‘เต้น’ชี้‘ยุบสภา’ไม่ใช่ทางออก ย้อนประวัติศาสตร์ 2 ครั้งล่าสุด ยุบก็‘ยึดอำนาจ’
20 มิถุนายน 2568 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
ยุบสภา ไม่ใช่ทางออก
ประวัติศาสตร์การเมืองระยะใกล้ การยึดอำนาจ 2 ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลยุบสภา ความเป็นจริงของการเมืองไทย ยุบสภาจึงไม่ใช่หลักประกัน หรือ เครื่องมือตัดวงจรการยึดอำนาจ
โดยหลักการ การยึดอำนาจเป็นวิธีการนอกระบบ ไม่อยู่ในกระบวนการประชาธิปไตย จึงไม่ควรถูกนำมาอ้างเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจทางการเมืองระบบรัฐสภา
ยุบสภาก่อนถูกยึดอำนาจ รีบเปลี่ยนแปลงในระบบก่อนอำนาจนอกระบบจะเข้ามา ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องแนวนี้ ถ้ายึดก็มีความหมายเดียวคือการปล้นอำนาจอธิปไตยของประชาชน ไม่มีเหตุผลใดๆมากล่าวอ้าง และไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลชุดใดก็ตามที่ไม่ยุบสภาแล้วถูกยึดอำนาจ เพราะที่ยุบแล้วก็ยังยึด
ถ้ายุบสภา รัฐบาลจะไม่มีอำนาจเต็ม การทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการจะอยู่ภายใต้กฎหมายเลือกตั้ง การใช้อำนาจบริหารทั้งคนทั้งงบประมาณต้องขออนุญาตกกต. ทุกพรรคมีภารกิจหาเสียง ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เผชิญหน้าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งใช้สารพัดวิธีการเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
รัฐบาลฝ่ายเขาอำนาจล้น รัฐบาลฝ่ายเรารักษาการ บทบาทหลักจะเป็นของกองทัพ สภาพการณ์แบบนี้น่าห่วงเรื่องการยึดอำนาจมากกว่า
ผมชื่นชมความชัดเจนของผู้นำเหล่าทัพที่ประกาศจุดยืนปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ สถานการณ์นี้ประเทศไทยต้องพึ่งพาท่าน เพื่อนำกองทัพทำงานอย่างเป็นเอกภาพกับรัฐบาล
แม้คณะยึดอำนาจที่ผมพบมาก็เคยพูดแบบนี้ แต่ในวันที่เจอภัยคุกคามจากภายนอก เมื่อกองทัพพร้อมทำหน้าที่ร่วมกับรัฐบาล การรักษาเสถียรภาพทางการเมืองจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต้องเกิดขึ้นภายใน 2 ปีหรืออาจเร็วกว่านั้น แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์นี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี