วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ไทยยกระดับมาตรการตอบโต้เต็มพิกัด ‘เขมร’กระอัก! ทุบแก๊งคอลฯตัดไฟ-ตัดเนต

ไทยยกระดับมาตรการตอบโต้เต็มพิกัด ‘เขมร’กระอัก! ทุบแก๊งคอลฯตัดไฟ-ตัดเนต

วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดน ตัดเนต ตัดไฟ ไทยกัมพูชา ไทยเขมร อาชญากรรมข้ามชาติ
  •  

ไทยยกระดับมาตรการตอบโต้เต็มพิกัด

‘เขมร’กระอัก!

ทุบแก๊งคอลฯตัดไฟ-ตัดเนต

จำกัดเวลาเปิด-ปิดด่าน7จว.

ห้ามคน-รถยนต์ข้ามเล่นพนัน

โวกัมพูชาเจ๊งแล้ว3หมื่นล้าน

 

“อุ๊งอิ๊งค์”ของขึ้นฟื้นแล้ว หลังโดนคลิปลับ ฮุนเซน จนจุก สั่งรัฐบาลยกระดับทุบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ห้ามคนเข้าบ่อนกัมพูชา โวแผนนี้ได้ผล ทำเขมรเจ๊งไปแล้ว 3 หมื่นล้าน ขณะที่“แม่ทัพภาคที่ 2”ลั่นหากสู้รบต้องปิดด่าน ไทย-กัมพูชา ตลอดแนวเดินแผนกดดันหนักห้ามจักรยานยนต์ รถเข็นทะเบียนเขมรเข้าไทย ที่ด่านคลองลึก อรัญประเทศ ฝ่ายโฆษกเขมร โต้ผ่านสื่อหมากเกมนี้ฝ่ายไทยเจ็บเอง


เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 23 มิ.ย.68 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมด้วย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมกันทุกภาคส่วน มีการประกาศว่ารัฐบาลกำลังจะประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมไปถึงเรื่องของความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ตัวอย่างที่เป็นปัญหาในเรื่องของสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ก็ได้รับผลกระทบทั่วโลก ขอยกระดับในเรื่องการแก้ไขปัญหานี้จากข้อมูลของทางสหประชาชาติ โดยสหประชาชาติได้มีข้อมูลว่ากัมพูชาถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลกและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600,000 ล้านบาท และสหประชาชาติ มีข้อมูลอีกว่า 40 % - 60% ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของกัมพูชา มาจากคอลเซ็นเตอร์ และมีในเรื่องของการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็พยายามจะรักษาในเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน ประเทศไทยโดยหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดนโดยจะกำหนดมาตรการดังนี้

สั่งทุบแก๊งคอลเซนเตอร์เขมร

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความมั่นคงจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ทั้งการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน ทั้ง 7 จังหวัด มีการห้ามรถยนต์และบุคคลภายนอกยกเว้นกรณีนักเรียนนักศึกษาที่ต้องข้ามมาเรียน รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องข้ามมาใช้โรงพยาบาลและการจับจ่ายซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น นอกจากนี้ห้ามให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน รวมถึงเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเสียมราฐเพื่อไปเล่นการพนัน ด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี กระทรวงดีอี โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (เอโอซี) จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้าและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด รวมถึงการระงับการบริการอินเตอร์เน็ตและประตูอินเตอร์เน็ตใต้น้ำที่ไปยังหน่วยงานทางการทหารและความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด

นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะต้องร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการสร้างมาตรการคว่ำบาตรผู้ที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ที่พบว่ามีในเรื่องของการฟอกเงิน รวมถึงการยึดอายัดทรัพย์ที่โยกย้ายไปต่างประเทศ และเรื่องการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าผ่านชายแดน เราต้องระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาถึงความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันและเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชาที่จะนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

เผยเขมรเจ๊งแล้ว3หมื่นล้าน

นายกฯกล่าวว่า ด้านการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตามแนวชายแดน โดยขอความร่วมมือกับทางภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยรับซื้อสินค้า ส่วนด้านการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับประเทศต่างๆและองค์กรระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการปฎิบัติร่วมในภูมิภาค โดยตนมีการกำหนดให้ทุกภาคส่วนกำหนดไทม์ไลน์และเคพีไอในการดำเนินมาตรการอย่างชัดเจน โดยขอให้ภายใน 3 เดือนนี้ ตัวเลขสถิติการแจ้งความของคนไทย ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีถูกหลอกจาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีปีละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการในเรื่องการตัดน้ำตัดไฟแและอินเตอร์เน็ตในฝั่งเมียวดี เมียนมาร์ ทำให้ตัวเลขความเสียหายที่คนไทยได้รับลดลง เนื่องจากแก๊งที่กระทำผิดด้านสแกมเมอร์ได้ย้ายจากเมียวดี ไปกัมพูชา หากรัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่องความเสียหายที่คนไทยได้รับจะลดลง และตอนนี้ทราบว่าพวกที่ทำเรื่องอาชญากรรมต่างๆย้ายถิ่นฐานจากเมียนมาไปที่กัมพูชา ฉะนั้นเราต้องมีมาตรการเรื่องนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อปราบปรามและป้องกันในเรื่องของคนไทยที่ถูกหลอกในอนาคตข้างหน้า

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือธุรกิจไทยในกัมพูชาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ธุรกิจของคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาเราสนับสนุนและซัพพอร์ต ไม่ว่าจะในเรื่องของการทูต เราไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้น อย่างที่ผ่านมากัมพูชาประกาศไม่รับน้ำมันเมื่อคืนวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งความจริงแล้วเป็นเรื่องของชายแดนที่เกิดขึ้น แต่ถ้ามันลุกลามมากขึ้น มีการไม่รับน้ำมันมากยิ่งขึ้นปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้นำของกัมพูชาจะต้องเป็นคนกำหนดราคาน้ำมัน ซึ่งถ้าไม่รับน้ำมันจากของไทยก็คงทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ไม่แน่ใจว่าทางกัมพูชาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร อาจจะต้องเป็นเรื่องที่ตกอยู่ที่ประชาชนกัมพูชา หรือถ้ามีคนไทยที่อยู่ตรงนั้นเรื่องนี้ก็จะมีผลกระทบ

ตรวจเข้มแนวชายแดน

เมื่อถามว่าได้สำรวจหรือไม่ว่ามีธุรกิจอื่นๆอะไรบ้างที่คนไทยไปลงทุนในกัมพูชาและได้รับผลกระทบ นายกฯ กล่าวว่า เราสำรวจหมดอยู่แล้ว แต่ที่แจ้งมาในฐานข้อมูลธุรกิจไทยที่ทำอยู่ในกัมพูชาเป็ฯประเภทโรงแรมเป็นส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง ตรงในชายแดนไม่ค่อยมี ส่วนที่เป็นผลกระทบต่อคนไทยเองที่อยู่ฝั่งเราในเรื่องเกษตรกรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนพร้อมที่จะซัพพอร์ตและช่วยในการซื้อสินค้าของประชาชน

เมื่อถามว่า ในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนกัมพูชา เรื่องอาชญากรรมข้ามชาตินายกฯได้มอบบทบาทอะไรเพิ่มในส่วนของทหารหรือไม่เพื่อดูแล นายกฯ กล่าวว่า เรามีการมอบอำนาจที่เราประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มอบในเรื่องของการควบคุมตามแนวชายแดนไปแล้วขอให้พิจารณาหน้างานตามแนวชายแดน ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้อำนาจทางทหารช่วยดูว่าเราควรจะปิดหรือจะเปิดหรือจะยังไงในตรงนั้น

เมื่อถามว่ามีข้อมูลตัวเลขหรือไม่ว่าคนไทยถูกหลอกเงินไปเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าพอเช็คเรื่องตัวเลขแก๊งคอลเซ็นเตอร์เขาเสียหายประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่เราปรามบปรามอย่างจริงจัง โดยตัวเลขของคนไทยที่โดนวันละ 80 ล้านบาท

