เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า ว่าด้วย คณาธิปไตย-ประชาธิปไตยและทรราช ในปรัชญาการเมืองของเพลโต
สำหรับ Plato แล้ว ทรราชเป็นผลจากความเสื่อมในประชาธิปไตย ในลักษณะเดียวกันกับที่ ประชาธิปไตยเป็นผลมาจากความเสื่อมในคณาธิปไตย
เนื่องจากความโลภในการเพิ่มพูนทรัพย์สินเงิน ทองอย่างไม่จำกัดในหมู่คณาธิปัตย์ พวกเขาจะทอดทิ้งคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนยากจนและจะมุ่งแต่การ สะสมทรัพย์สินเงินทองเอาไว้แก่ตน
ด้วยเหตุนี้คณาธิปไตยจะค่อย ๆ ดำเนินไปสู่ความเสื่อม
ส่วนการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น ความปรารถนาในการมีเสรีภาพอย่างไม่จำกัด ก็จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาธิปไตยเกิดความเสื่อมและค่อย ๆ ทำลายตัวมันเองลง และเป็นการเตรียมเส้นทางไปสู่ทรราชอีกด้วย
เพราะภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตยที่ ประชาชนมีความปรารถนาในการมีเสรีภาพอย่างไม่จำกัด จะพบว่า จะค่อย ๆ มีการขยับขยายความปรารถนาในเสรีภาพออกไปมากขึ้นในทุก ๆ เรื่องของชีวิต ทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัวและชีวิตในทางสังคม การเมือง สังคมประชาธิปไตยจึงเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ รวมไปถึงการไร้มาตรฐานสูง-ต่ำ ทั้งหลายทั้งปวง ภายใต้สภาวะดังกล่าวจึงไม่ต่างจากสภาวะอนาธิปไตย
ภายใต้สภาพที่ทุกคนเรียกร้องเสรีภาพอย่างไม่จำกัด ตรงจุดนี้เอง Plato มองว่าจะมี “บางคน” ที่ออกมานำเสนอตนเอง แก่ประชาชนโดยเฉพาะคนยากจน ให้มีความคิดต่อต้านระบบเดิม นี่คือจุดเริ่มแรกของการกำเนิดขึ้น ของ “ผู้ปกครองทรราช” ประชาชนจะให้ความสนับสนุนเขามาเป็นผู้นำ เพื่อที่จะล้มล้างกลุ่มอำนาจ ชนชั้นสูงที่ครองอำนาจอยู่เดิม
ในตอนแรกที่ผู้ปกครองดังกล่าวนี้ขึ้นสู่อำนาจ ประชาชนก็จะให้ความ สนับสนุนและยกย่องเขา เนื่องจากเขาได้เข้ามาปฏิรูปบ้านเมืองและยึดอำนาจจากกลุ่มผู้ปกครองเดิม เช่น การจับศัตรูของประชาชนคนยากจนมาลงโทษอย่างรุนแรงหรือประหารชีวิตเสีย การยกเลิก หนี้สินของประชาชน ตลอดจนการแจกจ่ายที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน
ในแบบวิธีการปกครองที่ใช้อำนาจเพื่อขจัดศัตรูของประชาชนดังกล่าวนี้ทำให้ชีวิตของทรราชก็เสี่ยงแก่อันตราย ไม่ว่าจะเป็นการถูกบังคับเนรเทศให้ออกจากนครหรืออาจเป็นการถูกลอบฆ่า
ผู้ปกครองทรราชจึงขอประชาชนให้ตนได้มีกองกำลังส่วนตนเพื่อที่จะรักษาความปลอดภัยให้แก่ตนและเพื่อที่จะทำให้การขจัดศัตรูประชาชนเป็นไปได้อย่างราบรื่นด้วย
นอกจากนั้น ทรราชก็จะ “จะสร้างสงครามขึ้นเพื่อที่ประชาชนจะได้ยัง ต้องการผู้นำอยู่”
โดยทรราชจะปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายในสังคมและทำให้เกิดการต่อต้านคนที่ร่ำรวยกว่าในสังคม เนื่องเพราะชีวิตของผู้ปกครองทรราชนั้น ใช้วิธีการรุนแรงเพื่อปราบศัตรูอยู่เสมอ เขาจึงต้องระวังคนที่คิดต่อต้านเขา รวมถึงจับจ้องว่าใครบ้างที่โดดเด่น ใครที่มี ความกล้าหาญ มีจิตใจสูง มีความรอบคอบ มีความร่ำรวย หรือมีศักยภาพพอที่จะเป็นศัตรูต่อตนเอง ทรราชก็จะต่อต้านคนเหล่านั้นอยู่ร่ำไป
จากการทำเช่นนั้นตัวทรราชเองก็ต้องห่างเหินจากมิตรและคนที่วิจารณ์ตนจนไม่มีมิตรหรือศัตรูเหลืออยู่
Plato ยังเห็นว่าทรราชมีความปรารถนาอยากที่ไม่มีทางสิ้นสุดได้ ทรราชจะเอาสมบัติของเพื่อนพลเมือง ของบิดามารดาของพวกเขา และของนครมาใช้จนสูญสิ้น
แต่ถึง กระนั้นทรราชก็ไม่เคยมีวันพอเพียงในตนเอง ถึงจุดนี้แล้วทรราชก็จะไม่ปิดบังตัวตนที่แท้ของตนอีก ต่อไป แต่จะเผยเองในฐานะ “ทรราชที่สมบูรณ์”
ถึงตอนนี้แม้ประชาชนจะรู้สึกตัวว่าได้สร้างทรราชชนิดนี้ขึ้นมา ก็ถือว่าสายไปเสียแล้ว
-----
ข้อความตอนหนึ่งจากวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ หัสนัย สุขเจริญ เรื่อง “ว่าด้วยทรราชย์ในปรัชญาการเมืองของ Montesquieu และ Tocqueville”
หัสนัย เป็นนิสิตในที่ปรึกษาด้านปรัชญาการเมืองคนสุดท้ายของผมที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเล่มนี้จึงเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกด้านปรัชญาการเมืองเล่มสุดท้ายที่ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี