รับคลิปหลุดคุย‘ฮุนเซน’ของจริง-โวยระดับผู้นำไม่น่าทำแบบนี้
'อิ๊งค์'หมดสภาพ
ประเคนเขมรขออะไรก็ได้
ซัดแม่ทัพ2อยู่ฝ่ายตรงข้าม
อ้างเทคนิคพูดเพื่อสันติภาพ
‘จตุพร’จี้ลาออกรับผิดชอบ
ศบ.ทก.แถลงผลประชุมทีมไทยแลนด์วันแรก ลั่น ขุดคูเลตในพื้นที่อธิปไตยไทย โต้ละเมิดMOU 43 เผย รอกัมพูชาเคาะวันถกอาร์บีซี คลิปว่อนมัด“นายกฯอิ๊งค์”หงอ “ฮุนเซน”โอด “หลานอิ๊งค์”แย่แล้ว ถูกไล่ไปเป็นนายกฯเขมร อ้อนพี่ฮวดอยากได้อะไรบอกมาโซเชียลวิจารณ์สนั่น พูดชัด “มทภ.2”อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา ชี้พูดแค่อยากดูเท่ “นายกฯอิ๊งค์”เต้นแถลงด่วน รับคลิปคุยฮุนเซน “ของจริง” โวยระดับผู้นำไม่น่าทำแบบนี้ขอให้สมหวังเรียกคะแนนนิยมกัมพูชา บอกไม่คุยส่วนตัวแล้ว ไม่ไว้ใจ ด้าน มทภ.2เผยนายกฯโทรเคลียร์แล้ว ยันไม่ติดใจ ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน ขณะที่ “จตุพร”กระทุ้ง “อิ๊งค์”ลาออกรับผิดชอบปมคลิปหลุด เรียกแม่ทัพ 2 ฝ่ายตรงข้าม งงเอาอกเอาใจเขมรเกิน เสียเหลี่ยม ชี้กึ๋นคนละชั้นกับ”พ่อ-ลูกตระกูลฮุน”
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงหลังประชุม ศบ.ทก.มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบ.ทก.เป็นประธานครั้งแรก
ยันไทยไม่เคยใช้มาตรการปิดด่าน
โดยระบุว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขอย้ำว่า ไทยไม่เคยใช้มาตรการปิดด่านใดๆ ที่ทำอยู่เป็นมาตรกาควบคุมการเข้า-ออก และเป็นการปรับเวลาเปิด-ปิดด่านเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน สืบเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่และเราจะพิจารณาปรับเปลี่ยนมาตรการตามสถานการณ์และความจำเป็น
ลั่นไทยยึดMOU43ขุดคูเลตฝั่งไทย
นายนิกรเดชกล่าวต่อว่า ส่วนการขุดคูเลตฝั่งไทยนั้น เป็นการขุดคูเลตในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ดังนั้น ไทยขอปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ไทยยังคงยึดมั่นและปฏิบัติตามเอ็มโอยู 2543 ที่เป็นสนธิสัญญาและกติกาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน และมีพันธะกรณีที่ต้องยึดถือปฏิบัติร่วมกัน
สำหรับเรื่องกลไกทวิภาคีขอย้ำอีกครั้งว่า ไทยยึดมั่นกลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดนไทยกับกัมพูชาด้วยความจริงใจและสุจริตใจ เป็นไปตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติของกติกาสากล ซึ่งการประชุมเจบีซีล่าสุดมีผลออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย ตกลงกันในรายละเอียดเพื่อร่วมกันสำรวจพื้นที่และจัดทำหลักเขตแดน และฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเจบีซีนัดพิเศษเดือนกันยายน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาตอบกลับแล้ว สำหรับการประชุมอาร์บีซี ที่นายกฯได้ประสานฝ่ายกัมพูชาไปให้จัดประชุมโดยเร็ว เราเสนอนที่ไปแล้ว ซึ่งฝ่ายไทยและกัมพูชากำลังพิจารณาหาวันที่ที่เหมาะสมทั้งสองฝ่าย
เปิด-ปิดด่านตามหลักสากลยึดMOU43
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศรี รองโฆษกกองทัพไทย ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. กล่าวว่า ฝ่ายทหาร กองทัพไทย ขอยืนยันและยึดมั่นการปฏิบัติการทหารตามหลักสากล และยืนยันว่า เป็นการปฏิบัติตามเอ็มโอยู 2543 และการปฏิบัติการของกองกำลังในพื้นที่ เป็นการปฏิบัติตามหลักของทหารที่ต้องมีการดำเนินการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความมั่นคงในพื้นที่ ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการในพื้นที่อธิปไตยของไทยทั้งสิ้น ส่วนเรื่องการดำเนินการตามจุดผ่านแดนต่างๆ ก็เป็นการดำเนินการตามมาตรการของไทยต่อเนื่อง เป็นการจำกัดคนและประเภทคนในการผ่านแดน การจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่าน โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม บุคคลที่มีความจำเป็น เช่น นักศึกษา ผู้ป่วย และผู้ที่มีความจำเป็นด้านมนุษย์
“บิ๊กอ้วน”โต้เขมรล่มถกอาร์บีซี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกัมพูชาปลุกกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความรักชาติว่า รักชาติกันทุกคนอยู่แล้ว ของเราก็รักชาติ
หลังจากนี้จะเป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา ซึ่งที่มีข่าวออกมาว่ากัมพูชาจะไม่เข้าร่วมเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เรื่อง RBC ขณะนี้ ผู้ที่อยู่ชายแดนกำลังคุยกัน และสรุปว่าจะเดินตามนี้ ซึ่งกัมพูชาขออนุญาตไปถามผู้บังคับบัญชาทางเขาว่าจะนัดวันใด ไม่ได้ปฏิเสธตามที่เป็นข่าว
เขาต้องไปตกลงกันก่อนว่าจะคุยวันใด แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแต่เขาจะต้องไปหารือกับผู้บังคับบัญชาของเขา โซเชียลฯก็ว่ากันไป แต่เรายึดหลักกฎหมาย และการปฏิบัติที่เป็นสากล เราแสดงท่าที และพูดชัดเจนทุกเรื่อง ออกเป็นหนังสือตลอด ฉะนั้น สิ่งที่เราพูดเป็นมาตรฐานระดับสากล โซเชียลไม่ได้มีผลตามกฎหมายจะว่าอะไรก็ว่าไป
ฮุนเซนรับคลิปจริงคุยอิ๊งค์-ส่งต่อ80คน
วันเดียวกัน พนมเปญ โพสต์รายงานว่า กรณีมีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไทย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน โดยหารือแนวทางคลี่คลายความตึงเครียดที่ชายแดน โดยเฉพาะการยกเลิกข้อจำกัดการข้ามแดน คลิปเสียงดังกล่าวมีเวลา 9 นาที เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนา 17 นาที
ฮุนเซนระบุว่า คลิปเสียงดังกล่าว ถูกบันทึกไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือบิดเบือน และ อธิบายว่าจำเป็นต้องบันทึกการสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในกัมพูชาด้วย ทั้งยังระบุด้วยว่า ได้ส่งต่อคลิปเสียงไปให้บุคคลอื่นอีก 80 คน รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค กลุ่มทำงานวุฒิสภา ทีมงานรัฐสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านกิจการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษา กลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ เป็นไปได้ว่าอาจมีบางคนไม่เห็นด้วยกับนายกฯไทย ไม่กี่ชั่วโมงหลังสนทนากัน ผู้นำไทยออกมากล่าวโทษผู้นำกัมพูชาต่อสาธารณะว่า ดำเนินการทางการเมืองอย่าง “ไม่เป็นมืออาชีพ” ทั้งนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซนยังระบุว่า พร้อมเปิดเผยคลิปทั้งหมด
หากฝ่ายไทยต้องการบันทึกเสียงทั้งหมด ตนพร้อมเปิดเผยเสียงความยาว 17 นาที 6 วินาทีทั้งหมด
จี้นายกฯแจงพาดพิงมทภ.2ฝ่ายตรงข้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสโซเชียลฯเผยแพร่คลิปเสียงยาว 9.30 นาที เนื้อหาคล้ายบทสนทนาระหว่างบุคคลที่มีเสียงใกล้เคียงน.ส.แพทองธารกับฮุนเซน โดยกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดน พร้อมพาดพิงแม่ทัพภาค 2 จนกลายเป็นประเด็นวิจารณ์ในสังคม โดยตลอดบทสนทนามีผู้คอยแปลภาษาเป็นระยะ
ทั้งนี้ บางช่วงบางตอนที่กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์คือ คำพูดที่ว่า “ไม่อยากให้ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าพอไปฟังฝั่งตรงข้าม อย่างพวกแม่ทัพภาค 2 อย่างนี้ค่ะ เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้นเสร็จ ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจ หรือโกรธ เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ” กับอีกข้อความที่ว่า “ทางนั้นเขาอยากดูเท่ห์ เขาอยากจะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ที่เราต้องการคือต้องการความสงบสุขเหมือนตอนก่อนจะปะทะกันตรงชายแดนค่ะ” ทั้งนี้ หนึ่งในกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นคือ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ออกมาโพสต์ตั้งคำถามว่า “นายกฯควรแถลง คลิปหลุดเสียงการสนทนาของนายกฯไทย กับฮุนเซน ว่าแม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม และพร้อมจะเปิดด่านโดยการแถลง 2 ชาติจริงหรือไม่?”
เปิดเนื้อหาอิ๊งค์บอกลุงฮุนอย่าไปฝั่งมทภ.2
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เนื้อหาในคลิปเสียงระหว่างนางสาวแพทองธารโทรศัพท์คุยกับสมเด็จฮุนเซน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน โดยนายกฯได้ทักทายฮุนเซนผ่านล่ามว่า สบายดีหรือไม่ เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งสมเด็จฮุนเซนตอบว่าแข็งแรงดี จากนั้นนางสาวแพทองธารบอกว่า วันนี้ได้คุยกับพี่ฮวด เรื่องชายแดน ก็เข้าใจตรงกันว่า อยากให้ทั้ง 2 ประเทศสงบสุข ไม่อยากให้ฮุนเซนไปฟังฝ่ายตรงข้ามกับเรา อย่างแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้น ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่พอใจหรือโกรธเพราะไม่ใช่ความตั้งใจของเรา เขาอยากจะดูเท่ห์ เพราะตอนนี้ทางนั้นเขาอยากจะดูเท่ ก็จะพูดอะไรออกมาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่ที่เราต้องการคือต้องการให้เกิดความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนก่อนที่ปะทะกันในบริเวณชายแดน
หมดกัน!ขอเห็นใจหลานอยากได้อะไรบอก
นายกฯไทยกล่าวผ่านล่ามต่อว่า ฝากบอกขอให้ท่านฮุนเซนเห็นใจหลานหน่อย เพราะตอนนี้คนในประเทศไทย เขาไล่เราไปเป็นนายกฯที่เขมรหมดแล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไรก็ขอให้ท่านบอกมา
ด้านสมเด็จฮุนเซนกล่าวตอบว่า ขั้นตอนที่ 1 อยากให้ชายแดนเปิดปกติเหมือนก่อนเกิดเหตุ ซึ่งนางสาวแพทองธารตอบกลับว่าโอเคตรงกัน สมเด็จฮุนเซนกล่าวตอบว่า จริงๆเหตุการณ์ปิดชายแดนฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อน ดังนั้น หากฝ่ายไทยถอนคำสั่งทางกัมพูชาก็จะเปิดปกติ ผิดหวังเพราะเราก็มีปัญหาความผิดหวังมาแล้วครั้งหนึ่งที่ช่องบก เราก็พยายามทำตามที่ฝ่ายไทยต้องการ และเราก็บอกว่าโอเคเราทำตาม แต่ขอให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เราถอนและปรับกำลังแล้ว แต่ฝ่ายไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก
จี้ไทยเปิดด่านก่อน-เขมรเปิดนำเข้าผัก
ล่ามกล่าวว่า สมเด็จฮุนเซนอยากให้นายกฯ ช่วยให้ฝั่งไทย ถอนเรื่องการปิดด่าน ถ้าถอน ฝ่ายกัมพูชาก็จะถอนเรื่องการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะตอนที่สมเด็จออกมาพูดกับฮุนมาเน็ต เรื่องตัดน้ำตัดไฟต้องขอโทษด้วย กระทรวงการต่างประเทศแค่อธิบายขั้นตอนไม่ได้บอกว่าจะทำ แต่ตอนนี้เรื่องตัดหนังตัดละครเหมือนท่านทำหมดแล้ว จริงๆก็น่าจะทำให้โอเคทั้งสองฝ่าย พูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่าจะเปิดให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติได้ และอยากให้เหตุการณ์กลับมาปกติ
โอดอิ๊งค์โดนหนัก-ยันพร้อมเปิดด่านให้
ล่ามจึงถามนายกแพทองธารว่าจะให้นายกฯกัมพูชาโพสต์ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่าใช่ให้ท่านฮุนเซน แนะนำก็ได้ ให้เป็นการตกลงร่วมกัน เพราะตอนนี้อิ๊งค์ โดนหนักมาก ทางสมเด็จฮุนเซน กล่าวว่า จริงๆฮุนมาเน็ต ต้องการเสถียรภาพมาก แต่ว่าทหารมาปิดด่านก่อน เริ่มต้นก่อนกดดันก่อน ดังนั้นต้องคุยกับทหารว่าพร้อมหรือไม่ในการเปิดด่าน ซึ่งนายกฯแพทองธารตอบว่า พร้อมค่ะ เราเปิดให้อยู่แล้ว แต่เราต้องตกลงร่วมกันว่าเราเปิด เพราะถ้าอิ๊งค์ บอกว่าเรายอม ยอม ยอม ยอมหมดอิ้งค์ ก็จะโดน เพราะตอนนี้มันเลยมาถึงเรื่องก่อนด่านแล้ว สมเด็จฮุนเซน กล่าวว่าเรื่องการปิดด่าน ทหารเริ่มก่อนทั้งๆที่มันหลอกเรา ให้ปรับกำลัง แล้วบอกว่าสถานการณ์ต้องปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปดังกล่าว มีความยาวทั้งสิ้น 17 นาที 6 วินาที โดยมี นายเคลียง ฮวด ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนเรื่องทางราชการ จำเป็นต้องบันทึกเสียงการสนทนาไว้ เพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อใช้เป็นข้อมูลภายในของกัมพูชาเองด้วย
นายกฯแถลงด่วนยันคลิปหลุดของจริง
หลังการเผยแพร่คลิปเสียงว่อนโซเชียล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวด่วนโดยยอมรับว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปจริงที่คุยกันเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยตนทราบข้อมูลจากผู้เป็นล่ามในคลิปว่าสมเด็จ ฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ระหว่างการพูด ตนจึงบอกว่าการพูดของพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ขณะที่ไทยกับกัมพูชาตอนนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามปะทะกันก็ต้องพูดเช่นนั้น อย่าไปถือสา อย่าไปคิดเลย ตนพยายามเข้าใจว่าเมื่อสมเด็จ ฮุน เซนโกรธเรื่องนี้ ก็เป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ คุยโทรศัพท์แบบส่วนตัว ไม่ควรนำมาเปิดเผย ตนมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง อธิปไตย และผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ตนจึงพูดคุยด้วยความนุ่มนวล
จี้ไทยเปิดด่านก่อนแล้วจะเปิดตามหลัง
นายกฯชี้แจงต่อว่า การพูดคุยส่วนตัวก็เรียกคุณอาเหมือนคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทุกคนที่ทำงานมาตั้งแต่ยุคนายทักษิณ ชินวัตร การเรียกอาเรียกลุงเป็นเรื่องปกติ และระหว่างพูดคุยตนไม่มั่นใจไทม์ไลน์ของกองทัพ สมเด็จ ฮุน เซนบอกให้เปิดด่าน ตนจึงเสนอให้เปิดพร้อมกัน เพื่อแสดงถึงสันติภาพ จับมือแล้วเปิดพร้อมกัน แต่กัมพูชาไม่ยอม พยายามพูดโน้มน้าวให้เปิดพร้อมกัน แต่ฝั่งกัมพูชาบอกไม่ได้ ให้ไทยเปิดก่อน แล้วจะเปิดตามหลัง 5 ชั่วโมง และบอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจจึงขอปรึกษากระทรวงกลาโหมก่อน เพื่อให้คำตอบในวันรุ่งขึ้น ที่มีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก
แต่ระหว่างประชุม ฮุน เซน ก็โพสต์เฟซบุ๊คว่าหากไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านทั้งหมด ตนก็อ้าวทำไมไม่เหมือนที่พูดกันไว้ เพราะอยากทราบว่าเขาต้องการอะไร คุยกันอย่างไรดี เพื่อให้เกิดการต่อรอง เกิดสันติภาพ ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ นี่คือความตั้งใจ สมเด็จ ฮุน เซน เขาย้ำเรื่องการเปิดด่านอย่างเดียว ซึ่งตนไม่กล้ารับปาก เพราะไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่
ฮุนเซนต้องการคะแนนนิยมในปท.
“แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าความต้องการของท่านจริงๆคือ คะแนนนิยมในประเทศของท่านเองโดยไม่สนใจจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านต้องการคะแนนนิยมภายในประเทศ เพราะเคยบอกกับดิฉันว่าคะแนนนิยมเริ่มตก อาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้อยากเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันหวังว่าท่านจะได้คะแนนนิยมเพิ่มอยู่ในสายตาโลกที่จับตามองอยู่ว่า เมื่อผู้นำสองท่านคุยกันแบบส่วนตัว แต่ที่มีการอัดคลิปแล้วปล่อยมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้น จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่าเราต้องการสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้คะแนนนิยมของท่านเพิ่มขึ้น ไม่เป็นไรก็ตามนั้น” นายกฯกล่าว
ปัดว่ามทภ.2ไม่ใช่พวกเรา-โต้งัดกองทัพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบอกว่าแม่ทัพภาค 2 ไม่ใช่พวกเรา ถือเป็นเทคนิคในการสนทนาหรือไม่ นายกฯ กล่าวสวนทันทีว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่พวกเรา แต่เรากับกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว การจะพูดคุยกันก็ต้องพูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ตนทราบว่าฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาค 2 ตนจึงชี้แจงทำความเข้าใจ หากตนเป็นฝั่งตรงข้ามกองทัพ ทำไมต้องรอว่าฝั่งกองทัพคิดอย่างไร แต่ไม่ใช่ เมื่อตนทราบว่าเขาโกรธกองทัพ ก็รีบทำความเข้าใจว่าเมื่อเราทะเลาะกันเป็นฝั่งตรงข้ามก็ต้องพูดแบบนี้ ให้แม่ทัพภาค 2 พูดไป พยายามลดอารมณ์ว่าไม่มีอะไร เพื่อคุยกันต่อไป นำไปสู่ความสงบสุข
เตือนคนไทยอย่าหลงกลเขมรยุให้รบกัน
ถามย้ำว่า มีกระแสข่าวจะมีคลิปที่ 2 ตามออกมา จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะภายในประเทศที่เหมือนถูกยั่วยุให้รบกันเอง นายกฯตอบว่า “ใช่ค่ะ ดิฉันไม่อยากให้คนไทยหลงกลตรงนี้ เพราะเป็นเทคนิคให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกัน แต่จริงๆแล้วประโยชน์แรกที่ดิฉันต้องการแสดงความเข้าใจเขา ให้เขาบอกความต้องการที่แท้จริงว่าอะไรจะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรทำให้การปะทะจบลง”
ไว้ใจไม่ได้-ไม่คุยส่วนตัวอีกแล้ว
ถามอีกว่า การพูดคุยและมีการปล่อยคลิปตามหลังออกมาแบบนี้ ต่อไปจะพูดคุยกันต่อได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบ ถามย้ำว่า สันติเจรจาจะยังใช้ได้กับกัมพูชาหรือไม่ น.ส.แพททองธาร กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่จะไปท้าตีท้าต่อย แต่คงไม่มีการคุยส่วนตัวแล้ว
ถามอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฮุน กับตระกูลชินวัตร ได้จบลงแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ไม่ทราบว่าอย่างไร แต่ไม่ขอคุยส่วนตัวอีกแล้ว เพราะจะมีปัญหาเรื่องการไว้ใจ อย่างไรก็ตามบทสนทนาแบบนี้ไม่ควรที่จะออกมา เพราะนี่คือระดับผู้นำของประเทศ คือนายกฯและอดีตนายกฯที่เป็นนายกฯมาตั้งแต่อายุ 32 ปี และเป็นพ่อของนายกฯคนปัจจบัน บทสนทนาแบบนี้ ก็นั่นและค่ะ
มทภ.2ไม่ติดใจนายกฯปมคลิปเสียง
ด้านพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพทัพที่ 2 เผยว่า นายกฯโทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนบอกกับนายกไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ “ ทั้งนี้ นายกฯได้ขอบคุณที่เข้าใจถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน
พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยม ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติไม่มีอะไร
ไม่เคยเห็นนายกฯว่าแม่ทัพอยู่ฝ่ายตรงข้าม
มีความเห็นจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯไทยกับฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งช่วงหนึ่งพาดพิง มทภ.2 โดยบอกว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามว่า ที่มาที่ไปของการเผยแพร่คลิปนี้ ฮุน เซน เป็นผู้สื่อสารก่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน และบอกว่าได้เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวให้บุคคลภายใน 80 คน ซึ่งในนั้นอาจมีบางคนไม่เห็นด้วยกับนายกฯไทย
“เคยมีหรือไม่ ตั้งแต่ประเทศไทยตั้งมา นายกฯพูดกับผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของกัมพูชาว่าแม่ทัพที่ไปรบกับทางกัมพูชานั้นเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตัวนายกฯ ผมว่าอันนี้ความเสียหาย อยู่ไม่ได้ ตัวผมเองต่อให้ยอมรับ อธิบายเทคนิคอะไรก็แล้วแต่ เทคนิคแบบนี้ไม่มีใครเคยใช้ ถามว่ามีใครเคยใช้บ้าง เอาทั้งโลกเลยก็ได้” นายจตุพรกล่าว และว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ( JBC) ฝ่ายไทยก็ยังไปประชุม ทั้งที่มีเสียงทักท้วงเพราะกัมพูชายืนยันเรื่อง 3 ปราสาทคือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย รวมถึงพื้นที่ช่องบก จะนำเข้าไปให้ศาลโลกพิจารณา นอกจากนั้น บันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ทั้งของปี 2543 และ 2544 ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้มาเป็นร้อยครั้ง คำถามคือแล้วจะมีไว้ทำไม เมื่อประชุมเสร็จก็ไม่แถลง กระทั่งมาตอบทางเฟซบุ๊กในช่วงกลางคืน ซึ่งระหว่างนั้นนายกฯ ไทยก็ไปคุยกับฮุน เซน ผู้นำจิตวิญญาณของกัมพูชา
ซัด“อิ๊งค์”เอาอกเอาใจฮุนเซนเกิน
นายจตุพรกล่าวต่อว่า หลังคุยกันตามด้วยนายกฯเรียกประชุมบ้านพิษณุโลก ฮุน เซน ก็รู้สึกว่าคนระดับตนไปถูกคนรุ่นนี้ลบเหลี่ยมได้อย่างไร เนื่องจากหากดูลักษณะการพูดคุย น.ส.แพทองธาร มีท่าทีเอาอกเอาใจฮุน เซน แต่เมื่อเปิดแถลงข่าวก็มีท่าทีอีกแบบหนึ่ง ทำให้ฮุน เซนตอบโต้ และจริงๆก็มีท่าทีมาตามลำดับ เริ่มจากให้ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา สื่อสารผ่านเฟซบุ๊กนำมาก่อนว่านายกฯไทยไปกล่าวหาเขา และเจอของจริงโดย ฮุน เซนอธิบายเหตุผลการบันทึกเสียงสนทนาไว้ด้วย และยิ่งน.ส.แพทองธาร พรวดพราดออกมาแถลงยอมรับเป็นเทคนิคก็ยิ่งหนักไปใหญ่ รวมถึงยังมีความเคลื่อนไหวจากฮุน มานี รองนายกฯ กัมพูชา ระดมชาวกัมพูชาหลักแสนคนออกมาเดินขบวนแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตย
ทั้งนี้ เมื่อสังเกตความพยายามทำหน้าที่ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จะเห็น น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ไปดูเรื่องภัยแล้ง ขณะที่กระทรวงการคลังยังทำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แต่ต่อมาพอน.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่จ.สุรินทร์ ก็ไม่ได้ทำการบ้านอีก ออกอาการเรื่องการเปิด – ปิดด่าน ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 2 พยายามใช้มธุรสวาจา ตามด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ต้องออกมาย้ำว่าจะไม่ปรับเปลี่ยนเวลาเปิด – ปิด เพราะยังชักเย่อหรือกำลังสู้กันอยู่ แต่นายกฯ พอฟังเสียงและท่วงทำนองแบบนี้คือมีพิรุธเรียงมาตามลำดับให้เห็นเลยว่าใจอยู่ข้างไหน
จี้นายกฯลาออกรับผิดชอบ
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงว่าการที่แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่าอยู่ตรงนี้มานานแล้วถ้าบุกมาก็รบกันก็เท่านั้นเอง เป็นการแสดงจุดยืนความรักชาติ แต่น.ส.แพทองธาร ไปบอกว่าพูดเอาเท่ บอกว่าอยู่ตรงกันข้ามอย่าไปถือสา ตนมองว่าการที่น.ส.แพทองธาร มาชี้แจงถือว่าจบแล้ว จริงๆ เรื่องนี้ใหญ่มาก ควรต้องเรียบเรียงคำชี้แจงเป็นเอกสาร (Speech) ไม่ใช่พรวดพราดชี้แจง และคนที่ยืนรอบข้างนายกฯก็ควรรู้ว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ และมีทางเดียวคือ น.ส.แพทองธาร ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก จะยอมรับความผิดพลาด อ้างว่าไม่ตั้งใจอะไรก็ว่าไป
“ก่อนหน้านี้ท่วงทำนองของแม่ทัพภาคที่ 2 พูดง่ายๆ คนยกย่องเรื่องความรักชาติรักแผ่นดินแล้วก็เป็นแบบอย่าง ทีนี้พอไปพูดกับฮุน เซน บอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตรงกันข้าม แม้จะมาแถลงอ้างว่าตรงกันข้ามกับกัมพูชา แต่ถามว่าคนฟังใครเชื่ออย่างนั้นไหม? ภาษามันอธิบาย ทั้งหมดนั้นมันคนละเรื่องที่คุณมาชี้แจง เรื่องมาถึงระดับนี้ความจริงต้องยอมรับผิดสถานเดียวแล้วก็รับผิดชอบด้วยการลาออก” นายจตุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี