เดือนก.ค.อันตราย

‘อิ๊งค์’ลุ้นสุดขีดปมคลิปเสียงหลุด

จับตา‘ศาลรธน.’ถกคำร้อง

ระทึกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์แล้ว

สอบเบื้องต้นปมคลิปหลุด

ระทึกสุดขีด!!! กางตารางประชุมศาลรัฐธรรมนูญ ลุ้นตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม กรณีศาล รธน.พิจารณาคำร้อง รับ-ไม่รับปมคลิปเสียงหลุดสนทนา“ฮุนเซน” สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 มีรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญว่า สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ได้แจ้งตารางการนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุดว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 23- 26 มิถุนายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคม (Board of Members Meeting - BoMM) ตามข้อบังคับของสมาคมศาลรัฐธรรมนูญเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC Statue)ข้อ 15 ที่โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ กทม. จึงงดการประชุมปรึกษาคดี จำนวน 1 สัปดาห์ โดยในเดือนก.ค.นี้ จะขยับการประชุมจากวันพุธ-พฤหัสบดี มาเป็นวันอังคารแทน

ข่าวแจ้งว่า สำหรับการประชุมปรึกษาคดีในคราวต่อไปวันอังคารที่ 1 , 8 และ 15 กรกฏาคมนี้ ซึ่งในช่วงดังกล่าว ต้องจับตาว่า ที่ประชุมจะพิจารณาและลงมติในคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่นำโดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนา กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

รวมถึงในคำร้องดังกล่าว ยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8) ทำให้ต้องติดตามว่า ที่ประชุมตุลาการศาล รธน.จะมีการลงมติรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าว

“ที่ต้องจับตาเป็นกรณีพิเศษคือ หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้ว จะมีมติให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุดหรือไม่ โดยหากนายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คาดว่านายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ตามข่าวจะเป็นรองนายกฯ ควบรมว.มหาดไทย ที่จะเป็นรองนายกฯลำดับที่หนึ่ง จะเป็นผู้รักษาการนายกฯแทน”แหล่งข่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี จากฝ่ายนายทักษิณ ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วถึง 4 คน คือนายสมัคร สุนทรเวช สมัยเป็นพรรคพลังประชาชน คดีชิมไปบ่นไป นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัยเป็นพรรคพลังประชาชนในคดียุบพรรค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และนายเศรษฐา ทวีสิน ในคดีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อสิงหาคมปี 2567 จนทำให้แพทองธาร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องนิติสงครามต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ไม่ห่วง เพราะดูจากคดีที่มายื่น ไม่มีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการได้ และประเด็นต่างๆ ที่ยื่นมา ตนมองว่าหลายประเด็นยื่นมาโดยที่ยังไม่เห็นรายละเอียดเลย บางประเด็นก็ไม่ใช่ความผิดโดยตรงของนายกฯ ดังนั้น จึงไม่ได้กังวลและเป็นห่วงอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สว.ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ หากศาลรับและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเหมือนกับกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน และเป็นธรรมดาที่ สว.ต้องแก้เกี้ยว เขาก็ต้องหาทางปกป้องตัวเอง ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเขา นายกฯไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้เขาฟ้องกันไป

ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้ใช้คำว่านิติสงคราม เพราะเป็นเรื่องที่ท่านใช้บทบาทของในการฟ้องร้องตามกระบวนการซึ่งผู้รักษากระบวนการยุติธรรมต้องพิจารณาและตัดสิน เราก็รับทราบและชี้แจงสิ่งต่างๆ เหมือนตนที่เคยถูกฟ้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนก็ทำหนังสือชี้แจงไป ก็ไม่มีอะไร ยังทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้