ตำรวจพร้อมลุยแก๊งคอล

พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นโยบายที่นายกฯให้ในที่ประชุมคือตั้งศูนย์วอรูมในการประเมินสถานการณ์ทุกวัน ประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆของไทย และหน่วยงานต่างชาติ เช่น ตำรวจอาเซียน อินเตอร์โพล สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น โอดีซี) จะมารวมกันที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะในกัมพูชา ที่พบว่าปัจจุยันเป็นแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด ที่มีการเคลื่อนย้ายจากฝั่งเมียวดีประเทศเมียนมา รวมทั้งจะมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมออกหมายจับกรณีบุคคลที่เกี่ยวข้องในกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับการให้ที่ตั้ง ผู้เกี่ยวข้องด้านการเงินก็จะมีการสืบสวนขยายผลออกหมายจับต่อไป เมื่อถามว่า องค์กรต่างชาติที่จะเข้ามาจีมีความเข้มข้นแค่ไหน พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ ยูเอ็น โอดีซี เรามีการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปในทิศทางจะนำประเทศต่างๆมารวมกัน ในส่วนของอินเตอร์โพล ทั้งไทยและกัมพูชา ต่างก็เป็นสมาชิก อินเตอร์โพลก็มีกลไกให้สมาชิกช่วยเหลือปฏิบัติการและปราบปรามต่างๆ โดยปลายเดือนก.ค.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นเจ้าภาพประชุม ตำรวจอาเซียน มีประเทศต่างๆทั่วโลกมาเข้าร่วมประชุม จะพูดถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก โดยพบว่ามีประชาชนจาก 36 ประเทศถูกหลอกไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียวดี ตนก็เชื่อว่าตัวเลขผู้ถูกหลอกไปที่กัมพูชาคงไม่ต่างไปจากนี้

ทหารจัดกำลังเต็มที่

เมื่อถามว่า ในส่วนของทหารจะปรับบทบาทในการปราบอาชญากรรมข้ามชาติอย่างไรบ้าง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. กล่าวว่า เรื่องแรกที่ทหารได้รับคำสั่งคือ Seal Stop Safe ลาดตระเวรตามจุดช่องทางธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ได้รายงานนายกฯแล้วว่าปีหน้าต้องมีการจัดกำลังป้องกันประเทศให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สองสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้บูรณาการ ทำงานตามแนวชายแดน ส่วนที่เป็นข้าราชการพลเรือนจะมีศูนย์สั่งการจังหวัดมีผู้ว่าราชการเป็นคนสั่งการทั้งสองศูนย์จะส่งข้อมูลกันทุกวันเพื่อแก้ปัญหาชายแดน สาม จะร่วมสนับสนุนแนวทางพูดคุยในทุกระดับ ทั้งการพูดคุย คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี)เพื่อช่วยกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทนโนโลยีซึ่งเป็นปัญหาของโลก ขณะนี้ต้องหาให้ได้ว่าช่องทางธรรมชาติจุดไหนที่คนข้าม หากสังเกตจากข่าวสองสามวันที่ผ่านมา ทางกองกำลังบูรพา ได้จับกุมผู้ข้ามชายแดนตามช่องทางธรรมชาติได้มากขึ้น ไม่ว่าคนที่ออกจากประเทศหรือคนที่หนีกลับมา โดยต้องเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ระหว่างตำรวจและทหารตามแนวชายแดน

ร่วมประชุมกองทัพบก

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ว่า สำหรับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ผบ.ทบ.ท่านเชื่อมั่นกองทัพภาคที่ 2ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดย ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่หรือไม่ เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอดการอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆเป็นไปตามห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา เรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา

เมื่อถามว่าวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงนั่นอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่มเติมหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น

พร้อมปิดด่านตลอดแนว

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ดูไปตามสถานการณ์ หากมีการต่อสู้หรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาส

เมื่อถามย้ำว่าเป็นการปิดด่านตลอดแนวใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราจะเพิ่มการควบคุม แล้วจะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้หมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานั้น แต่จะพยายามพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และมองว่าทางรัฐบาลคงมีช่องทางหรือแนวทางในการพูดคุยกับทางกัมพูชา แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ

“แต่จากการประเมินสถานการณ์มีความเป็นไปได้ในอนาคตจะมีการปิดด่านไทย-กัมพูชา ตลอดแนว แต่ทุกอย่างต้องประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน หากเกิดการปะทะหรือเกิดความไม่เข้าใจกันก็มีโอกาสที่จะปิดชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว ซึ่งจะต้องมีการควบคุมเรื่องมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ ซึ่งรอดูวันนี้อีกครั้ง ในระดับผู้บริหารของเรา” พล.ท.บุญสิน กล่าว

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ส่วนที่กัมพูชาไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากฝั่งไทย ถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่าน ซึ่งจะต้องควบคุมการเข้า-ออกที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องคัดกรอง ทั้งนี้พร้อมจะอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนชาวกัมพูชา หากเข้ามาเติมน้ำมัน เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ทั้งคนป่วย เด็กนักเรียน รวมถึงการซื้อของอุปโภคบริโภค แต่หากเป็นการซื้อเพื่อการค้า ในจำนวนปริมาณมาก ก็เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละด่าน

พล.ท.บุญสินระบุว่าในวันนี้จะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ กับ ผบ.ทบ.เพื่อให้กำลังใจ กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

“อยากฝากถึงคนไทยทุกหมู่เหล่าที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้มีความรักความสามัคคีของคนในชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในภาวะที่ประเทศวิกฤติเช่นนี้ ส่วนทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่าชายแดนไทยเราจะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว

ห้ามจยย.2ล้อเขมรเข้าไทย

ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เวลา 09.00 น.หลังจาก จนท.กัมพูชาเปิดด่านพรมแดนปอยเปต ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก..ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก และ จนท.ด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้นำกำลังมาร่วมกันตรวจคัดกรองบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก โดยไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาขับขี่รถ จยย.และเข็นรถเข็นสองล้อเข้ามาในประเทศไทย ตามนโยบายเพิ่มมาตรการกดดันของกองกำลังบูรพา แต่ยังอนุญาตให้รถยนต์กัมพูชาและชาวกัมพูชาเดินเท้าเข้ามาในประเทศไทยได้ตามปกติ และจากมาตรการกดดันดังกล่าวทำให้ชาวกัมพูชาบางคนเกิดความไม่พอใจและโวยวาย จนท.ต้องเข้าไปพูดคุยกับ จนท.กัมพูชาให้แจ้งถึงมาตรการดังกล่าวให้ชาวเขมรทราบ จึงทำให้ชาวเขมรสงบลงนำรถ จยย.ไปเก็บแล้วเดินเท้าเข้าไทยเพื่อไปค้าขายในตลาดโรงเกลือ

ด่านช่องจอม เปิดปกติ

เวลา 09.00 น. จนท.กัมพูชาได้ทำการเปิดประตูด่าน ฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากไทยเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น.พบว่าชาวกัมพูชาที่รอข้ามแดนขนของใช้ส่วนตัวกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนเข้ามายังฝั่งไทยมีจำนวนมากขึ้น

จากการสอบถามชาวกัมพูชา บอกว่า พากันข้ามแดนมาซื้อสิ่งของใช้จำเป็น ที่บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เพราะเคยซื้อของที่ฝั่งไทยเป็นประจำมากว่า 20 ปี โดยส่วนใหญ่พบว่าชาวกัมพูชาใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถจักรยานยนต์ส่วนตัว ส่วนรถยนต์ส่วนตัว มีไม่มากนัก

ขณะเดียวกันบรรดาโชว์เฟอร์รถบรรทุกพ่วง ยังคงมีบางส่วนที่จอดรอคำตอบที่ชัดจนจาก จนท.ไทยว่าจะสามารถข้ามแดนไปได้หรือไม่ แต่ส่วนใหญ่พบว่าเดินทางกลับกันหมดแล้ว

ส่วนนายเมธี ประวัน โชว์เฟอร์รถบรรทุกชาว อ.ปราสาท บอกว่า ตนกำลังจะขับรถกลับ เห็นมีคนบอกว่า จะข้ามแดนได้จะต้องเป็นรถที่มีทะเบียนป้ายเหลือง ที่สามารถข้ามระหว่างประเทศได้ และจะต้องเป็นเจ้าของรถตัวจริง หรือไม่ก็ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้คนขับแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกน้องที่ถูกจ้างมาขับ เถ้าแก่จะไม่ขับเอง จึงพากันกลับ บางคนก็รอดูเพื่อความแน่ใจว่าจะข้ามไปได้หรือไม่

รถมันสัมปหลังตกค้างเพียบ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่า พบรถบรรทุกมันสำปะหลังที่ตกค้างฝั่งกัมพูชาตั้งแต่วันศุกร์ เริ่มทยอยเดินทางข้ามแดนกลับเข้ามาฝั่งไทยแล้ว ส่วนรถบรรทุกที่จะข้ามแดนไปกัมพูชานั้น ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก จนท.ว่าให้ข้ามไปได้หรือไม่ อีกทั้งเกรงว่าถ้าข้ามไปแล้ว ถ้าเกิดกัมพูชาสั่งปิดด่านก่อน ก็จะไม่สามารถข้ามแดนกลับมาไทยคืนได้ ซึ่งบรรดาโชว์เฟอร์รถบรรทุก ที่มีเอกสารถูกต้องตามกฏหมาย บางส่วนก็ยังจอดรอคำตอบที่ชัดเจนดังกล่าวอยู่

โฆษกรบ.โต้ไทยเจ็บเอง

นสพ. Khmer Times ของกัมพูชา รายงานข่าว Minister Delegate to the Prime Minister: ‘Proud’ Thailand ‘is in a state of impasse and humiliation’ ระบุว่า Pen Bona โฆษกรัฐบาลกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับไทย โดยสรุปว่าสิ่งที่ฝ่ายไทยดำเนินการอยู่ในคณะนี้คนที่จะเจ็บคือฝ่ายไทยเอง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘นายกฯ’ยันไม่มีนโยบายเปิด-ปิดด่าน เพื่อหวังผลการเมือง ‘นายกฯ’ยันไม่มีนโยบายเปิด-ปิดด่าน เพื่อหวังผลการเมือง
  • \'ภูเก็ต\'รุกฆาต! จัดเวทีคู่ขนาน ม็อบปกป้องอธิปไตย 28 มิ.ย. 'ภูเก็ต'รุกฆาต! จัดเวทีคู่ขนาน ม็อบปกป้องอธิปไตย 28 มิ.ย.
  • ‘มาริษ’ยังหวังกลไกทวิภาคีแก้พิพาทไทย-กัมพูชา เชื่อ‘ฮุน มาเนต’ยังไม่ปฏิเสธเด็ดขาด ‘มาริษ’ยังหวังกลไกทวิภาคีแก้พิพาทไทย-กัมพูชา เชื่อ‘ฮุน มาเนต’ยังไม่ปฏิเสธเด็ดขาด
  • \'นายกฯ\'ประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ  ชี้ยูเอ็น ประกาศกัมพูชา แหล่งอาชญกรรมโลก 'นายกฯ'ประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ชี้ยูเอ็น ประกาศกัมพูชา แหล่งอาชญกรรมโลก
  • \'ไทย\' ยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ งัดมาตรการตอบโต้ \'กัมพูชา\' 'ไทย' ยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ งัดมาตรการตอบโต้ 'กัมพูชา'
  • ฉายภาพระบอบทักษิณ! ‘อดีตรองอธิการ มธ.’ฟาดผิดต่อประเทศไม่ประท้วง ผิดต่อนายประท้วง ฉายภาพระบอบทักษิณ! ‘อดีตรองอธิการ มธ.’ฟาดผิดต่อประเทศไม่ประท้วง ผิดต่อนายประท้วง
  •  

Breaking News

แม่ทัพภาคที่ 2 ลั่น ไทยพร้อมตอบโต้ หากเกิดเหตุยิงปะทะ ย้ำถ้าไม่มีแผ่นดินประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้

'จตุพร'ปูด'คนตัวโต'ขู่คาดโทษผู้ว่าฯ หากปล่อยคนร่วมม็อบ 28 มิ.ย.นี้

บล็อกต่อไม่รอแล้วนะ! 'ฮุนเซน'บล็อกไอพีไทยอีกรอบ หลังเจอชาวเน็ตถล่มเมนต์รัวๆ

กกล.บูรพาไฟเขียวให้คนไทย-กัมพูชา กลับประเทศแค่วันนี้เท่านั้น

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved