ลั่นช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูจะปรับครม.

‘ชาดา’แตะเบรก

จี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง

พท.กำชับลูกพรรคอย่าไล่‘หนู’

ยอมรับกังวลหากแยกทางจริง

เหตุเสียงสภาฯหาย70กว่าเสียง

“ชาดา”ชี้ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูปรับครม.แต่เป็นเวลาแก้ศก.ปากท้อง-ปัญหาชายแดน ย้ำ“ภูมิใจไทย”มีเกียรติ-ศักดิ์ศรี พร้อมทำงานทุกบทบาทผ่านมาตนรู้สึกอึดอัดกับข่าวที่ออกมา เพราะออกมาจากสื่อ ไม่ได้ออกมาจากนายกฯ ซึ่งตนอยากให้นายกฯตัดสินใจ และคุยกับหัวหน้าพรรคดีกว่า

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ’เจาะลึกทั่วไทยฯ’ถึงการนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รัฐมนตรี และส.ส.ของพรรค ในช่วงเย็นวันที่ 16มิ.ย.เพื่อกำหนดทิศทางของพรรค ว่า ขอชี้แจงว่า เมื่อก่อนจะมีการประชุมพรรคทุกวันอังคาร เพื่อเตรียมพร้อมประชุมสภาวันพุธ แต่ช่วงปิดสมัยประชุมสภาที่ผ่านมา กก.บห.กับ ส.ส.ไม่ได้คุยกันเลย จึงเป็นที่มาของการนัดประชุมครั้งนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล หรือปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด ซึ่งประเด็นการปรับครม.ตนขอพูดในฐานะผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด เกิดจากสำนักข่าวช่องหนึ่งที่ตนไม่ขอพูดถึงเบื้องหลังว่า นายทุนพรรคการเมืองหนึ่งไม่ชอบพรรคภูมิใจไทย แต่จะพูดว่า มีการจุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา โดยไม่มีเค้าโครงอะไรและพูดทุกวันจนมีการไปถาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯซึ่งนายทักษิณ ก็ระบุว่า อยากได้ทุกกระทรวง เพราะเคยทำงานพรรคเดียวมาก่อน โดยที่ในส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่ได้คุยเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อมีคนมาถามตน ตนก็ตอบว่า ข่าวก็คือข่าว

“ผมจะบอกให้ฟังว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาปรับครม.เหมือนตอนนี้หิมะกำลังตก แต่ไปพูดน้ำจะท่วมหรือฝนจะตก ซึ่งผิดฤดูกาล ขณะนี้การประชุมงบประมาณปี69 ยังไม่จบ ต้องใช้เวลา 105วัน เพราะฉะนั้นฤดูการเมืองต้องรอให้งบประมาณผ่านเรียบร้อย ไม่ต้องรีบร้อน เขาจะปรับก็คงปรับแน่ วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน น้ำจะท่วมฝนตกหนัก ซึ่งข่าวที่ออกมาทำให้ข้าราชการปล่อยล้อฟรีหมด เหมือนประเทศไทยหยุดนิ่ง เพราะมีการพูดถึงการปรับครม.ทุกวัน ทั้งที่เป็นอำนาจนายกฯ ขอถามว่า ข่าวแบบนี้ประชาชนได้อะไรและคนที่น่าเห็นใจคือนายกฯ ที่ทำงานก็ปวดหัวอยู่แล้ว กำลังทำงานก็มาเจอแต่เรื่องแบบนี้ จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องปรับ ครม.และพรรคภูมิใจไทย มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี พร้อมทำงานทุกด้าน และไม่ใช่เรื่องที่จะพูดท้าทายกัน ฉะนั้นจะอยู่หรือไป คนตัดสินใจคือนายกฯ” นายชาดา กล่าว

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพร้อมในทุกบทบาท หมายถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายชาดา ย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นักการเมืองทุกคนพร้อมเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เราอยู่ในเกียรติยศ และศักดิ์ศรี ของความเป็นภูมิใจไทย ถามมาแบบนี้ เดี๋ยวก็จะเอาไปพูดว่า ภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตนขอให้ฟังทั้งหมด ไม่ใช่จับเอาเพียงคำพูดบางคำไป เดี๋ยวจะเกิดปัญหา เมื่อถามว่า ศูนย์กลางอำนาจของพรรคเพื่อไทยต้องการปรับครม.จะทำอย่างไร แม้จะบอกว่า ขณะนี้ไม่ใช่ฤดูกาลที่จะปรับ นายชาดา กล่าวว่า อันนี้อยู่ที่นายกฯและในพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน คงเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและกก.บห.พรรค

เมื่อถามว่า หากนายกฯบอกว่า พร้อมจะปรับครม.แล้ว โดยขอคืนเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยจะรับได้หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงอำนาจของหัวหน้าและกก.บห.พรรค แต่ตนเชื่อว่าต้องมีการพูดคุยกันทุกเรื่อง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของนายกฯคุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และขอย้ำในภาพรวมว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมทำงานทุกด้านเพื่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนรู้สึกอึดอัดกับข่าวที่ออกมา เพราะออกมาจากสื่อ ไม่ได้ออกมาจากนายกฯ ซึ่งตนอยากให้นายกฯตัดสินใจ และคุยกับหัวหน้าพรรคดีกว่า

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า วันที่ 16มิ.ย.นายกฯจะคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ขณะที่ช่วงเย็นก็จะประชุมพรรคภท.ทำให้มีการวิจารณ์ว่าวันนี้จะมีการตัดสินใจทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย นายชาดา กล่าวว่า การประชุมพรรคนัดมาก่อนเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่ใช่นัดประชุมเมื่อวานหรือวันนี้ เวลามันคนละเรื่องกัน แต่จับมาประติดประต่อกัน ซึ่งมันไม่ใช่เลย วันนี้ผลประชุมเป็นอย่างไรสื่อมวลชนก็จะรู้ ไม่สามารถปิดความจริงได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าพรรคมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ถ้ามาขอเก้าอี้มหาดไทยคืน โดยไม่มีคำอธิบายที่ฟังได้ก็จะหักใช่หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น คำที่ตนบอกว่ามีเกียรติมีศักดิ์ศรี ตนพูดให้ทุกคนฟัง ทั้งรัฐบาล ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย เพราะไม่อยากให้เอาข่าวมาย่ำยีพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเราถูกกระทำ และนั่งนิ่งมาตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียความรู้สึกแต่เราก็ยอมรับในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตามที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2568 ที่ จ.พิษณุโลก และการลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ระหว่างวันจันทร์และอังคารที่ 23-24 มิ.ย.2568 นั้น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุม ครม. สัญจร ออกไปก่อน โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 24มิถุนายน2568 จะเป็นการประชุมตามปกติ ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ1ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ส่วนราชการต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเขต1 จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงให้สรุปความพร้อมในข้อมูลต่างๆที่ลงพื้นที่สำรวจให้พร้อม เพื่อนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป