่างด้าว ทัวร์ลงทุกวัน! ไล่ตะเพิด‘อิ๊งค์’พ้นประเทศแทนแรงงานต่างด้าว
  • ‘ตัวตึง พท.’ท้า‘ภท.’ไปเป็น\'ฝ่ายค้าน\' บอกก็ดี จะได้เช็คบิล‘เขากระโดง-ฮั้ว สว.’ ‘ตัวตึง พท.’ท้า‘ภท.’ไปเป็น'ฝ่ายค้าน' บอกก็ดี จะได้เช็คบิล‘เขากระโดง-ฮั้ว สว.’
  • \'นพดล’แนะ‘รัฐบาล’เพิ่ม 4 มาตรการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา 'นพดล’แนะ‘รัฐบาล’เพิ่ม 4 มาตรการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา
  •  

Breaking News

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 15-21 มิ.ย.68

'กัมพูชา'เสียงแข็ง! ต้องใช้แผนที่ 1:200,000 ชวนไทยไปศาลโลก

(คลิป) 'ฮุนทองธาร'เสียงอ่อนเสียงหวานกับ'ฮุนเซน'

'อินเดีย'สลดซ้ำ! เฮลิคอปเตอร์ตกในเทือกเขาหิมาลัย ดับ 7 ราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved