ไม่ช่วยคดีม.112
รบ.การันตีนิรโทษ
ภท.ย้ำคว่ำ‘กาสิโน’

ปธ.วิปรัฐบาล ยํ้า เลื่อน ก.ม.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ 2-3 เดือน รอประชาชนเข้าใจก่อน ระบุ คิวแรกเปิดประชุมสภา ถก พ.ร.บ.ประชามติ-นิรโทษฯ ยันชัด ทุกฉบับต้องไม่มี ม.112 ด้าน”วันนอร์”จี้รีบเคลียร์ให้จบ เพื่อความปรององ

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ว่า วาระแรกน่าจะเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอ แต่ ส.ว.มีมติตีกลับ กับร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม และจะมีร่างอีก 4 ฉบับ เพราะการนิรโทษฯต้องมาก่อน เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง ก็เดี๋ยวค่อยว่ากันในสภา ให้ทุกคนแสดงความเห็นกันเต็มที่ และให้ลงมติกันว่าจะรับทั้งหมดหรือเลือกบางฉบับใด แต่ยืนยันว่าทุกฉบับจะต้องไม่มีเรื่อง มาตรา 112

เมื่อถามถึงการเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เลื่อนไปก่อน 2-3 เดือนค่อยว่ากัน รอจนกว่ารัฐบาลจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ให้ทราบถึงข้อดีและข้อเสีย ไม่รีบเร่ง

ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีแนวคิดที่จะผลักดัน การพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาปรับปรุงก่อนเสนอต่อที่ประชุมสภาฯโดยจะต้องมีการหารือกับวิปทุกฝ่ายก่อนที่จะนำเข้าสู่วาระพิจารณาของสภาฯ ส่วนในเนื้อหาของการนิรโทษกรรมยังมีความเห็นต่างกันอยู่ของผู้พิจารณา คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุงและรัฐบาลจะต้องรับฟังเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับตรงกัน

“ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม เป็นร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ หากผลักดันได้สำเร็จก็สามารถสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่หากกฎหมายไม่สำเร็จก็อาจจะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน จากความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน หากทำให้คนเรานั้นสามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ได้ ก็จะช่วยให้การเมืองเดินไปได้มากยิ่งขึ้น“นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองในวันนี้(28 มิ.ย.)ว่า ในฐานะประธานรัฐสภา ไม่ต้องการที่จะให้ความเห็นหรือคาดการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องธรรมดาที่มีปัญหา เหมือนกรณีการเมืองในประเทศจีนที่พัฒนาได้ เพราะการเมืองของจีนค่อนข้างเป็นระบบ แต่ถ้าหากการเมืองไม่นิ่งก็ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจตามมา การลงทุนก็มีปัญหา เพราะคนขาดความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป ที่จะพิจารณามาลงทุน นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวประเทศไทย ถ้าประเทศไทยยังเป็นปัญหาเช่นการประท้วงอะไรต่างๆ รัฐบาลมีความไม่มั่นคงนักท่องเที่ยวจะเลือกไปประเทศอื่นก็ได้ ทำให้เสียโอกาสระดับหนึ่ง แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยก็เป็นเช่นนี้

นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า แท้จริงแล้วหัวใจของนายฮุน เซน คือผลประโยชน์มหาศาลที่ได้จากกาสิโนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโกรธมาก และยกเอาเรื่องดินแดนมาเป็นข้ออ้างเพื่อทะเลาะกับไทยทันทีที่ประเทศไทยเดินหน้าทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีกาสิโนเป็นหัวใจ

นายภราดร กล่าวอีกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี จึงต้องตกเป็นเหยื่อของการถูกล่อซื้อ โดยพูดคุยกับนายฮุน เซน แบบไม่ระมัดระวัง เจรจาผลประโยชน์ของประเทศ เพื่อแลกกับคะแนนนิยมของตัวเอง และยังไม่ทราบว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาเป็นเนื้อหาทั้งหมดหรือไม่ หรือมีการเจรจาเรื่องอื่น ๆ อีกหรือไม่ ทให้อดคิดไม่ได้ว่าประเทศไทยถูกผู้นำเขมรแบล็คเมล์เรียกร้องเอาสิ่งที่ต้องการหรือไม่ การถอยแบบไม่เป็นท่าของพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่า นี่คือการแบล็คเมล์ของนายฮุน เซน และหากไม่ถอยจะมีการปล่อยคลิปมาอีกหรือไม่

“ท่าทีต่อกาสิโนของพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยจึงแตกต่างกัน ของภูมิใจไทยปฏิเสธกาสิโนเพราะฟังจากเสียงปฏิเสธของประชาชน ส่วนการถอยของเพื่อไทยเกิดจากการถูกขู่กรรโชกจากนายฮุน เซนหรือไม่ ผมบอกเพื่อไทยนะครับว่า ไม่ต้องเลื่อนวาระออกไปหรอก หากไม่เอาก็โหวตคว่ำไปเสีย ไม่ต้องมาคาราคาซังอยู่ในสภาแบบนี้ ส่วนพวกผมคว่ำแน่นอน” นายภราดรกล่าว พร้อมติดแฮทแท็ก #ประเทศไทยเดินทางมาถึงวันที่เราถูกเขมรข่มขู่แล้วหรือ