กต.เผยสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มลดลง แต่กต.ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 27 มิถุนายน 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการเกี่ยวกับเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (RRC) เพื่อติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องนั้น ว่า 

ขณะนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดมีแนวโน้มลดลง ภายหลังจากที่อิสราเอลและอิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว กว่า 48 ชั่วโมง และขยายต่อไปอีก 48 ชั่วโมง โดยท่าอากาศยานของอิสราเอลได้เปิดให้บริการตามปกติ และอิหร่านได้เริ่มเปิดน่านฟ้าบางส่วนของประเทศแล้ว   

กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์  และดำเนินการช่วยเหลือคนไทยเมื่อเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น โดยในอิหร่านได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เมือง Amol ให้คนไทย 35 คนได้พำนัก และขณะนี้ทุกคนได้เดินทางกลับกรุงเตหะรานแล้ว   

และเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทรศัพท์หารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการผ่านด่านชายแดนสำหรับคนไทย ซึ่งส่งผลให้คนไทยสามารถข้ามแดนได้สะดวกมากขึ้น  ปัจจุบัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ช่วยเหลือคนไทยที่แสดงความประสงค์ออกจากอิหร่านแล้วจำนวน 11 คน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงบริษัท Chemo Aharon ช่วยเหลือคนไทยและแรงงานที่ประสงค์ออกจากอิสราเอลจำนวน 41 คน 

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า แม้สถานการณ์จะมีพัฒนาการในทางบวก แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตะราน ยังอยู่ระหว่างรอรับคนไทยที่กำลังเดินทางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เมือง Van ประเทศตุรกี อีก 40 คน ซึ่งจะเดินทางถึงในสุดสัปดาห์นี้ และกลับประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ หากสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน จะพิจารณาย้ายการดำเนินการกลับไปยังที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตในกรุงเตหะรานในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป ในขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เปิดทำการตามเวลาปกติแล้วตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา