‘ศิริกัญญา’ แนะ ’รัฐบาล‘ แสดงเจตจำนงยื่นมือช่วยเหลือต่อผู้ประกอบการ หากปิดด่านไทย-กัมพูชา หวังลดผลกระทบ มองเม็ดเงินกระตุ้น ศก.ยังเหลือพอ เชื่อ หากวัดสายปานไทยยาวกว่า มั่นใจว่าผลกระทบฝั่งนั้นมากกว่า
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ว่า หลังจากที่ทางฝั่งไทยมีการปรับเวลาของการเปิดปิดด่านต่างๆ ทางฝั่งกัมพูชาก็มีการขู่ว่าจะปิดด่านทั้งหมด ตนคิดว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง ก็อย่าเพิ่งหวั่นไหว สั่นคลอน เพราะทางฝั่งไทยเรามีสรรพกำลังและมีเม็ดเงินสายป่านที่ยาวกว่า เพียงแค่รัฐบาลต้องแสดงเจตจำนงต่อผู้ประกอบการทางฝั่งไทยว่ายินดีที่จะบรรเทาและเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปิดด่าน ซึ่งหากเราทำเช่นนี้เสียงบ่นหรือเสียงต่อต้านในพื้นที่อาจจะมีน้อยลง หรืออาจจะต้องมีกลไกอื่นๆ ไปช่วยเหลือ หากมีในเรื่องของแรงงานข้ามชาติขาดแคลน โดยอาจจะมีการผ่อนปรนเอ็มโอยูชั่วคราว เราสามารถที่จะมีการจัดเตรียมทางออกไว้ได้หากมีความพร้อมมากพอ
เมื่อถามว่า มองว่าเรามีความพร้อมด้านเม็ดเงินมากเพียงพอแค่ไหนในการที่จะไปกระตุ้นบริเวณนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากเราพูดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.75 แสนล้านบาท ก็เหมือนจะหมดแล้วเพราะเหมือนมีคนจับจองไปหมดแล้ว แต่ในส่วนของงบกลางยังเหลืออยู่ 6 หมื่นล้านบาท โดยตัวเลขล่าสุดสำนักงบประมาณยังไม่ได้ส่งมา แต่เราก็เห็นอยู่ว่ามีการใช้จ่ายหรือเบิกจ่ายยังไม่เต็มจำนวนที่สภาอนุมัติเกือบแสนล้านบาท ทั้งนี้ เรามีเม็ดเงินมากเพียงพอ แต่เราต้องโชว์เจตจำนงจริงๆ ไม่เช่นนั้นความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ใกล้ๆ ด่านที่อาจจะเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีท่าทีที่ผิดพลาดได้เช่นกัน เราสามารถที่จะรับมือกับเรื่องนี้หากเตรียมความพร้อมให้มากพอ
เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ลากยาวไปมองว่าเราจะมีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากวัดสายป่านกันระหว่างฝั่งไทยกับกัมพูชา เราก็คิดว่าอย่างไรสายป่านของฝั่งไทยเราก็ยาวกว่าแน่ๆ และผลกระทบทางฝั่งนั้นน่าจะมากกว่าทางฝั่งไทยแม้ว่าจะสามารถหาสินค้าอื่นมาทดแทนได้ แต่ในเรื่องของแรงงานข้ามชาติ ก็ไม่สามารถที่จะหาทดแทนกันได้ง่ายๆ แต่ยืนยันว่า สามารถรับมือเรื่องนี้ได้ถ้าเราเตรียมความพร้อมมากพอ และถ้าวัดสายป่านกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็คิดว่าทางฝั่งไทย มีสายป่านยาวกว่าแน่ๆ และคิดว่าผลกระทบทางฝั่งนู้นน่าจะมากกว่าฝั่งไทย ถึงแม้จะสามารถหาสินค้าอะไรทดแทนได้ แต่แต่เรื่องของแรงงานข้ามชาติ ที่จะหางานทดแทนกันได้ง่ายๆ
เมื่อถามถึง กรณีสมเด็จฮุนเซนเปลี่ยนท่าทีจากการที่ไม่รับสินค้าไทยเลยมาเป็นแค่ไม่รับแค่ผัก-ผลไม้ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องดูว่าจะเกิดเสียงต่อต้านมากน้อยแค่ไหน แต่ตนคิดว่าเป็นชาวกัมพูชาเองที่จะกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้น หากมีการปิดด่านอย่างถาวรทั้งหมด หรือไม่รับสินค้าไทยทั้งหมด เสียงจากประชาชน จะส่งผ่านจนทำให้ท่าทีอ่อนลงเองตามอัตโนมัติ หากกระทบกับปากท้องของประชาชนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยหรือกัมพูชา
เมื่อถามว่า จุดแข็งอะไรที่จะนำไปต่อรองกับกัมพูชาโดยที่ไม่ต้องใช้สงคราม น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องการค้าชายแดนและการแชร์สาธารณูปโภคต่างๆ อินเตอร์เน็ต ไฟฟ้า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องทางเศรษฐกิจที่น่าจะมีน้ำหนัก ที่จะทำให้การเจรจาพูดคุย และท่าทีของกัมพูชาอ่อนลงได้ โดยที่ไม่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร
///
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี