"นายกฯ"สั่ง"รมต.เก่า"กรอกประวัติอัพเดตข้อมูล เช็คเรื่องร้องเรียนระหว่างดำรงตำแหน่ง ป้องกันความผิดพลาดภายหลัง พร้อมสั่งเร่งตรวจสอบประวัติโดยเร็ว ขณะที่"มนพร"เผยมีการแจกใบกรอกประวัติ รมต.กลางวง"ครม."อัพเดตประวัติ เชื่อเสียงรัฐบาลผ่าน กม.สำคัญฉลุย ชี้"รอง ปธ.สภาฯ"โควตาเพื่อไทย ต้องดู"อาวุโส-ทุ่มเทให้พรรค-เป็น สส.หลายสมัย"
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการแจกใบกรอกประวัติให้กับรัฐมนตรีทุกคน เพื่อยืนยันและอัพเดตข้อมูลของแต่ละคน ซึ่งต่างจากเดิมผู้ที่กรอกประวัติคือรัฐมนตรีใหม่ หรือบุคคลที่ได้รับการสลับตำแหน่ง แต่สาเหตุที่นายกฯ ให้รัฐมนตรีทุกคนยืนยันข้อมูลตัวเอง เนื่องจากต้องการอัพเดตข้อมูล ป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง เช่น ระหว่างดำรงตำแหน่งบางคนถูกร้องเรียนหรือถูกตรวจสอบจากองค์กรอิสระ ยกตัวอย่างเช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มีกรณีถูกร้องเรียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นในบริษัท
ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบประวัติรัฐมนตรีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้มีบางคนทยอยส่งประวัติเข้ามาให้ตรวจสอบแล้ว และคาดว่าสัปดาห์นี้จะทยอยส่งให้กับสำนักเลขาธิการคณะมนตรี (สลค.) และเมื่อ สลค.ได้รับประวัติแล้วจะมีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยว อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในรายที่มีข้อร้องเรียนหรืออยู่ระหว่างการไต่สวน ป.ป.ช.จะมีการสอบถามไปยัง ป.ป.ช.ด้วย ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นอย่างช้าภายในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ น.ส.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการแจกใบกรอกประวัติเพื่อให้รัฐมนตรียืนยันกันทุกคน ซึ่งเป็นการอัพเดตประวัติ ว่ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจากที่เคยส่งไปหรือไม่
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้แจ้งในที่ประชุมหรือไม่ว่าการปรับ ครม.จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ น.ส.มนพร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ จึงไม่ได้มีการคุยเรื่องนี้ มีแต่การหารือกันเรื่องวาระการประชุม และมีการเสนอความคิดเห็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท โดยมีการพูดกันถึงเรื่องของกระบวนการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งนายกฯ กำชับในเรื่องนี้มาก
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นผู้ประสานงานระหว่างสภากับรัฐบาล เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้ มั่นใจหรือไม่จะสามารถผ่านร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลได้ น.ส.มนพร กล่าวว่า ถ้าดูตัวเลขของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) , พรรคประชาชน (ปชน.) และพรรคอื่นๆ ก็ทำให้เสียงของรัฐบาลหายไปจำนวนหนึ่ง แต่ถ้า สส.ฝ่ายรัฐบาล ได้รู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเอง เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ก็เชื่อมั่นว่ากฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค
ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ที่จะมาแทนที่วางลง น.ส.มนพร กล่าวว่า โควตานี้เป็นของพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งก็คงจะมีการประชุมพรรคและคุยกัน เพื่อดูถึงความเหมาะสมของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ แต่ช่วงนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุม จึงยังไม่ได้มีการประชุมพรรค ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ทั้งนี้ คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ คิดว่าไม่ได้มีความสามารถเฉพาะที่จะควบคุมการประชุมสภาฯ ได้เท่านั้น แต่ต้องมีมิติอื่นด้วย เช่น ต้องมีเรื่องของความเข้าใจ มีความอาวุโสทางการเมือง หรือการทุ่มเทให้กับพรรคและงานสภาฯ ด้วย
เมื่อถามว่า ดูแนวโน้มแล้วใครมีความเหมาะสมนั่งในตำแหน่งนี้บ้าง น.ส.มนพร กล่าวว่า สส.ทุกคนก็เก่งหมด แต่เราต้องดูความอาวุโส ความทุ่มเทให้พรรค ความใส่ใจในงาน เพราะงานรองประธานสภาฯ เป็นงานในเรื่องของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะปั้นคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่นี้หรือไม่ น.ส.มนพร กล่าวว่า เรายึดในเรื่องของความอาวุโส บางทีคนรุ่นใหม่ ก็มาเป็น สส.หลายสมัยแล้วก็มี ไม่ใช่ดูแค่เพียงความอาวุโสในเรื่องของอายุ แต่ต้องดูความอาวุโสในเรื่องของสมัยที่เป็น สส.ด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี