‘อนุทิน’ กราบแท้งกิ้วผลโพลให้ ‘มหาดไทย’ รั้งท้าย ‘กระทรวงสมควรถูกปรับ’ ลั่น ‘เสียงประชาชน’ ศักดิ์สิทธิ์กว่า ‘ลมปากวิจารณ์’ เชื่อมือ ‘กองทัพไทย’ จัดการ‘ปัญหาชายแดน’เอาอยู่
15มิ.ย.2568 ที่จ.อุดรธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโพลมหาวิทยาลัยมหิดลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ที่อยากให้ปรับกระทรวงกลาโหมมากที่สุด และกระทรวงมหาดไทยอยู่ในลำดับที่12ว่า โชคดีของตนอยู่ท้ายหน่อย โพลแบบนี้อยากอยู่ท้ายๆไม่อยากอยู่ 1 ใน 5 ก็ดีที่กระทรวงของพรรคภูมิใจไทย ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ ให้คะแนนกับการทำงานของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้กรุณาให้ตนอยู่ในลำดับท้ายๆ เท่ากับแสดงให้เห็นว่าพวกเราทำงาน
เมื่อถามว่า สวนทางกับการทำงานทางการเมืองหรือไม่ พรรคภูมิใจไทยถูกขย่มเรื่อง ของเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า เชื่อว่า เสียงของประชาชนศักดิ์สิทธิ์ และถูกต้องมากกว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใดๆทางการเมือง เพราะตรงนั้นเราไม่รู้ว่ามีอคติ หรือมีความโน้มเอียงใดๆบ้าง เราต้องฟังเสียงจากประชาชน ถึงบอกว่าต้องฝากผู้สื่อข่าวไปกราบ ขอบคุณประชาชนจากโพลมหิดล เพราะอย่างน้อยเป็นขวัญและกำลังใจของคนทำงาน
เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ทำตามโจทย์ของประเทศแก้ไขปัญหาชายแดนก่อน แต่ตอนนี้กลับมุ่งไปที่การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ก็เอาประชาชนเป็นที่ตั้งเหมือนกันอยู่แล้ว คนก็พูดแต่เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ไม่เคยเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว ยังไม่เคยหารือ ผู้สื่อข่าวก็ถามว่า เดี๋ยวก็จะปรับแล้ว แต่ตนก็ยังหารือกับนายกฯเมื่อวาน ท่านก็ยังสั่งงาน อวยพรให้เดินทางปลอดภัย แล้วช่วงนี้นายกรัฐมนตรีก็เดินทางเยอะ มท. 1 ก็เดินทางเยอะ ก็ให้กำลังใจในการทำงานของกันและกัน
เมื่อถามถึงผลสำรวจประชาชน ที่ระบุว่าเชื่อมั่นกองทัพในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย -กัมพูชามากกว่ารัฐบาล จะเป็นการสะท้อนภาวะผู้นำหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมองทุกอย่างให้เป็นบวกหมด วันนี้อย่าไปมองอะไร เพื่อให้มันแตกแยก ถ้าเป็นเรื่องการป้องกันอริราชศัตรู การรักษาอธิปไตยของบ้านเมือง ตอนนี้เรามีกองทัพ แต่กองทัพทำตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และในเรื่องการบริหารราชการชายแดนขอให้เป็นการตัดสินใจของกองทัพ ก็มอบไปที่แม่ทัพภาคที่ 2 ทุกอย่างมีการมอบเป็นทอดๆ สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือ การสนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน ทุกรูปแบบอย่างเต็ม กำลัง เรื่องในชายแดน เป็นเรื่องของทหารและกองทัพ รัฐบาลก็สนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายปกครอง ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย ให้การสนับสนุน ระวังหลังให้ มหาดไทยเป็นบ้านทหารเป็นรั้ว ตามสโลแกนของนายกรัฐมนตรี เราต้องทำบ้านให้เรียบร้อยเพื่อที่รั้วของเราจะได้มีความปลอดภัย
เมื่อถามถึงที่ทางกัมพูชาหันปลายกระบอกปืนมายังฝั่งไทย ในฐานะรมว.มหาดไทย จะช่วยสนับสนุนงานอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทหารเขามีวิธีการ ที่จะป้องกันอันตราย อยู่แล้ว ตนคิดว่าคนที่ไม่มีหน้าที่ในเรื่องนี้อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์หรือให้ความเห็นใดๆ ทหารมีแผนเผชิญเหตุรองรับ แผนการปะทะแผนการรุกทุกรูปแบบอยู่แล้ว ต้องเชื่อมั่น ในแสนยานุภาพของกองทัพ และตนเชื่อมั่น ขออย่าไปเพิ่มปัญหาใดๆ ให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น และต้องให้การสนับสนุน ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และเกิดความปลอดภัยสูงสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี