ออกเถอะ!อย่าพายเรือให้โจรนั่ง
คปท.บี้‘รทสช.’
วอน‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’ไขก๊อก
เผย28มิ.ย.เพื่อนลุงตู่มาเพียบ
ตร.จัด1,200นายคุมผู้ชุมนุม
‘น้าหงา’ร่วมด้วยไล่‘อุ๊งอิ๊งค์’

“คปท.”บุก“รทสช.”จี้ถอนตัวร่วมรัฐบาลอิ๊งค์ เผยชุมนุมใหญ่ 28 มิถุนายน เพื่อนลุงตู่มาเพียบ “หงา คาราวาน” นัดรวมศิลปิน แถลงไล่“อุ๊งอิ๊งค์” ลาออกทันที ตำรวจจัดกำลังพล 1,200 นายดูแลความเรียบร้อย

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุม จัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เดินขบวน นำป้ายผ้าหลายข้อความ เช่น GET OUT, ออกมาเถอะ อย่าหลงกลนายกชั่ว, นายกโง่ ไร้ความสามารถ ออกไป, พรรครทสช.อย่าพายเรือให้โจรนั่ง, รับไม่ได้ นายกขายชาติ ฯลฯ ภายหลังยืนยันร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต่อไป จากกรณีคลิปเสียงการสนทนากับ สมเด็จ ฮุนเซน หลุดออกมา โดยมี นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผอ.ครวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวแทนพรรคออกมารับหนังสือ

อย่าพายเรือให้โจรนั่ง

นายพิชิต กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาในฐานะมิตร เพื่อเรียกร้องทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เคยอยู่ในการเคลื่อนไหวกับประชาชนมาก่อน ในช่วงปี 2556-2557 ในนามคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จึงคิดว่าจะเข้าใจความรู้สึกของประชาชน ซึ่งสิ่งที่ประชาชนกำลังเรียกร้องในขณะนี้ คือประเทศไทยต้องผ่านวิกฤติไปให้ได้ ทั้งวิกฤตด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือวิกฤตการเมือง และสังคม รวมถึงนโยบายที่ส่งผลต่อประชาชนเช่น กาสิโน และกรณีชั้น 14 ที่ทุกคนทราบดีว่าเป็นเรื่องอะไร ดังนั้นประเทศไทยต้องมีผู้นำที่แสดงภาวะผู้นำได้อย่างถูกต้อง และนำพาประเทศไปได้

“แต่จากคลิปเสียงการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน แสดงให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ไม่สามารถนำพาประเทศไทยต่อไปได้ ซึ่งจุดอ่อนของประเทศในวันนี้ คือภาวะการนำของ น.ส.แพทองธาร ดังนั้นอยากให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติทางด้านความมั่นคงไปได้ โดย น.ส.แพทองธาร ต้องลาออก ยืนยันเราไม่ได้เรียกร้องการรัฐประหาร แต่ขณะนี้มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเหลืออีกคน และอีกหลายคนก็มีคุณสมบัติที่จะนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้

ชี้”อุ๊งอิ๊งค์”ไปต่อไม่ได้แล้ว

หาก น.ส.แพทองธาร ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่ว่าสังคมต้องประคองให้นายกฯ เดินได้ แต่นายกฯ ต้องเดินด้วยขาของตนเอง ไม่ใช่ให้คุณพ่อ รัฐบาล และสส. มาช่วยประคอง ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกับประชาชน เราจึงสื่อสารผ่านพรรครวมไทยต่างชาติ ในฐานะกัลยาณมิตร คนที่เคยต่อสู้ร่วมกันมา และอยากให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างขาติ ฟังเสียงของประชาชน เหมือนที่เคยบอกว่าให้ฟังเสียงมวลมหาประชาชนเช่นกัน”

นายพิชิต กล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องของเราไม่ได้ซับซ้อน ระบุแค่ว่าให้พรรครวมไทยสร้างชาติถอนตัวออกจากพรรครวมรัฐบาล และขอให้ฟังเสียงของมวลมหาประชาชน นอกจากนี้ หลังจากวันที่ 28 มิ.ย. ตนขอให้ติดตามกิจกรรม โดยเราจะเคลื่อนขบวนไปทุกพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในวันนี้เดินทางมาพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน เพราะว่าพรรคอยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินทางไปร่วมชุมนุมได้ง่ายที่สุด ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นจะเป็นกิจกรรมหลังวันที่ 28 มิ.ย. เพราะประเมินแล้วว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งก็คงต้องสู้กันอีกยาว

ด้าน นายหิมาลัย กล่าวว่า จะนำข้อเสนอทั้งหมดไปให้กับหัวหน้าและเลขาพรรคต่อไป

“น้าหงา”แถลงไล่อุ๊งอิ๊งค์

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร(BACC ) กลุ่มเครือข่ายศิลปปกป้องแผ่นดินไทย นำโดยนายสุรชัย จันทิมาธร หรือน้าหงา คาราวาน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ที่มีการรวบรวมรายชื่อศิลปินวาดภาพ นักคิด นักเขียน อาทิ วสันต์ สิทธิเขต, เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ , อัศศิริธรรมโชติ, ปรีชา เถาทอง ,เป้ สีน้ำ แถลงประกาศจุดยืนการเคลื่อนไหวต่อรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนาสุรชัย กล่าวว่า ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพื่อความสงบสุข และอนาคตของประเทศชาติ เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ เข้าสู่ภาวะที่ประชาชนจำนวนมากไม่อาจนิ่งเฉยต่อพฤติกรรม คำพูด และการกระทำของนายกฯ ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยต่อหลักการประชาธิปไตย คุณค่าของรัฐธรรมนูญ และศักดิ์ศรีของประชาชนคนไทย เครือข่ายศิลปินฯ ที่รวมตัวรวมกันด้วยความห่วงใย ในบ้านเกิดเมืองนอน ขอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อสาธารณะชน

จี้ออกจากตำแหน่งนายกฯทันที

1.นายกฯต้องแสดงความรับผิดชอบสูงสุดโดยการลาออกจากตำแหน่งในทันที เพื่อยุติการขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้าและหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจบานปลายจนนำไปสู่การฉวยโอกาสของอำนาจนอกระบบที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งความอยู่รอดของประเทศชาติสำคัญกว่าตำแหน่งทางการเมือง ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

2. เครือข่ายศิลปินฯ ของประกาศเจตนารมย์พร้อมเคลื่อนไหวทางสังคมภายใต้กรอบกฎหมายและสันติวิธี โดยความเชื่อมั่นในพลังศิลปะและประชาชน และจะไม่ยอมให้ประชาธิปไตยถูกบิดเบือน และจะใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร สะท้อนความเป็นจริง ปกป้องบ้านเมืองจากการถูกทำลายทางคุณธรรม และจิตวิญญาณ

3.เราขอยืนหยัดอย่างมั่นคงว่าไม่เอารัฐประหาร ไม่ว่าด้วยเหตุข้ออ้างอะไร เราขอเรียกร้องให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองต้องไปตามเจตจำนงค์ของประชาชนอย่างแท้จริง ผ่านกลไกประชาธิปไตยอันชอบธรรมเท่านั้น เครือข่ายศิลปินฯขอเชิญพี่น้องที่รักความถูกต้องร่วมแสดงพลังอย่างสร้างสรรค์ เพื่อยืนยันว่าศิลปะและประชาชนจะไม่ยอมจำนนต่ออำนาจที่ไม่ชอบธรรมอีกต่อไป

เมื่อถามว่า เครือข่ายศิลปินฯจะไปร่วมกับกลุ่มรวมพลังแผ่นดินในวันที่ 28 มิ.ย.หรือไม่ นายสุรชัย ตอบว่า ตนยังไม่ยืนยันว่าจะไปร่วมแต่นี่คือการเคลื่อนไหวอีกแบบหนึ่ง ซึ่งวันที่ 28 มิ.ย.อาจจะไปร่วมหรือไม่ก็แล้วแต่ อยู่ที่ภารกิจการงาน อันนี้ให้คำตอบอะไรไม่ได้

ชี้บ้านเมืองไม่ใช่บริษัท

ถามต่อว่า อะไรที่เป็นจุดให้ออกมาเคลื่อนไหว นายสุรชัย กล่าวว่า ไม่ได้มีการเกลียดชังต่อครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง โดยหลักการแล้วรัฐบาจะต้องประกอบด้วยสิ่งสำคัญคือ สติ ปัญญา ความรู้ ความสามารถ ประมวลขึ้นมาเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนทุกคนทุกส่วนทุกฝ่ายทุกชนชั้น เราเห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มุ่งนโยบายที่จะไปดูแลเยียวยาสิ่งเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลนี้ต้องการพยุงสถานะของตัวเองไว้ในนามของพรรคการเมือง ในนามการปกครอง การจัดตั้งรัฐบาล รัฐมนตรี เพื่อจะพยุงสถานะของตนเองและพรรคพวกไว้เท่านั้น

เมื่อถามว่า จะชวนศิลปินคนอื่นๆอย่างเช่นคาราบาวออกมาเคลื่อนไหวด้วยหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่าเมื่อวานก็เจอน้าแอ๊ด คาราบาว เขาก็ยินดีด้วยแต่ตัวเขาเองก็คงไม่ว่าง ยังไงก็มีใจให้กันแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวมีการจัดกิจกรรมศิลปะโดยการวาดภาพที่มีข้อความว่า”ไม่เอารถถัง “ และ”บ้านเมืองไม่ใช่บริษัท”

แปลกใจเทวดากบดานเงียบ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่า ถ้าวันที่ 28 มิ.ย. ประชาชนมาอย่างมืดฟ้ามัวดินแล้ว มันจะเป็นคำตอบว่านายกฯจะลาออกหรือไม่ มันจะเป็นคำตอบว่าจะถอนตัวหรือไม่ ถ้านายกฯ ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลด้วยใจระทึกอีก และ สส.พรรคร่วมก็รอคดีฝ่าฝืน ม.144 ต่ออีกด้วย แต่สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างมาก คือ ทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ เก็บตัวเงียบผิดปกติ ไม่เสนอหน้าต่อสังคมเพื่อช่วยกู้ศรัทธาให้ นายกฯ ลูกสาว มีแต่คนอื่นนำคำพูดมาบอกว่า ทักษิณ พูดอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ทักษิณ ไม่กล้าปรากฏตัวในสถานการณ์ร้อนแรงรุมถล่มนายกฯ จวนเจียนพัง ทักษิณ คุณอยู่ไหน คิดอะไรอยู่

นายจตุพร กล่าวว่าขณะนี้มีข่าวระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลโดยคนตัวใหญ่ได้สั่งการ ผวจ.ทุกจังหวัดสกัดประชาชนมาร่วมสำแดงพลัง ถ้าจังหวัดมีประชาชนมาร่วมชุมนุม ผวจ.นั้นต้องรับผิดชอบ แต่ปัญหามีว่าจะมี ผวจ.หน้าไหนไปขัดขวางประชาชน เพราะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาขัดขวางเสรีภาพประชาชนตาม รธน. ดังนั้น จึงไม่สามารถขัดขวางได้ เพราะประชาชนมาสำแดงพลังปกป้องแผ่นดิน ถ้าถูกขัดขวางแล้ว ยิ่งน่าสงสัยว่า คนสั่งการคิดขายชาติและทรยศชาติ

เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12‘ลุงตู่’มาด้วย

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีตสว.) หนึ่งในแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย กล่าวว่าการชุมนุม 28 มิ.ย.68 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตนได้ตรวจสอบจากเพื่อนลุงตู่ ที่เคยเป็นเพื่อน สว.ชุดที่แล้วกับผม ที่สนับสนุนพวกเรา และจะมาร่วมแสดงพลังปกป้องอธิปไตยในฐานะที่เป็นทหารหาญที่จะมาร่วมกับเราแน่นอน เช่น พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 อดีตเตรียมทหารรุ่น 12 ผู้ปราบเขมรที่เนินห้าร้อย นี้คือนักรบตัวจริง พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ปัจจุบันเป็นประธานนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 12 และ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตนายทหารเรือผู้จงรักภักดี อดีต ทส.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี อดีตเตรียมทหารรุ่น 12 เอาแค่สามชื่อพอก่อน ดังนั้น ไม่มีใครไปด่าลุงตู่แน่นอน 100%

จัดตร.1200นายคุมม็อบ

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เตรียมความพร้อมในการดูแลและบริหารจัดการการชุมนุมสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุมให้ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนและการใช้พื้นที่สาธารณะ

ขณะนี้ บช.น. ได้รับหนังสือแจ้งการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว และได้ประสานงานกับผู้จัดการชุมนุม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1,200 นาย ประกอบด้วยกำลังรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และฝ่ายสืบสวน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งก่อน ขณะ และหลังการชุมนุม ในส่วนของการข่าว ได้สั่งการให้หน่วยสืบสวนในทุกกองบัญชีกำกับดูแลความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พร้อมจัดตั้งจุดตรวจ/คัดกรองบุคคลและยานพาหนะในเส้นทางจราจรหลัก รวมถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้า เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดี หรือมีเจตนาก่อความไม่สงบ

ยอดบริจาคชุมนุมทะลุ15ล้าน

เฟซบุ๊กของ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 1 วัน 15 ชั่วโมง 15 ล้านบาท จากพี่น้องประชาชนหลั่งไหลมาสนับสนุนการชุมนุมและนำรายได้ส่วนที่เหลือสนับสนุนกองทัพภาคที่ 2

1 วันกับอีก 15 ชั่วโมงผ่านไปเวลา 7.25 น. ตั้งแต่้ช้าขอววันนี้มีผู้โอนเงิน 640 รายการรวมเป็นงิน 15,893,731.97 บาท เข้าบัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 008-109529-9 เพื่อให้มูลนิธินำเงินไปมอบให้ “กลุ่มพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ที่จะจัดกิกรรมชุมนุมสาธารณะเพื่อให้ความรู้และแสดงความรักชาติปกป้องอธิปไตยไทย ในวันที่ 28 มิถุนายน 2568