วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
แจ้งจับ‘นายกฯ’! อดีต สว.ผนึกพันธมิตรร้องเอาผิด ชี้เป็นภัยความมั่นคง จี้ลาออกเซ่นคลิปคุยลุงฮุน

แจ้งจับ‘นายกฯ’! อดีต สว.ผนึกพันธมิตรร้องเอาผิด ชี้เป็นภัยความมั่นคง จี้ลาออกเซ่นคลิปคุยลุงฮุน

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 13.13 น.
Tag : การเมืองไทย ชายแดนไทยกัมพูชา นายกรัฐมนตรี พันธมิตร แพทองธารชินวัตร ยุบสภา อดีตสว.
  •  

‘อดีต สว.’ผนึกพันธมิตร ร้องตำรวจสอบสวนกลาง แจ้งจับ‘นายกฯ’ชี้เป็นภัยความมั่นคงต่อประเทศ ปมคลิปเสียงเจรจา‘ฮุน เซน’ จี้ลาออกจากตำแหน่ง แสดงความรับผิดชอบ จัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ เชื่อยุบสภาไม่ใช่ทางออก

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา , นายคมสัน โพธิคง นักวิชาการกฎหมาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตาม 119 ,120,122,128 และ 129 จากกรณีคลิปเสียงเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา


นายสมชาย กล่าวว่า เราในฐานะประชาชนที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นตัวแทนมายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา กับ น.ส.แพทองธาร เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประมุขของประเทศ การที่แอบไปเจรจาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา กับ นายฮุน เซน ตามคลิปเสียงที่ปรากฏขึ้น แม้จะอ้างว่าเป็นเทคนิคการเจรจา ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะเนื้อหาที่พูดกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายความผิดอาญาหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชา ความยาว 17.06 นาที ซึ่งมีพฤติกรรมล่อแหลมส่งผลทำให้ประเทศชาติเสียหาย เป็นความผิดร้ายแรง จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการกฎหมาย โดยนำคลิปเสียงดังกล่าวมามอบให้ประกอบการพิจารณา

“การกระทำของ นายกรัฐมนตรี สุ่มเสี่ยงสูญเสียอธิปไตย และ อาจมีการกระทำอื่นๆอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับเผยแพร่” นายสมชาย กล่าว  

นายสมชาย ให้ความเห็นทางการเมืองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดส่วนตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หากไม่ลาออกปัญหาจะบานปลาย เพราะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเองก็ต้องถอนตัว ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่อยากให้หลงประเด็นว่าต้องยุบสภา เพราะไม่ใช่ความผิดของ ส.ส. และ พรรคฝ่ายค้านเองก็อย่าอาศัยจังหวะนี้หาประโยชน์ทางการเมือง เพราะการยุบสภาจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น แม้พรรคประชาชนได้เปรียบในการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาบ้านเมือง

นายชมชาย กล่าวว่า แต่กระนั้นเองเราก็ไม่สามารถที่จะยอมให้นายกทำหน้าที่ต่อไปได้ เพราะไม่รู้ว่าประเทศจะได้รับผลกระทบอะไรเพิ่มขึ้นอีกบ้าง และ ยังไม่รู้ว่าจะมีคลิปเสียงอะไรที่มีการพูดคุยตกลงกันโผล่ขึ้นมาอีกบ้าง ดังนั้นตัวนายกรัฐมนตรีจึงต้องเปลี่ยน จะเป็นใครก็ว่าไป  แล้วจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ บ้านเมืองถึงจะเดินต่อไปได้ เพราะถ้าแก้ด้วยการยุบสภา ปัญหาจะยืดเยื้อ จะเกิดรัฐบาลรักษาการ เกิดภาวะวิกฤต ประเทศจมปรัก นำมาสู่การรัฐประหาร ซึ่งฝั่งทหารเองก็คงไม่อยากปฏิวัติ อยากให้การเมืองแก้ปัญหาตัวเอง แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าประชาชนโกรธทั้งประเทศ

“จากเรื่องคลิปเสียงที่ปรากฏ เกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา ค่อนข้างชัดเจน ว่านายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาพลาด มีความผิดตามกฎหมาย ส่วนความผิดอื่นต้องไปยื่น ป.ป.ช. ทั้งนี้มองว่าจากเรื่องที่เกิดขึ้น คำอธิบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ไปเจรจากับ ฮุนเซน ฟังแล้วแก้ตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการด้อยค่าแม่ทัพภาค2 เหมือนนายกตัดหัวแม่ทัพไปบรรณาการฝ่ายตรงข้าม   หรือ การนำความลับมาตรการต่างๆของกองทัพหรือสภาความมั่นคงระดับชาติ ไปบอกฝั่งตรงข้าม ถือว่ากระทำผิดชัดเจน แสดงถึงความไม่มีวุฒิภาวะ ถ้าปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อ สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน ประชาชน และ กองทัพ จะไม่ยอมและอาจนำมาสู่รัฐประหาร ใครทำผิดรับผิด ต้องลาออก อย่าทำให้เรื่องบานปลาย” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) 10.00 น. จะมีการประชุมจากภาคประชาชนที่รักประเทศชาติ เพื่อเรียกร้องให้นายกลาออก ไปอาจมีการกำหนดวันนัดชุมนุมใหญ่ของคนไทยการแสดงเจตนารมณ์ปกป้องประเทศ ซึ่งจะมีการนัดแนะสถานที่อีกครั้ง

ขณะที่นายคมสัน กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรี บอกว่าฝั่งเขาไม่ใช่ฝั่งเรา เป็นข้อความที่แสดงว่าเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาเป็นหลัก อีกทั้งการที่ไปบอกว่า แม่ทัพภาค 2 เป็นคนละพวกกัน เป็นการแสดงออกชัดเจนว่า นายกไม่ใช่นายกของไทย รวมถึงการนำความลับมาตรการความมั่นคงต่างๆไปเปิดเผย รวมถึงการนำเสนอผลประโยชน์ต่างๆให้ฝั่งตรงข้ามถือเข้าข่ายผิดกฎหมาย จากสิ่งที่ปรากฏความผิดค่อนข้างชัดเจน ส่วนที่เลือกมาแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง  เพราะต้องการดำเนินคดีอาญา ส่วนการจะไปยื่นที่ ป.ป.ช. ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งเป็นในเรื่องของอนาคต  ขณะตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ด้านนายนิติธร กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า คนไทยไม่มีใครคิดต่างว่า กัมพูชา แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับไทย แต่สิ่งที่นายกทำคือทำตัวเองเป็นปรปักษ์กับประเทศตัวเอง ถึงจะอ้างว่าเป็นเทคนิคเจรา ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่กิจการค้าขายแต่เป็นเรื่องของแผ่นดิน การกระทำของ นายกรัฐมนตรี ส่งผลกระทบต่อบ้านเมืองแน่นอน เพราะผู้นำทำตัวเป็นภัยต่อแผ่นดิน และ ในวันนี้พรุ่งนี้ภาคประชาชนหลายภาคส่วน จะร่วมกันหารือ เพื่อกำหนดท่าที โดยเบื้องต้น จะเริ่มจากการออกแถลงการณ์ให้นายกลาออก หลังจากนั้นจะกำหนดท่าทีใหม่อีกครั้ง  //-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'เอกนัฏ\'ประณาม\'กัมพูชา\' ชี้ต้องเป็นมติพรรค ร่วมรบ.ต่อหรือไม่ บอกใครไม่พอใจลาออกได้ 'เอกนัฏ'ประณาม'กัมพูชา' ชี้ต้องเป็นมติพรรค ร่วมรบ.ต่อหรือไม่ บอกใครไม่พอใจลาออกได้
  • ‘เอกนัฏ’ลั่น รทสช.อยู่ต่อหรือถอน ไร้ต่อรองตำแหน่ง ไม่มีแบ่งฝ่ายกับ‘ก๊วนสุชาติ’ ‘เอกนัฏ’ลั่น รทสช.อยู่ต่อหรือถอน ไร้ต่อรองตำแหน่ง ไม่มีแบ่งฝ่ายกับ‘ก๊วนสุชาติ’
  • กระเตง‘อิ๊งค์’! รองเลขานายกฯโพสต์‘พรรคร่วมรัฐบาล’จับมือแน่น อีก 2 วันเกลี่ยชามข้าวจบ กระเตง‘อิ๊งค์’! รองเลขานายกฯโพสต์‘พรรคร่วมรัฐบาล’จับมือแน่น อีก 2 วันเกลี่ยชามข้าวจบ
  • ‘สส.หรั่ง สายสีน้ำเงิน’บี้‘นายกฯ’ลาออก คืนเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีให้คนไทย ‘สส.หรั่ง สายสีน้ำเงิน’บี้‘นายกฯ’ลาออก คืนเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีให้คนไทย
  • ‘เฉลิมชัย’ปัดรับโควตาเพิ่มแลกค้ำเก้าอี้‘อิ๊งค์’ เผยมี 2 กระแสให้‘ปชป.’ถอนหรืออยู่ต่อ ‘เฉลิมชัย’ปัดรับโควตาเพิ่มแลกค้ำเก้าอี้‘อิ๊งค์’ เผยมี 2 กระแสให้‘ปชป.’ถอนหรืออยู่ต่อ
  • \'สนธิญา สวัสดี\'อุ้ม\'นายกฯอิ๊งค์\' อัดกลับ\'ฮุนเซน\'เป็นคนแก่ไร้มารยาท 'สนธิญา สวัสดี'อุ้ม'นายกฯอิ๊งค์' อัดกลับ'ฮุนเซน'เป็นคนแก่ไร้มารยาท
  •  

Breaking News

เข้าปั๊มด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นราคา ดีเซลคงเดิม

'เอกนัฏ'ประณาม'กัมพูชา' ชี้ต้องเป็นมติพรรค ร่วมรบ.ต่อหรือไม่ บอกใครไม่พอใจลาออกได้

‘เอกนัฏ’ลั่น รทสช.อยู่ต่อหรือถอน ไร้ต่อรองตำแหน่ง ไม่มีแบ่งฝ่ายกับ‘ก๊วนสุชาติ’

'รองปลัด ทส.'นำทีมตรวจสารปนเปื้อนโลหะหนัก ในตะกอนดินที่หาดเชียงราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved