วันที่ 21 มิถุนายน 2568 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุว่า วินาทีของการตัดสินใจของ คุณพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ จุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
การคงอยู่ของรัฐบาลแพทองธารในเวลานี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจสุดท้ายของคนชื่อ พีรพันธุ์แล้ว
สภามี 495 คน เกินครึ่งคือ 248 เสียง ตอนนี้รัฐบาลเมื่อหักภูมิใจไทยไปเหลือ 255 เสียง รวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียง ต่อให้เหลือครึ่ง คือ 18 เสียง เสียงของรัฐบาลยังไงก็ไม่ถึงครึ่งของสภา ล้ม
ในวันแรกที่ต้องผ่าน กม.สำคัญ
ข้อเสนอของรวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องเปลี่ยนนายก ให้คุณชัยเกษม ขึ้นแทน มิเช่นนั้นจะถอนตัวจากพรรคร่วม จึงเป็นข้อเสนอที่ทรงพลังที่สุดในขณะนี้
เพื่อไทยอาจต่อรอง โดยขอให้งบประมาณปี 2569 ผ่านวาระสามก่อน โดยอ้างเหตุว่า เพื่อให้ประเทศเดินต่อโดยไม่หยุดชะงัก ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่ยอมรับได้ เพราะสภากับฝ่ายบริหารแยกจากกัน ถึง
นายกจะลาออก แต่ กม.งบประมาณที่ผ่านวาระหนึ่งไปแล้ว ก็ยังเดินหน้าต่อ ไม่ใช่การยุบสภา ที่ สส.ต้องพ้นตำแหน่ง ไม่มีใครมาทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติ
วินาทีของการตัดสินใจ หากนายกไม่ยอมลาออก ว่า รวมไทยสร้างชาติจะถอนตัวจากพรรคร่วม จึงเป็นวินาทีเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
และเป็นจุดจารึกชื่อคุณพีรพันธุ์ ว่าจะมีสถานะเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย เช่นสมัย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ทูลเกล้า ฯ เสนอชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีท่ามกลางความขัดแย้งทางการ
เมืองที่รุนแรงเมื่อปี พ.ศ. 2535
แต่หากเลือกที่จะอยู่กับรัฐบาล โดยแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่สำคัญ ชื่อของพีรพันธุ์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็อาจมีอีกสถานะหนึ่งในหน้าประวัติการเมืองไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี