ปิดอีก2ด่าน‘ช่องสะงำ-ช่องจอม’
มทภ.2หวดเขมร
กังวลความปลอดภัยประชาชน
จับตาเข้มสถานการณ์ชายแดน
กต.เตือนคนไทยเลี่ยงไปกัมพูชา
แม่ทัพภาคที่ 2 เดินหน้าสั่งปิดอีก 2 ด่านที่เหลือ “ด่านช่องสะงำ-ด่านช่องจอม” ยันปิดด่านสายตะกู เพราะกังวลความปลอดภัยคนไทย หลัง 30 นักท่องเที่ยวกัมพูชาขึ้นมาร้องเพลงบนปราสาทตาควายยันสถานการณ์ชายแดนยังปกติ
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มิถุนายน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาประมาณ 30 คน เดินทางเข้ามายังบริเวณปราสาทตาควาย ต. บักได อ. พนมดงรัก จ. สุรินทร์ โดยมีการบันทึกภาพ วิดีโอ และร่วมร้องเพลงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้เข้าระงับเหตุการณ์อย่างสุภาพและเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 19 มิถุนายน เวลา 09.17 น. กัมพูชาสั่งปิดจุดผ่อนปรน ช่องอานม้า กะทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้าให้ประชาชนสองประเทศทราบ
มทภ.2ปิดอีก2ด่าน“ช่องจอม-ช่องสะงำ”
ทั้งนี้จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกูที่ผ่านมาเปิดตามมาตรการควบคุมวันเวลาเปิด-ปิด จาก 7 วัน เหลือสัปดาห์ละ 3 วันคือวันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี เวลา 09.00 - 12.00 น. แต่ปัจจุบันปิดแล้ว 2 ด่าน จุดผ่อนปรนช่องอานม้าและด่านจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู เหลือจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำและจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ที่ยังคงเปิด-ปิด ตามคำสั่งกองทัพภาคที่ 2
เวลา 09.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมลงนามปิดด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษและด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ เนื่องจากฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งปิดถาวร 2 ด่านคือ ช่องจอม - จุ๊กโกกี ทันทีหลังไทยปิดด่านช่องสายตะกู เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
มทภ.2ทำบุญถวายพระปางชนะมาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 พร้อมคณะเตรียมทหารรุ่นที่ 26 นายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 37 ถวายพระพุทธรูปปางชนะมาร พร้อมร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ที่วัดหนองไฮ บ้านหนองไฮ ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ เป็นเงิน 264,253 บาท โดยมีชาวบ้านจำนวนมากแห่มาให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า พร้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย
แม่ทัพภาค 2 กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมพิธีและมาให้กำลังใจว่าขอบคุณประชาชนที่เป็นห่วงทหารแนวหน้า คนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะทำหน้าที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ยันชายแดนปกติ-ปิดด่านเพื่อปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวสอบถามสาเหตุที่สั่งปิดด่านเพิ่มคือ ด่านช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน แม่ทัพภาค 2 ชี้แจงว่า เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ส่วนด่านฝั่งกัมพูชานั้นปิดไปก่อนแล้ว แต่ทั้งนี้ยังคงปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม หากมีเหตุฉุกเฉินคนป่วย คนเจ็บ ต้องการข้ามมารักษาที่ฝั่งไทยก็พร้อมเปิดด่านส่วนสถานการณ์ชายแดนยังปกติ ไม่มีเหตุรุนแรง สำหรับกรณีชาวกัมพูชาข้ามมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ปราสาทตาควายนั้น ทหารไทยกำชับทหารกัมพูชาแล้วให้ควบคุมพลเรือนของตนเองให้ดี ส่วนไทยเองก็แนะนำทักท่องเที่ยวไทยให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเช่นกัน ส่วนไหนทำได้ ส่วนไหนทำไม่ได้ ทหารทุกนายยังตรึงกำลังเข้มตลอด และขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจทหารทุกคน
ปิดช่องสะงำกระทบเขมรหนักกว่าไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีข่าวว่ากัมพูชาปิดด่านถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนเป็นต้นไปนายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำเปิดเผยว่า ตอนนี้กัมพูชาส่งหนังสือตัวจริง เรื่องแจ้งปิดด่าน จ.อุดรมีชัย ด่านถาวรช่องสะงำ ให้จ.ศรีสะเกษ ส่วนฝั่งไทยยังไม่มีเอกสารคำสั่งการการปิด-เปิดด่านเพิ่มเติมจากเดิม จากจังหวัด และ จากกองทัพแต่อย่างใด แต่ด่านศุลกากรช่องสะงำ ได้สั่งเตรียมเจ้าหน้าที่ให้พร้อมทุกเมื่อ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแล้ว
นายประสิทธิ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าถ้าปิดด่านมีผลกระทบแน่ เพราะด่านถาวรช่องสะงำเป็นด่านเขมรจะส่งสินค้าทางการเกษตรมาไทยเป็นหลัก ส่วนไทยจะส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปเขมรเป็นหลักเช่นกัน ทำให้ฝั่งไทยได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ จากการค้าขายเชิงเศรษฐกิจมิติเดียว แต่ฝั่งเขมรจะได้รับผลกระทบหลายด้านขาดรายได้จากการค้าขาย และขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคในการดำรงชีวิตฝั่งกัมพูชาจะได้รับผลกระทบมากกว่าไทย เพราะส่วนมากชาวเขมรจะใช้สินค้าไทยดำรงชีวิตแต่ละวัน ถ้าปิดด่านชาวเขมรจะขาดแคลนสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภคจะราคาสูงขึ้น เป็นผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม
ส่วนประเด็นที่มีประกาศงดนำเข้ามันสำปะหลังจากเขมร ตั้งแต่ปรับเวลาเปิด-ปิด ด่าน ทางด่านช่องสะงำก็ไม่มีการนำเข้ามันสำปะหลังแต่อย่างใด เพราะด่านถาวรช่องสะงำ มีนโยบายเข้มงวดกวดขันสินค้ามากขึ้น รถบรรทุกไม่กล้าข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เนื่องจากกลัวกลับมาไม่ทันด่านฯปิด
กต.แจ้งเตือนคนไทยเลี่ยงไปกัมพูชา
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า ประกาศแจ้งเตือนคนไทย กรณีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศขอให้ชาวไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็นยิ่งยวด และสำหรับคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำรงชีวิตและหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุมและพื้นที่เสี่ยงอื่นรวมทั้งติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ กรณีต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ หมายเลขฉุกเฉิน (+ 855 975 749 682), สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ (+ 855 86 608 999), Call Center กรมการกงสุล (02 572 8442 ตลอด 24 ชม.) หรือผ่านแอปพลิเคชัน Thai Consular
ฮุนมาเนตปิด2ด่านตอบโต้ไทย
มีท่าทีของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์คำสั่งปิดด่านจุ๊บโกกี ตรงข้ามช่องสายตะกู บุรีรัมย์ และด่านช่องจวมตรงข้ามช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ตอบโต้ไทยที่สั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู พร้อมแนบคำสั่งแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ให้ปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์
โดยในหนังสือคำสั่งอบจ.อุดรมีชัย ของกัมพูชา ทำถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ของไทย พร้อมแนบเนื้อหาว่า หลังได้รับแจ้งจากแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยเรื่องการปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่อง สายตะกู-จุ๊บโกกี ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.บันทายอัมปึล จ.อุดรมีชัย ฝ่ายกัมพูชาจึงตัดสินใจปิดด่านจุ๊บโกกี จนกว่าฝ่ายไทยจะเปิดประตูชายแดนกลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนวันที่ 7 มิถุนายน 2568
“ขณะเดียวกัน ฝ่ายกัมพูชาขอประกาศปิดด่านช่องจวม ในอำเภออันลองเวง จ.อุดรมีชัย (ตรงข้ามช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ) ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป จึงขอความกรุณาแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดศรีสะเกษทราบโดยทั่วกันด้วย”ฮุน มาเนตระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ฮุน มาเนต ยังโพสต์ด้วยว่า คืนวันที่ 21 มิถุนายน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย รายงานแก่ข้าพเจ้าว่า กองทัพภาคที่ 2 ของกองทัพไทยเพิ่งออกหนังสือแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองสายตะกู-จุ๊บโกกี จ.อุดรมีชัย จะถูกปิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าพเจ้าได้ตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้ปิดด่านชายแดนแห่งนี้ในฝั่งกัมพูชาเป็นการถาวร นอกจากด่านจุ๊บโกกีแล้ว ข้าพเจ้าได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปิดด่านชายแดนอีกแห่งคือ ด่านช่องจวม ในเขตอันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้แจ้งฝ่ายไทยทราบด้วย
ซัดกองทัพไทยใช้วิธีปิดด่านกดดันเขมร
นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นมากองทัพไทยสั่งปิดจุดผ่านแดนและเปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนระหว่างสองประเทศฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อการเดินทางผ่านแดนของคนสองประเทศ ขณะที่กัมพูชาไม่เคยคิดที่สร้างความลำบากให้พลเมืองสองประเทศที่อาศัยหรือเดินทางข้ามชายแดน แต่กองทัพไทยยังใช้กลวิธีนี้เพื่อกดดันกัมพูชา
ฮุน มาเนตกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องน่าแปลกที่ผู้นำทางการเมืองของไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีของไทย มักจะเรียกร้องให้เจรจาเพื่อเปิดจุดผ่านแดนอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติ แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพไทยยังเปิด-ปิดประตูได้ต่อเนื่อง หรือปรับเวลาเปิด-ปิดได้ตามความต้องการฝ่ายเดียว
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าวิธีการหรือกลยุทธ์ในการทำงานระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทัพไทยเป็นอย่างไร เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีฉันทามติหรือหลักการภายในที่ชัดเจน ฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้เจรจาทวิภาคีเพื่อเปิดพรมแดนอีกครั้ง ขณะที่อีกฝ่ายยังคงปิดพรมแดนฝ่ายเดียวต่อไป
ปัดเจรจาไทยต้องเปิดพรมแดนก่อน
สำหรับกัมพูชา มีฉันทามติจากผู้นำประเทศถึงกองกำลังแนวหน้า หากนายกฯออกคำสั่ง สถาบันระดับชาติและระดับรองทั้งหมด รวมถึงกองทัพ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้นอย่างเคร่งครัด ในส่วนการเปิดด่านชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยนั้น ตนขอเน้นย้ำว่ากัมพูชายังยืนหยัดจุดยืนเดิม คือ ปิดด่าน
เช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเจรจาทวิภาคีเรื่องเปิดพรมแดนระหว่างสองประเทศ ถ้าฝ่ายไทยต้องการเปิดพรมแดนจริงทำได้ง่ายและรวดเร็ว กองทัพไทยที่เริ่มปิดพรมแดนฝ่ายเดียว ต้องเปิดพรมแดนเหมือนก่อนวันที่ 7 มิถุนายน 2568 แล้วกัมพูชาจะเปิดพรมแดนอีกครั้งในอีก 5 ชั่วโมงต่อมาถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายมาก ไม่ต้องใช้เวลาเจรจากันนาน เพียงฝ่ายไทยแสดงความปรารถนาอย่างจริงใจก็พอ
ปัดข่าวเขมรแห่เติมน้ำมันฝั่งไทย
นายอุมเรียแตรียผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ปฏิเสธรายงานของสื่อไทยที่รายงานว่า ชาวกัมพูชาจำนวนมากขับรถข้ามฝั่งไปเติมน้ำมันในไทยเพราะน้ำมันในกัมพูชามีราคาแพง หลังเขมรขู่ว่าจะยกเลิกการนำเข้าน้ำมันจากไทย โดยนายอุมกล่าวว่ารายงานดังกล่าวไม่เป็นความจริงภาพถ่ายที่รถยนต์จำนวนมากในฝั่งกัมพูชากำลังต่อคิวเข้าจุดผ่านแดนไปฝั่งไทยนั้น เป็นภาพขณะที่รถยนต์กำลังเข้าจุดผ่านแดนปอยเปต ที่มีปริมาณรถหนาแน่นเป็นประจำอยู่แล้ว และทุกวันจะมีรถจากฝั่งกัมพูชาข้ามไปฝั่งไทยประมาณ 40-50 คันต่อวัน เพื่อเข้าไปทำงาน ทำธุรกิจ หรือเรื่องอื่น เป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว
แกนนำรวมพลังแผ่นดินฯดูที่ตั้งเวที
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่ายรายงานว่า กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทยนำโดย นายจตุพร พรหมพันธ์นายปานเทพ พงษ์พัวพันธ์นายพิชิต ไชยมงคลนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนราชดำเนิน เพื่อสำรวจพื้นที่สำหรับตั้งเวทีชุมนุมใหญ่วันที่ 28 มิถุนายน
โดยนายจตุพรเผยว่า ในประวัติศาสตร์ที่กลุ่มนักศึกษาไปเรียกร้องอธิปไตย สมัยยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตอนนั้นมีกฎหมายห้ามการชุมนุม การรวมตัวเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลขณะนั้นรู้ว่านี่เป็นการแสดงพลังปกป้องอธิปไตยของชาติ ยินยอมยกเว้นแถมได้กล่าวขอบคุณนักศึกษาและประชาชนในตอนนั้น แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เหมือนตอนนั้น เพราะการสั่งการของตำรวจโดยรัฐบาล พยายามงัดข้อกฎหมายทุกชนิดมาเล่นงานการชุมนุม แต่ประเทศของเรามีปัญหาที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ที่นายกรัฐมนตรีของไทยไปเจรจากับประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่าเราไม่อาจไว้วางใจให้เขาทำหน้าที่ได้ต่อไป
ชวนคนไทยแสดงพลังอย่าให้อายเขมร
นายจตุพรกล่าวต่อว่า ที่มีการตั้งคำถามว่าคนจะออกมาร่วมชุมนุมหรือไม่ในยุคโซเชียลมีเดีย ตนขอเรียนว่าคนกัมพูชาเขาก็อยู่ในโซเชียล แต่เรื่องความรักชาติบ้านเมือง ที่เขามีประชาชน 17 ล้านคนทั้งประเทศ แต่กลับออกมาร่วมชุมนุมแสดงความรักชาติถึง 1.5 แสนคน ฉะนั้นประเทศเราที่เป็นชาติเอกราชชาติเดียวในภูมิภาคนี้ ต้องออกมาสำแดงพลังอย่าให้อาย
“ยืนยันว่าการมาปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้รัฐประหาร แต่ที่มีการปั่นไม่ให้ออกมานั้น บอกว่าเป็นพวกหน้าเก่าหน้าเดิม ต้องบอกว่าการปกป้องอธิปไตยครั้งนั้นคือคนรุ่นใหม่ ที่มาทำหน้าที่ แต่รัฐบาลไทยเวลานี้นอกจากไม่สนับสนุนแต่ยังขัดขวาง พยายามใส่ร้าย บอกพวกที่ชุมนุมคือพวกหน้าเดิม ขอบอกเลยว่า ประเทศนี้ก็ประเทศเดิม ปัญหาก็ปัญหาของชาติ ทักษิณก็หน้าเดิม ถ้าไม่ปกป้องชาติ รุ่นไหนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน”นายจตุพรกล่าวและขอเชิญชวนประชาชนทั้งแผ่นดินมาร่วมชุมนุมที่นี่ เวทีจะเริ่มต้น 16.00น.ถึง21.00น.หวังว่าจะไม่มีรัฐบาลมาสั่งการให้ตำรวจหรือหน่วยงานอื่นใดมาขัดขวาง
นายจตุพรยังตอบคำถามถึงกรณีกังวลเรื่องมือที่สามหรือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ว่า วันที่ 23 มิถุนายนจะไปหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการตั้งจุดตรวจสอบร่วมกัน สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรม ป้องกันมือที่สาม และเท้าที่สี่ ก็คงไม่รอด ส่วนเรื่องเงินในบัญชีที่จะเปิดรับบริจาค จะเปิดแค่วันที่ 28 มิถุนายนแล้วปิดบัญชีเลย ถ้าเงินเหลือก็จะนำไปบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2
แฉมีแก๊งเตะตัดขาใช้กม.กลั่นแกล้ง
ด้านนายปานเทพ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่ามีการจัดเวทีในที่สาธารณะ สาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้นเพื่อเป็นการประกาศว่าประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ
นายปานเทพยังอ้างว่าขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้จัดชุมนุม ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง
ย้ำเป้าหมายไล่นายกฯ-ปกป้องอธิปไตย
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวเสริมว่า ขออภัยประชาชนที่ทำให้ไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำ ขออภัยในความเดือดร้อนจริงๆ และขอให้พี่น้องเข้าใจเพราะนี่เป็นปัญหาของประเทศชาติ ไม่รู้นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่ แต่วางใจไม่ได้ ไม่รู้ฮุนเซนกุมความลับแล้วโทรต่อรองอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่งานไล่นายกฯ แต่เป็นงานปกป้องอธิปไตย ถ้าไว้วางใจไม่ได้ก็ต้องลาออก ยืนยันจะไม่ได้ยึดโน้นยึดนี่แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี