ม็อบ‘รวมพลังแผ่นดิน’เต็มอนุสาวรีย์ชัย
ไล่‘อุ๊งอิ๊งค์’กระหึ่ม!
คาใจคลิปเสียงผู้นำเขมร
สับเละทำชาติเสียหาย
เดินหน้ากดดันถึงที่สุด
จี้พรรคร่วมรบ.ถอนตัว

กลุ่มผู้ชุมนุมทั่วสารทิศปักหลักอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แสดงพลังปกป้องอธิปไตยชาติ ทำบุญตักบาตรบวงสรวง เหล่าวีรชน เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนเปิดศึกถล่ม“อุ๊งอิ๊งค์” ไม่ยั้งไล่ให้ลาออก หลังคลิปเสียงเจรจาฮุนเซนหลุด ประกาศเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28มิ.ย. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการนัดหมายรวมตัวชุมนุมแสดงพลังของกลุ่ม “คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” เพื่อเรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล จากต้นเหตุกรณีคลิปเสียงหลุดระหว่างน.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปัญหาข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทบมายังอธิปไตยของชาติ รวมถึงปัญหาต่างๆในประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม

โดยตั้งแต่เวลา 07.00 น. มวลชนและแกนนำกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ที่ประกอบด้วยเครือข่ายต่างๆ อาทิ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน คณะหลอมรวมประชาชน คปท. กองทัพธรรม กปปส. ตลอดจนมวลชนสีเสื้อต่างๆที่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกันในอดีต ต่างพร้อมใจทยอยเดินทางเข้าสู่พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมติดตั้งเวทีปราศรัย เต็นท์อำนวยความสะดวก และจุดบริการน้ำดื่ม ขณะเดียวกัน มีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โดยรอบ และประสานกับกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตั้งรถสุขาบริการประชาชน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา เป็นไปอย่างคึกคัก มวลชนทยอยเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมชุมนุมฟังปราศรัย และแสดงพลัง

ชัชชาติตรวจความเรียบร้อย

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณที่จะมีการจัดชุมนุม พร้อมกล่าวว่า ได้จัดชุดเทศกิจกทม. จำนวน 100 คน มาดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถสุขาของทาง กทม. จำนวน10คัน รถบริการน้ำดื่ม เจ้าหน้าที่พยาบาลเพื่อให้บริการกับผู้ที่มาชุมนุม ซึ่งกทม.ได้ตั้งศูนย์บัญชาการร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เขตราชเทวี เพื่อประสานงานการดูแลการจัดชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับการจราจร ต้องเน้นการแบ่งปัน ดูแลซึ่งกันและกัน ส่วนหากมีการชุมนุมเกินเวลาที่กำหนดไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ

บวงสรวงวีรชนหาญกล้า

ต่อมาในเวลา 10.00 น. ทางกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ได้จัดพิธีบวงสรวง วีรชนหาญกล้าที่ปกป้องอธิปไตย ภายใต้กิจกรรมความรักชาติไทย โดยมีแกนนำร่วมพิธี อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคปท. และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน

จากนั้นในเวลา 10.30 น. เปิดเวทีปราศรัย โดยแกนนำจะสลับกันขึ้นเวทีแสดงจุดยืนทางการเมืองเกี่ยวกับประเด็นอธิปไตย และสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับกิจกรรมดนตรี โดยในเวลา18.00น. เป็นต้นไป ภายหลังเคารพธงชาติ จะมีการอ่านแถลงการณ์ของทางกลุ่มฯ จากนั้นจะเป็นการปราศรัยของบรรดาแกนนำคนสำคัญ และปิดเวทีด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ในเวลา21.00น.

ตะเพิด”แพทองธาร

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคณะนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นกล่าวเปิดเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการว่า ตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาถึงไทยเป็นวันแรก เป็นวันเดียวกันกับการโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความพิกลพิการทั้ง กระบวนการยุติธรรม รัฐบาลที่บริหารภายใต้ระบอบเครือญาติ แต่งตั้งคนใกล้ชิดมาเป็นรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีกรณีจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ด้วยความสามารถที่หาไม่เจอของน.ส.แพทองธาร นายกฯ ทำให้วิบัติมาจนถึงทุกวันนี้

“ความสามารถหาไม่เจอ ความรู้ไม่มี อ่านในไอแพดที่เขาเขียนให้ยังอ่านผิด ระบบการเมืองล้มเหลวเศรษฐกิจล้มเหลว ระบบยุติธรรมล้มเหลว ระบบสังคมก็ไปเอากาสิโนมา ล่าสุดประกาศเลื่อนไม่มีกำหนด ถ้ายังดึงดันสร้างกาสิโน เผลอ ๆ รัฐบาลไปพร้อมกาสิโน” นายพิชิต กล่าว

นายพิชิต กล่าวต่อว่า เราจึงต้องมาแสดงพลังที่นี่ว่าจะไม่ยอมให้ประเทศล้มเหลว ฟางเส้นสุดท้ายที่เราทนไม่ได้คือ คลิปเสียงหลุดของน.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ขายชาติขายแผ่นดิน นายกฯ บอกว่าเป็นเทคนิคในการเจรจา แต่เราเห็นว่าเป็นเทคนิคขายชาติ คลิปเสียงจะกลายเป็นใบเสร็จสำคัญที่ทำให้ประเทศชาติล้มเหลว

จี้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว

ทั้งนี้ ขอย้ำข้อเรียกร้องในการชุมนุม 3 ข้อ คือ 1.ขอให้นางสาวแพทองธาร รับผิดชอบต่อคำพูดในคลิปด้วยการลาออกทันที 2.ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และ3.ขอให้ประชาชนร่วมกันมาปกป้องอธิปไตย

จากนั้นนายพิชิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่มีท่าทีตอบรับข้อเรียกร้องของทางกลุ่มฯว่า ก็ยังหารือกันอยู่ แต่กิจกรรมหลังจากนี้จะมีความเข้มข้นขึ้น เพราะวันนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น สำหรับข้อเรียกร้องให้นายกฯลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว จะยกระดับขึ้นหลังจากวันนี้ โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน อดีตแกนนำนปช. จะเป็นผู้ประกาศทิศทางต่อไป

“เรวัช”ร่วมชุมนุมใหญ่

เมื่อเวลาประมาณ14.40น. พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาขอถ่ายรูปร่วมกับพล.ต.ท.เรวัช อย่างมากมาย ซึ่งสื่อมวลชนได้สอบถามถึงเหตุผลการมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาร่วมปกป้องอธิปไตย ไทยไม่ให้กัมพูชามารุกราน หากเกิดศึกสงครามขึ้นมา ตนจะอาสาไปอยู่แนวหน้า ที่ทางกัมพูชาบอกว่าจะรวมคนมาชุมนุม 150,000 คน ตนเลยต้องออกมามาหน่อย ยืนยันว่าเรื่องการเมืองตนจะไม่ยุ่ง จะไล่นายกรัฐมนตรีอะไรต่างๆ ตนไม่ยุ่งด้วย

“แต่ผมมาให้เขมรรู้ว่า อย่ามาเสือกกับประเทศไทย ผมไม่ยอม” พล.ต.ท.เรวัช กล่าว

เชื่ออิ๊งค์เจอบทอวสาน

นายจตุพร พรหมพันธ์ุ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ไล่รัฐบาล ว่า สำหรับแนวทางในวันนี้ภายหลังร้องเพลงชาติในเวลา 18:00 น. แล้วจะมีแถลงการณ์ ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ โดยตนจะขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย

ส่วนแนวทางหลังจากนี้เหลือเพียงแค่ข้อเดียว คือการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นวาระของบ้านเมือง และ การชุมนุมในวันนี้เป็นการแสดงพลัง ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าชาวกัมพูชา ซึ่งเราถูกปรามาสมาโดยตลอดว่าจะมาเพียงไม่กี่คน และคาดว่าจะมีคนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากกว่านี้ ทั้งจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยครั้งแรกพวกเรานับได้ว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 3 พันคน ซึ่งในขณะนี้เราปิดเส้นทางการจราจรที่ฝั่งเกาะพหลโยธิน และดินแดง

สำหรับสิ่งที่มาร่วมชุมนุมในวันนี้และจะส่งผลไปถึงรัฐบาล นายจุตพร ระบุว่า เราเชื่อว่า หลังจากวันที่ 1 ก.ค. เขารู้อนาคตตัวเองดี ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก เพียงแค่ตอนนี้พวกเขายื้อความตายได้เพียงไม่กี่วัน ส่วนจะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ตอนนี้ยังไม่ได้หารือ เพราะข้อเรียกร้องของเรา คือนายกฯ ลาออก และพรรคร่วมถอนตัว แต่ตอนนี้สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือการปกป้องอธิปไตย ซึ่งวันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นการปกป้องอธิปไตยของชาติ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมในวันนี้จะเลิกในเวลา 21:00 น. บวกลบเล็กน้อย ก่อนจะยุติการชุมนุม ส่วนในวันข้างหน้าเราจะมีสัญญาณอะไรก็ขอให้รอติดตาม ซึ่งการยกระดับจะเน้นปัญหาไปที่การหารือของชาติ เพราะเราไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารได้อยู่แล้ว ให้เขาตายไปตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ

แกนนำปราศรัยถล่มไม่ยั้ง

น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เราไม่เพียงแต่มาไล่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เราต้องไล่พรรคร่วมรัฐบาลออกไปด้วย เพราะพรรคร่วมฯเห็นเขาขายชาติ ก็ยังเป็นนั่งร้านประเคนเอาชาติให้เขาไปขาย บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเกาะขอบเวทีคอยดูประชาชนให้ดีประชาชนจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ดังนั้น นายกฯต้องออกไป พ่อนายกฯต้องออกไป รัฐบาลชุดนี้ต้องล่ม

ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ปราศรัยตอนหนึ่งว่า บทพิสูจน์ที่ผ่านมา เราไล่นายทักษิณ ชินวัตรนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนมาถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร วันนี้น.ส.แพทองธาร มาเห็นพวกเราต้องตกใจแน่นอน วันนี้เป็นสัญญาณว่าเด็กคนนี้ต้องตกน้ำตายแน่ ถ้าไม่เปลี่ยนใจมีทางเลือกเดียวคือต้องออกไป เราเผชิญกับนายกฯที่มีดีเอ็นเอขายชาติ ท่ามกลางทหารที่ปกป้องอธิปไตย เชื่อว่าวันนี้สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ให้ทีมงานมอนิเตอร์เราอยู่ เรื่องที่ฮุนเซนออกมาแฉ ตนคิดว่ายังพูดอะไรไม่หมด เพราะเป็นการหักหลังขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ของ2ตระกูลแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสีเทา พื้นที่ทางทะเล

ฝนกระทำผู้ชุมนุมไม่ถอย

นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า เราจะยอมให้ตระกูลตระกูลหนึ่งมาสร้างปัญหาให้เราหรือ วิธีแก้ปัญชายแดนที่ดีที่สุดคือน.ส.แพทองธารออกไป สถานการณ์จะดีขึ้น การที่น.ส.แพทองธาร เอาผลประโยชน์ของชาติไปให้ศัตรู จะให้เราไว้ใจได้อย่างไร น.ส.แพทองธาร ต้องออกไป รับรองว่าน.ส.แพทองธาร อยู่ได้ไม่เกิน7วัน ภายในวันที่1ก.ค.นี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแน่นอน เชื่อว่าฮุนเซน ยังมีทีเด็ดเก็บไว้อยู่ จึงไม่แปลกใจที่นายทักษิณ สทร. เงียบผิดปกติ ขณะนี้ที่ศาลฎีกากำลังจะนัดไต่สวน จากประสบการณ์ที่ตนจัดการนักการเมือง มั่นใจว่าสทร.ติดคุกแน่นอน ตนมั่นใจว่าพี่น้องจะได้ฟังข่าวดีแน่นอนอุ๊งค์อิ๊งไปต่อไม่ได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ที่ขณะนี้มีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก โดยบรรดาผู้ชุมนุมต่างนำร่ม และเสื้อกันฝนมาป้องกันฝน เพื่อรับฟังการปราศรัยของแกนนำ ที่ยังปักหลักอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

คาดผู้ชุมนุมทะลุหมื่น

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.ที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (ส่วนหน้า) สำนักงานเขตราชเทวี พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. ระบุว่า เมื่อเวลา 15.30 ใช้โดรนนับจำนวนผู้ชุมนุมได้ 6,000 จน คาดว่าช่วงเย็นจะมีมวลชนเข้ามาสมทบเพิ่มเติมจำนวนมาก คาดว่าจะถึง 10,000 คน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. ระบุว่า วันนี้มีการจับกุมนายพิบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวกรุงเทพฯที่มาร่วมชุมนุม ข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานและพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ นำตัวส่งสน. พญาไท สาเหตุที่ทำร้ายเนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่ ที่มาค้นและพบอาวุธมีดที่ตนพกมา ส่วนผลการตั้งจุดตรวจคัดกรองจนถึงเวลา 16.00 น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธมีด 7 เล่ม คัตเตอร์ 17 เล่ม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และยังสามารถจับกุมบุคคลที่มีหมายจับ พ.ร.บ. คอมฯ 1 ราย ของศาลอาญา ส่งดำเนินคดี