ไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง-ข่มขู่

‘อิ๊งค์’ทำเสียงแข็ง

ตั้ง‘ทีมไทยแลนด์’เจรจาเขมร

ย้ำ‘รบ.-กองทัพ’เป็นเอกภาพ

‘ฮุนเซน’ห้าวจัดบี้ไทยเปิดด่าน

ขู่ปิดด่านเขมรทั้งหมด17มิ.ย.นี้

กต.ตื่นออกแถลงการณ์ผลประชุม JBC ระบุไทยผิดหวังเขมร ไม่ลดตึงเครียด ลุย ดึง 4 พื้นที่ขึ้นศาลโลก พร้อมตอบโต้ 4 ประเด็นข้อกล่าวหา ยันไม่เคยคุยปมยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน และไม่เคยหารือปมพิพาท 3 ปราสาท 1 ดินแดนในวงJBC ด้านรอง มทภ. 2 ตั้งคำถามทันที ข้องใจคุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก ฉะเขมรเด็กเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ซัด’ไทย’เดินช้ากว่า’กัมพูชา’ไม่รู้กี่ก้าว ปล่อยเขมรเคลมดินแดน ขณะที่‘ฮุน เซน’ ขู่ปิดทุกด่าน ไม่ให้ไทยส่งสินค้าเข้ามาในเขมรได้อีก ถ้ารัฐบาลไทยไม่เปิดพรมแดนภายในพรุ่งนี้ ลั่นเขมรไม่ได้ขาดแคลนอาวุธ พร้อมสู้

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 15 มิถุนายน กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา Joint Boundary Commission (JBC) ครั้งที่ 6 มีเนื้อหาสรุปว่า ฝ่ายไทยแสดงความผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ต่อการที่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ยอมร่วมมือกับไทยในการแก้ปัญหา เฉพาะและลดความตึงเครียดระหว่างกัน แต่ยังเดินหน้านำเรื่องพื้นที่ 4 จุด คือ พื้นที่ช่องบก ปราสามตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ไปสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งสะท้อนว่าฝ่ายกัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีต่างๆ

กต.โต้เขมรไม่ได้หารือแผนที่1ต่อ2แสน

ในการนี้ ประธานฝ่ายไทยย้ำท่าทีไทยตอบโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา ดังนี้ 1.การดำเนินการของไทยเป็นไปโดยความจำเป็นตามหลักการป้องกันตัว จากการที่ถูกฝ่ายกัมพูชาโจมตีก่อนและเป็นไปอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ 2. ไทยแสดงความผิดหวังที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะปิดประตูการเจรจาอย่างสันติใน 4 พื้นที่ โดยท่าทีของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด ได้เน้นความสำคัญของการแก้ปัญหาระหว่างกันแบบทวิภาคีและบทบาทที่สำคัญของ JBC ในการทำให้มีเขตแดนชัดเจนระหว่างกัน เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย ยันไม่ได้หารือประเด็นแผนที่ 1:200000

ยึดMOU43-ไม่มีวาระชง4พื้นที่ขึ้นศาลโลก

แถลงการณ์ระบุอีกว่า 3.ไทยย้ำถึงความสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต้องยึดมั่น MOU 2543 ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้เห็นชอบร่วมกับไทย โดยไม่ดำเนินการใดๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของเขตแดน ไม่รุกล้ำเขตแดนระหว่างกัน และทั้งสองฝ่ายต้องใช้ความอดกลั้น เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย 4. ทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิดและขัดแย้งในวงกว้าง และย้ำถึงความสำคัญของการใช้กลไกความร่วมมือทวิภาคีอื่น ในการช่วยแก้ปัญหาด้วย

ทั้งนี้ การประชุมไม่ได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของ ICJ และมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200000 คณะกรรมการปักปันสยาม - อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือในประเด็นเทคนิคการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 ของการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตามแผนแม่บทฯ ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ซึ่งจะมีขึ้นช่วงเดือนกันยายน 2568

ทัวร์ลงบัวแก้วจี้แถลงเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกระทรวงการต่างประเทศได้โพสต์ชี้แจงตอบโต้กัมพูชาออกไป ทำให้มีคนเข้าไปกดอิโมจิ รูปโกรธ 1.7 พัน และแห่คอมเมนต์ถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้ออกหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ อาทิ ขอให้เปิดเผยการลงนามในการประชุม และวิดีโอการประชุมครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไรโดยโปร่งใสที่สุด และหนังสือชี้แจงการประชุมทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส และกัมพูชาค่ะ กราบบบ และที่สำคัญการประชุมบอกว่ายึดเอ็มโอยู 43 แต่บอกว่าไม่ได้มีการหารือพื้นที่ 1ต่อ 200,000 แปลกๆหรือเปล่าคะ ท่านประชุมกันคนละห้องเหรอคะ ปล่อยให้เค้าออกมาเคลม 1:200000 พูดป่าวๆ ส่วนตัวแทนที่ไปคุยก็เดินหนีนักข่าว ถ้ามั่นใจหลบทำไม มีศักดิ์มีศรีความเป็นชาติไทยบ้างไหม , ออกหนังสือตามหลักกฎหมายสากลด้วยครับ ขอร้องละ. อย่าแค่พูด เพราะหลายรอบแล้ว ที่พวกท่านไม่ยอมออกหนังสือเป็นทางการ แล้วปล่อยให้เขมรทำอยู่ฝ่ายเดียว แค่คำพูดลอยๆ มันใช้สู้ทางกฎหมายไม่ได้

รองมทพ.2ตั้ง5คำถามหลังถกเจบีซี

ด้านพล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ตั้งคำถาม หลังการประชุม JBC โดยหัวข้อ ระบุว่า “หมายเหตุ” มีเนื้อหา 5 ประเด็นคือ 1.รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรกัมพูชา เชื่อว่าการปักปันเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรทั้งสอง จะช่วยระงับความขัดแย้งตามชายแดนที่เกิดจากปัญหาเขตแดน และจะกระชับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเอื้ออำนวยต่อความร่วมมือของประชาชนของประเทศทั้งสอง

หมายเหตุ : เจตนาที่ดี?

2.ด้วยปรารถนาที่ดีของทั้งสองประเทศ จึงจัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ขึ้นในปี พ.ศ.2540 เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจาการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา

หมายเหตุ : ตามหลักสากลและประเทศที่เจริญทางความคิด?

3.ต่อมาได้จัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกในปี พ.ศ.2543 (MOU43) เพื่อเป็นกรอบและกลไกในการปฏิบัติงานของทั้งสองฝ่าย มีอำนาจหน้าที่ในข้อ 3(1)(จ) ระบุว่า “จัดทำแผนที่แสดงเส้นเขตแดนทางบกที่ได้สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกแล้ว”

หมายเหตุ : ถ้าตีความก็คงหมายถึง ให้ได้แผนที่ใหม่และหลักเขตแดนทางบกที่ลากตามสันปันน้ำที่ถูกต้องตามที่ระบุในสนธิสัญญา อนุสัญญา ที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย?

ฉะเขมรเด็กเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม

4.MOU43 ข้อ 5 ระบุว่า “เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล ทั้งสองฝ่ายจะงดเว้นการดำเนินการใดๆที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน”

หมายเหตุ ตั้งแต่มี MOU 43 ฝ่ายกัมพูชาละเมิดโดยสร้างกาสิโน สร้างอาคารสิ่งปลูกสร้าง ตัดเส้นทาง ปลูกพืชไร่กว่า 600 ครั้ง ฝ่ายไทยประท้วงให้แก้ไข แต่ได้รับความร่วมมือน้อยมาก ล่าสุดเผาศาลาตรีมุข นำกำลังเข้าขุดคูเลตล้ำอธิปไตยของไทย เราเจรจาก็ไม่ยอมถอนนำมาซึ่งการปะทะ ท้ายสุดกดดันทุกทางกว่าจะถอนกำลังออกไป เพื่อนบ้านที่ดีควรทำหรือไม่?

5.MOU43 ข้อ 8 ระบุว่า “ให้ระงับข้อพิพาทใดๆที่เกิดขึ้นจากการตีความหรือการบังคับใช้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้โดยสันติวิธีด้วยการปรึกษาหารือและการเจรจา”

หมายเหตุ : คุยกันดีๆแล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?

“เป็นเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม บอกกล่าวก็ดื้อด้าน ไม่ต้องมีข้อตกลงใดๆดีไหม เอาให้เละก่อนโต”

“วิโรจน์”ย้ำต้องอ่านเกมให้ขาด

มีความเห็นจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ฮุนเซนยิ้มกริ่ม ตัดเน็ต ตัดไฟ จากไทย เพื่อให้บริษัทในเครือข่ายตระกูลฮุนผูกขาดการขายไฟ ขายเน็ต” เนื้อหาสรุปว่า ต้องยอมรับแผนการอันแยบยลของฮุนเซน และฮุนมาเนตจริงๆ ที่ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก และอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในกัมพูชา จะยุติการจัดซื้อแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตจากไทย รวมทั้งจะยุติการซื้อไฟฟ้าจากไทยด้วย ระบุเหตุผลว่า กัมพูชาสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ต และผลิตไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอภายในประเทศ

เป็นการปลุกกระแสชาตินิยม ที่นอกจากจะได้สร้างผลประโยชน์ทางการเมืองให้ตนเองแล้ว ยังเป็นการสร้างสภาวะผูกขาด ดึงเม็ดเงินมหาศาลภายในประเทศ ให้มาซื้อไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต ของเครือข่ายตระกูลฮุนของตนเองอีกด้วย เป็นการฉกฉวยโอกาส เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าสู่วงศ์วานของตนเอง โดยไม่ได้สนใจความเดือดร้อนของประชาชนชาวกัมพูชาเลย

“ผมต้องย้ำว่า การรับมือกับสองพ่อลูกตระกูลฮุน เราต้องอ่านเกมให้ขาด และต้องกำหนดมาตรการทางการเมืองระหว่างประเทศให้เจาะจง พุ่งเป้าไปที่กลุ่มทุนในเครือข่ายของตระกูลฮุน เป็นสำคัญ นั่นก็คือ “LYP Group””นายวิโรจน์กล่าว และว่า มาตรการตอบโต้ไปที่พลเรือน ไม่ได้ทำให้ฮุนเซน และฮุนมาเนต รู้สึกรู้สา ยิ่งจะฉกฉวย เอาความเดือดร้อนของประชาชนชาวกัมพูชา ปลุกระดมความเกลียดชัง แล้วดึงเอาผลประโยชน์มาผูกขาดที่กลุ่มทุนของตัวเอง ถ้าเราบุ่มบ่ามใช้กำลังเข้าปะทะโดยไม่มีเงื่อนไข การใช้กำลังที่รอบคอบรัดกุม ขาดการสื่อสารต่อนานาอารยะเทศที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งเดินไปตกหลุมพรางที่สองพ่อลูกนี้ขุดเอาไว้ เพราะพวกเขาพร้อมตีฆ้องร้องเปล่า เพื่อทำลายความชอบธรรมของประเทศไทยในเวทีโลกทันที

นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ถ้าเราตีโจทย์ผิด แล้วผลักสถานการณ์ไปสู่ความขัดแย้งเกลียดชังระหว่างประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชา จะยิ่งเข้าทางฮุนเซน และฮุน มาเนต ให้สองพ่อลูกนี้ยิ้มมุมปากชนแก้วไวน์ ต้องยอมรับว่ากึ๋นของฮุนเซน และฮุนมาเนต ในการกินรวบผลประโยชน์ของชาติตัวเอง โดยเอาประชาชนชาวกัมพูชามาเป็นเครื่องสังเวยนั้นสุดจริงๆ การสื่อสารทางการเมืองต้องเข้มแข็งชัดเจน อย่าให้ฮุนเซน และฮุนมาเนต ยืนยิ้มลูบปากตัวเองเด็ดขาด

ไทยช้ากว่าเขมรไม่รู้กี่ก้าว

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า ช้าไปกี่ก้าวประชุมเจบีซีจบแล้ว กัมพูชาแถลงแล้ว ยืนยันว่า สามเหลี่ยมมรกต ช่องบก กลุ่มปราสาทตาเมือน ปราสาทตาควาย จะไม่เอาเข้าที่ประชุมเจบีซี แต่ได้ ยื่นฟ้องต่อศาลโลกแล้ว ในวันที่มีการประชุมเจบีซี. รวมทั้งแถลงปฏิเสธไม่ใช่แผนที่ 1:50,000 ของไทย แต่จะใช้แผนที่ 1:200,000 ตามเอ็มโอยู 43 ฝ่ายไทยเดินช้ากว่าเขมรกี่ก้าวไม่รู้ ก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยแถลงว่า. การเจรจาราบรื่น มีความก้าวหน้า. อย่าสุภาพขนาดนั้นเลยราบรื่นแล้วไทยได้อะไรกลับ มา. Out Come ของการประชุมที่ไทยได้คืออะไร. แต่ฝ่ายนั้นเคลมดินแดนไทยไปเรียบร้อยแล้ว และจะไม่ นำเข้าหารือในเจบีซี.

นายนันทวัฒน์กล่าวต่อว่า หากไทยไม่แถลงทักท้วงเรื่องพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิด้วยการปฏิเสธอย่างแข็งขัน. เท่ากับว่า. เรายอมรับว่า. พื้นที่นั้นไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายนั้นจะไม่เอาเข้าที่ประชุมอีกเลย. เจบีซีจะยังมีความหมายอะไรอีก. ปัญหาพื้นที่ขัดแย้ง ไม่หารือกัน. จะประชุมไปทำไม เรื่องที่จะเอาเข้าที่ประชุม ฝ่ายนั้นเป็นผู้กำหนด.จะมั่นใจได้อย่างไร วันข้างหน้าจะไม่มีปัญหาในพื้นที่อื่น อาจมีการอ้างสิทธิพื้นที่อื่นๆอีก. หากไทยยังนิ่งเฉยและรักษามารยาททางการทูตแบบไทยๆ. ปล่อยให้ประเทศเล็กข่มขู่และขีดเส้นให้ไทยเดิน

จี้แถลงไม่รับแผนที่1ต่อ2แสน

เมื่อฝ่ายนั้นประกาศไม่รับแผนที่ 1:50,000 ไทยต้องประกาศไม่รับแผนที่ 1:200,000 อย่าอ่อนปวกเปียก อย่าใจดี อย่าสุภาพมากเกินไป ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านที่ดีก็ไม่ต้องเป็น มีคำถามว่า. คนไทยทั้งชาติห่วงใยชายแดน กลัวเสีย ดินแดน. คนไทยพร้อมใจกันสนับสนุนกองทัพ เรียกร้องให้ปิดด่านถาวร. ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต แต่นักการเมืองทำอะไรกันอยู่. ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง. ปืนใหญ่ตั้งประจัญหน้า ข้าศึกประชิดชายแดน นักการเมืองสาระวนห่วงปรับ ครม. รักษาเก้าอี้กระทรวงนั้นกระทรวงนี้ เพื่อนบ้านเปรียบเหมือนชาวนากับงูเห่า. เลี้ยงไม่เชื่อง เผลอจะถูกแว้งกัด. ต้องจับตาระวังตัวตลอดเวลา

ฮุนเซนขู่ปิดทุกด่านถ้าไทยไม่เปิดพรมแดน

วันเดียวกัน สำนักข่าว Post Khmer ของกัมพูชา รายงานคำพูดของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการเปิดด่านชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา โดยมีข้อความดังนี้ วันนี้ถ้าประเทศไทยยังยืนกรานไม่เปิดด่าน พรุ่งนี้ (17 มิถุนายน) กัมพูชาจะปิดด่านทั้งหมดในประเทศ ไม่ให้ประเทศไทยสามารถส่งสินค้าเข้ามาในกัมพูชาได้อีก

“จริงๆ กัมพูชาควรปิดด่านชายแดนทั้งหมดวันนี้ แต่รัฐบาลเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าวออกไป หลังจากที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี โทรศัพท์พูดคุยกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย

นอกจากนี้ ฮุน เซน ยังระบุอีกว่า กัมพูชามีกำลังแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสู้รบกับประเทศไทย ยืนยันว่าฝ่ายไทยต้องการการสู้รบ มากกว่าที่จะแสวงหาสันติภาพผ่านศาล ทางกัมพูชาไม่ได้ขาดแคลนอาวุธ หรือความแข็งแกร่งในการสู้รบ แต่กัมพูชาไม่ต้องการสู้รบ ยืนยันว่ากัมพูชาแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต้านทานสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้”ฮุนเซนกล่าว

นายกฯเรียกถกสมช.รับมือผลประชุมJBC

ขณะที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนหน่วยงานความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก หลังกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ผิดหวังท่าทีกัมพูชา ไม่ยอมร่วมมือกับไทยในการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดระหว่างกัน และเดินหน้านำเรื่อง 4 จุดข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก ในวงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรองนายกฯ รัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) พล.ร.อ. จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) และรองผู้บัญชาการทหารอากาศ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