ในที่สุด “ศาลล้มละลายกลาง” มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของ “บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)” หลังบริษัทฯยื่นคำร้องขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา หลังประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามเงื่อนไขของแผนฟื้นฟูกิจการครบทั้ง 4 ข้อ ได้แก่

การจดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างทุน การดำเนินการตามแผนฟื้นฟู โดยไม่เกิดเหตุผิดนัด การมี EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินตามงบเฉพาะกิจการย้อนหลัง 12 เดือนประมาณ 40,308 ล้านบาท (เดือน เมษายน ปี 2567 ถึงมีนาคม ปี 2568) ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านบาท อย่างมีนัยสำคัญ และมีส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ เป็นบวกจากการปรับโครงสร้างทุน และที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568

ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯประกาศเดินหน้าขออนุญาตหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำหุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายเดือนกรกฏาคม หรือต้นเดือนสิงหาคมนี้

ก่อนหน้านี้ “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” ในฐานะประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการฯยืนยันมาตลอดว่าจากทิศทางผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง บริษัทมีแผนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวกภายในปลายปี 2567 ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสุดท้าย เพื่อนำบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ส่งผลให้คาดว่าบริษัทสามารถดำเนินการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ครึ่งแรกปี 2568 พร้อมสามารถนำหุ้นของ THAI กลับเข้ามาซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ ณ ตอนนี้ก็เป็นไปตามไทม์ไลน์

ย้อนความกลับไปประมาณ 4 ปีก่อนคงจำกันได้ว่า กรณี “ฟื้นฟูการบินไทย” รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ตัดสินใจให้นำการบินไทยเดินสู่การฟื้นฟูกิจการ ซึ่งได้นักบริหารฝีมือดีอย่าง “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” เข้ามาเป็นประธานบริหารแผนฟื้นฟูกิจการฯ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจครั้งนี้ว่า ต้องใช้งบฯมหาศาล และการบินไทยก็ไม่ใช่สายการบินเดียวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนั้น

เสียงคัดค้านหนักหน่วงหนึ่งในนั้นมาจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ที่ประกาศก้องว่า “ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่ตัดสินใจอุ้มการบินไทยแบบที่คุณประยุทธ์ทำ” โดยมองการปรับโครงสร้างงบการเงินในแผนฟื้นฟูดังกล่าว แปลกประหลาด ไม่มีใครทำ ไม่สมเหตุสมผลทางธุรกิจ และปรามาสการฟื้นฟูการบินไทยแบบที่รัฐบาลลุงตู่ทำนั้น ไม่มีทางสำเร็จ!!! ด้วยจำนวนหนี้ 1.2 แสนล้าน

อีกทั้ง ยังพูดทำนองการทำแบบนี้ การบินไทยจะยังเป็นเด็กไม่รู้จักโต ไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ต้องรอให้รัฐบาลอุ้มตลอดเวลา แล้วจะสู้การแข่งขันระดับโลกได้อย่างไร ถ้าไม่มีการปรับแผนปฎิรูปโครงสร้าง ฯลฯ ร้ายสุด “ธนาธร” ยังเอ่ยอ้างข้อเสนอให้การบินไทยล้มละลายอีกต่างหาก

คำตัดสินของ “ศาลล้มละลายกลาง” ให้ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ พร้อมเดินหน้านำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งต้นสิงหาคม น่าจะเป็นการตบหน้า “ธนาธร”ฉาดใหญ่ ลบคำปรามาสทั้งหลายของเขาที่มีต่อการตัดสินใจของนายกฯลุงตู่วันนั้นราบคาบ!!!