วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
คปท.ยกระดับขับไล่‘แพทองธาร’ ปัดหนุนรัฐประหาร นัดหารือใหญ่1กรกฎาคม

คปท.ยกระดับขับไล่‘แพทองธาร’ ปัดหนุนรัฐประหาร นัดหารือใหญ่1กรกฎาคม

วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : คปท. ชุมนุม ม็อบ รัฐประหาร
  •  

คปท.ยกระดับขับไล่‘แพทองธาร’

ปัดหนุนรัฐประหาร

นัดหารือใหญ่1กรกฎาคม

ทหารต้องรักษาอธิปไตย

พท.เหน็บชุมนุมเรียก‘รถถัง’

‘อ้วน’มั่นใจทหารมืออาชีพ

 

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหารและไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่วันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ยกระดับขับไล่นายกฯและพรรคร่วม ด้านเพื่อไทยตามเหน็บจัดชุมนุม


เรียกหารถถังแนะให้ใช้อดีตเป็นบทเรียน

เมื่อวันที่ 29มิถุนายน2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #รอติดตามมติศาลรัฐธรรมนูญ การที่ประชาชนมาร่วมชุมนุมให้ นายกอุ๊งอิ๊งลาออก ท่ามกลางสายฝน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประชาชน ที่ไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออุ๊งอิ๊ง ถ้าจะดูอาการของอุ๊งอิ๊ง ไม่รู้ว่าจะยอมรับสภาพของตนเองและตัดสินใจลาออกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เบื้องต้นประชาชนคงต้อง รอการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ พฤติกรรมของนายกฯอุ๊งอิ๊ง ที่มีความชัดเจน ต่อการเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา ตามที่ประชาชนทราบก็คือ คลิปเสียงพูดคุยทางโทรศัพท์กับฮุนเซน ที่ไปบอกว่าแม่ทัพภาค2 เป็นคนละฝ่าย รวมทั้งไปเสนอให้ฮุนเซนว่าต้องการอะไร จะจัดการให้ ยังมีบางสิ่งที่ถือว่า อุ๊งอิ๊งยังเอื้อประโยชน์ และถือว่าความผิดสำเร็จก็คือ หลังจากที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ มอบหมายให้ฝ่ายทหาร ดำเนินการควบคุมปิดเปิดจุดผ่านแดน

ย้ำ’อิ๊งค์’หมดความชอบธรรม

โดยมีมติในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 จากนั้นฝ่ายทหารได้มีเรื่องที่เสนอ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีแผนประชุมในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 โดยมีเรื่องที่เสนอคือ การยกระดับมาตรการในการตัดกระแสไฟฟ้า และสัญญาณเน็ต เข้าไปในพื้นที่บ่อนพนัน สแกมเมอร์ การควบคุมสินค้า และยุทโธปกรณ์ ที่อาจนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ปรากฏว่าตามข่าว ในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายกอุ๊งอิ๊งยกเลิกการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมาตั้งทีมไทยแลนด์ขึ้นมาแทน สิ่งที่ต้องถามคือ ทำไมจึงยกเลิกการประชุมสมช. และไม่ดำเนินการตามที่ฝ่ายทหารเสนอมา ทั้งๆที่ทีมไทยแลนด์ ก็ไม่มีอำนาจตามกฏหมาย หรืออาจจะไม่อยากพิจารณาเรื่องตัดไฟตัดเน็ตหรือไม่ ที่สำคัญคือการที่นายกฯอุ๊งอิ๊ง ได้มีการโทรพูดคุยกับประธานาธิบดีมาครงแห่งฝรั่งเศส ต้องถามว่าโทรไปทำไม ในเมื่อเราต้องการแก้ปัญหาแบบทวิภาคีไม่ใช่หรือ และคิดว่ามาครงในฐานะประเทศเจ้าอาณานิคม เขาจะไม่เข้าข้างประเทศ ที่เขาเคยปกครองเลยหรือ อย่างไรเสียไทยเราต้องปฏิเสธลัทธิล่าอาณานิคม ต้องไม่ให้ฝรั่งเศสเข้ามายุ่ง ที่ผมยกตัวอย่างมาบางส่วน เพื่อต้องการสื่อสารว่า ถ้าประเทศยังปล่อยให้ คนที่ไม่มีสติปัญญา ไร้วุฒิภาวะ นำผลประโยชน์ชาติไปเสนอให้กับผู้นำกัมพูชา สมควรหรือที่ศาลรัฐธรรมนูญ ท่านจะให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ประชาชนต้องชนะเท่านั้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า“งานนี้ ไม่มีเจ๊า มีแต่แพ้ กับ ชนะ” ผมไม่ได้ไปปราศรัยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิหรอก มีงานด่วนที่ต้องลงใต้ ก็ได้แต่ไปเยี่ยมให้กำลังใจ การชุมนุมของพี่น้องประชาชน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง แต่เมื่อแวะไปแล้ว มีหรือประชาชนจะไม่ให้ขึ้นพูดพบปะ ก็ถือโอกาสพูดสั้นๆ ให้กำลังใจ การชุมนุมในภาคใต้ครั้งนี้ แต่ละจังหวัดเงียบเหงาต่างจากทุกครั้ง เพราะครั้งนี้ ประชาชนอยู่“คนละข้างกับผู้แทนราษฎร” จึงไม่ปรากฎร่างเงาของนักการเมืองทั้งนักการเมืองระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ยืนเคียงข้างประชาชน กวาดสายตาไปทั่วผืนแผ่นดินภาคใต้ น่าจะมีผมที่เป็นอดีตนักการเมืองเพียงคนเดียวที่ยังยืนฝั่งเดียวกับคนใต้ ในฐานะประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน เพราะผมยังเป็นหนี้ประชาชน ที่เคยให้โอกาสเป็นผู้แทนของเขา ผมยังสำนึกในข้าวแดง แกงร้อน ของแผ่นดินนี้ เมื่อฮุนเซน ประกาศว่า อาวุธของกัมพูชา สามารถยิงไปถึงกรุงเทพมหานคร ผมก็คิดว่าเหิมเกริมเกินไปไหม เพราะกรุงเทพมหานคร คือ สถานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทย และ ที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต -หากเลือดไทยยังเย็นชืด ไม่เดือดพล่าน ก็คงต้องหลบสายตาของฮุนเซน ผมไม่ได้เรียกร้องความรุนแรงด้วยประการทั้งปวง เพียงเรียกร้องการเดินออกจากบ้านของคนไทย มารักษาเกียรติภูมิของประเทศ ก็เท่านั้นเอง เพราะคิดว่า เวลานี้ นายกรัฐมนตรีรักษาเกียรติภูมิของประเทศไม่ได้แล้ว -การชุมนุมเรียกร้องของประชาชนในครั้งนี้ ไม่มีเจ๊า มีแต่เราแพ้-นายกรัฐมนตรีชนะ หรือ เราชนะ-นายกรัฐมนตรีแพ้ เท่านั้นเอง คอยดูกัน

พปชร.ขอบคุณม็อบไล่นายกฯ

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนทั่วประเทศหลายแสนคน ที่รวมตัวแสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหวงแหนผืนแผ่นดินไทย ท่ามกลางสายฝนตกหนัก สะท้อนพลังใจของผู้รักชาติอย่างแท้จริง การที่ประชาชนที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก สะท้อนความไม่ไว้วางใจต่อผู้นำประเทศ

โฆษก พปชร.กล่าวว่า ขอวิงวอนพรรคร่วมรัฐบาล และผู้นำเหล่าทัพ หยุดสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน รวมถึงตอบโต้กระแสในโลกออนไลน์กล่าวหาว่าการขับไล่นายกฯ อาจเข้าทางกัมพูชาและมองว่าพรรคเพื่อไทย ดูถูกประชาชน ที่มีสติปัญญาแยกแยะว่าใครรักหรือขายชาติ และพร้อมปกป้องลูกหลานจากภัยกาสิโน ก่อนจะมีใครพูดถึง ส่วนที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี หาก น.ส.แพทองธาร ไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่เคยหยุดขบวนการแก้ไข ม.112 และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามบุคคลนอกครอบงำพรรค จึงหมดความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และควรเปิดโอกาสให้พรรคอื่น เช่น พรรคภูมิใจไทย เข้ารับหน้าที่บริหารประเทศ

พท.รับไม่ได้ปฎิวัติรัฐประหาร

นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไทยชาติ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และพรรค พท. ขอยืนยันว่าการชุมนุมเป็นการแสดงออกเป็นสิทธิตามกฎหมาย และเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญแห่งพระราชอาณาจักรไทย โดยปราศจากความรุนแรง ปราศจากอาวุธและชอบด้วยกฎหมาย แต่สิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือเนื้อหาการปลุกระดมของแกนนำบางท่านที่มีการพูดถึงการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรค พท.ไม่อาจจะรับได้ และขอเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนที่รักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่าพวกเราจะไม่เดินทางไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารอีกแล้ว ทั้งนี้ 20ปีที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนหลายคนมีความเจ็บปวดอย่างประเมินค่าไม่ได้ มีการสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากกับการเรียกร้องและขัดขวางการรัฐประหาร ฉะนั้น ขอเรียนว่าทางพรรคไม่อาจรับได้เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร

จวกม็อบเรียกหารถถัง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขนั้น เห็นเป็นทฤษฎีของประเทศไทยแล้วว่า การปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ ใช่ มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีก ไทยจากประเทศ กำลังพัฒนาคงจะถูกปรับไปเป็นประเทศด้อยพัฒนา ในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน

นายจิรายุกล่าวต่อว่า แกนนำหลายคนที่ เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทย ไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคน ในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร จึงขอเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าว และรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ต่างเจ็บปวด และเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ

ย้ำรบ.มาจากการเลือกตั้ง

“รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากมีหน้าที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้วยังมีหน้าที่หลักสำคัญที่จะต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่ สนับสนุนการทำปฏิวัติ รัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก ” นายจิรายุย้ำ

และว่า จากเนื้อหาการปราศรัยเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำพร้อมที่จะดึงประเทศถอยหลังลงคลองโดยไม่สนใจประชาชนกว่า 70 ล้านคน จะเป็นจะตายหรือจะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศ ในภูมิภาคและระดับโลกที่รุมเร้า อีกทั้ง การปราศรัย ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของแกนนำ ที่สอดรับกับผู้นำกัมพูชา ที่ยุยงปลุกปั่น และก้าวล่วง แทรกแซงคนไทยและประเทศไทยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ว่าจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ถึงกรุงเทพมหานคร การกล่าวว่ารัฐบาลปฏิวัติของไทยสามารถทำงานร่วมกัน กับตนเองได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างราบรื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่ สอดรับกับคำปราศรัย และแนวทางที่กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมมีความประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลหรือให้มีการปฏิวัติรัฐประหารอันนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ และการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างชัดเจน

รัฐบาลจะยืนหยัดในการธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้องค์กรต่าง ๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารได้จับมือประสานกันรณรงค์เพื่อต่อต้านกลุ่มบุคคล ที่เรียกร้องให้ทำการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้

พท.เย้ยม็อบจุดไม่ติด-มีแต่คนหน้าเดิม

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ว่า คนขึ้นเวทีมีแต่คนหน้าเดิมๆ เป็นพวกขาประจำ แกนนำบางคนยังยุให้ทำรัฐประหาร มีที่ไหนทำกัน อยากให้ประเทศเกิดรัฐประหาร ใช้วิธีโบราณ พวกที่ขึ้นเวทีอยากกลับมาเป็น สว.หรือมีตำแหน่งทางการเมือง หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น เชื่อว่า ม็อบไม่น่าจะจุดติด แม้แต่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนยังคิดได้ ไม่เอาด้วยกับการรัฐประหาร อย่าไปตกใจมากมาย เมื่อถามว่า หลังปรับ ครม.ยังมั่นใจหรือไม่ว่า รัฐบาลยังมีเสถียรภาพไม่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลกดดันการทำงานในช่วงที่มีเสียงปริ่มน้ำ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทุกพรรคต้องขยันทำงานมากขึ้น เอาสภาฯเป็นตัวตั้ง การประชุมสภาวันพุธ-พฤหัส ควรอยู่ที่สภา ไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนับองค์ประชุม เพราะสภาฯคือที่ทำงานของ สส. หากพรรคร่วมรัฐบาลใช้วิธีกดดันรัฐบาล จนต้องยุบสภาหรือรัฐบาลเจ๊ง โดยที่ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี2569 ยังไม่ผ่านวาระที่ 3 ยิ่งเป็นการทำร้ายประเทศ มั่นใจว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสถียรภาพ ไม่ขัดแย้งถึงขั้นนายกฯต้องยุบสภา หรือลาออก

‘สุทิน’ชี้เรียกหาทหาร-ประเทศเสียหาย

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมหรือการแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิของประชาชน  การชอบหรือไม่ชอบผู้นำก็เป็นสิทธิ โดยเฉพาะการแสดงออกว่าตัวเองรักชาติก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมีเหตุและผลแยกแยะว่า การที่เราไม่ชอบผู้นำแล้วเราไปใช้วิธีการสร้างข้อมูลที่ผิดให้ประชาชนโดยมุ่งหวังเพียงแค่จะโค่นล้มนั้นจะไม่เป็นผลดีกับประเทศ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียกร้องหรือส่งสัญญาณให้มีการรัฐประหาร ในส่วนนี้ต้องฝากผู้ชุมนุมทบทวนว่าเรารักชาติถูกทางหรือไม่ การชี้นำหรือการเรียกร้องให้เกิดรัฐประหาร ตนคิดว่าเป็นการรักชาติในทางที่ผิดและจะเลยไปถึงการทำลายด้วย เพราะในโลกนี้มีไม่กี่ประเทศที่ใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยการรัฐประหาร มีน้อยมากจนดูว่ากลุ่มประเทศเหล่านั้นกลายเป็นประเทศล้าหลังทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ฉะนั้นหากพี่น้องของเราโดยเฉพาะผู้ชุมนุมหากไม่ชอบรัฐบาลหรือรัฐบาลบริหารไม่ถูกใจ วิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสภา ที่เรายังใช้ได้อยู่ ระบอบประชาธิปไตยยังไปได้ ยังไม่ถึงทางตันที่ต้องไปเรียกร้องให้เกิดการทำรัฐประหาร เพราะการเรียกร้องให้รัฐประหารเป็นการตัดสินใจระยะสั้นของผู้เรียกร้อง แต่จะทำให้เสียใจที่ทำให้ประเทศเสียหายในระยะยาว ฝากผู้ชุมนุมทุกคนให้ชุมนุมอยู่บนความสันติ ฝ่ายรัฐบาลเรารับได้อยู่แล้ว

นายกฯไม่ลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อปชช.

เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกนั้น นายสุทิน กล่าวว่า การเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกนั้น นายกฯ ต้องฟังคนทั้งประเทศ จะฟังแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้ เพราะการที่คนกลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้ลาออกจะเป็นประโยชน์แค่กับเขา แต่จะเสียประโยชน์กับประชาชนอีกกลุ่มหรือส่วนใหญ่ ซึ่งนายกฯ ต้องยับยั้งชั่งใจและมีการชั่งน้ำหนัก การจะอยู่ต่อหรือออก ไม่ใช่ว่านายกฯ จะตัดสินใจด้วยตัวเองหรือผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ท่านนายกฯ ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนที่เขาเลือกมา แล้วเขาให้โอกาสนี้กับนายกฯ หากเขาให้โอกาสบริหารแล้ว นายกฯจะชิงลาออกง่ายๆ บางครั้งก็จะเป็นเหมือนการไม่รับผิดชอบต่อประชาชนเช่นกัน

ไม่ได้เรียกร้องรัฐประหาร

บ่ายวันเดียวกัน นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท.ร่วมแถลงจุดยืนภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท.ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท.ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด

จ่อยกระดับการชุมนุม

ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว ส่วนจุดยืนยังคงเป็นการเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ซึ่งเมื่อเข้มข้นมากขึ้น

จี้’ปชป-รทสช.’ถอนตัว

ส่วนสัปดาห์หน้า คปท.จะเดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อยื่นหนังสือขอให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่นเดียวกับที่เคยไปยื่นที่พรรครวมไทยสร้างชาติก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือยกคำร้องนั้น คปท.ขอดูทิศทางของพรรคเพื่อไทยก่อน ว่าจะมีการโยกย้ายนางสาาวแพทองธารไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมฯ หรือไม่ หรือให้ใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน และจะสามารถปกป้องอธิปไตยของไทยได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คปท. ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าชุมนุมต่อไป ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ประชาชนจะไม่มีวันถอน คปท.ไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่เรียกร้องให้รักษาอธิปไตยของชาติ

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ปชน.\'ร่อนหนังสือ ย้ำจุดยืน-อุดมการณ์ชาวส้ม ห้ามข้ามเส้น\'สื่อสาร-ร่วมกิจกรรม\'ส่อเรียกรปห. 'ปชน.'ร่อนหนังสือ ย้ำจุดยืน-อุดมการณ์ชาวส้ม ห้ามข้ามเส้น'สื่อสาร-ร่วมกิจกรรม'ส่อเรียกรปห.
  • เตือน‘ม็อบรวมพลังแผ่นดินฯ’อย่ารักชาติผิดทาง  ย้ำปท.ยังไม่ถึงทางตัน ไม่ต้องเรียกรัฐประหาร เตือน‘ม็อบรวมพลังแผ่นดินฯ’อย่ารักชาติผิดทาง ย้ำปท.ยังไม่ถึงทางตัน ไม่ต้องเรียกรัฐประหาร
  • พวกหน้าเดิมๆ !! ‘จิราพร’อัดม็อบใช้คลิปเสียงคุยฮุนเซน สร้างข้ออ้างชุมนุม หวังเรียกรัฐประหาร พวกหน้าเดิมๆ !! ‘จิราพร’อัดม็อบใช้คลิปเสียงคุยฮุนเซน สร้างข้ออ้างชุมนุม หวังเรียกรัฐประหาร
  • \'พปชร.\'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ 'พปชร.'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ
  • ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้ ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้
  • จุดยืนคุณคืออะไร!? \'ก่อแก้ว\'เหน็บ\'จตุพร\'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที\'สนธิ\' จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'
  •  

Breaking News

ชีเสิร์ฟไฟลุก! 'อิงฟ้า วราหะ'จัดเต็มโชว์เวที 'Bangkok Pride Party 2025 : Born This Way'

วันเสาร์ไม่มีเหงา!รวมหนังผีไทยสุดปัง4เรื่อง4อารมณ์ที่ทรูโฟร์ยูช่อง 24

เปิดปมปริศนา 'เจ้าคุณอาชว์' อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯลาสิกขาด่วนก่อนหลบเข้าลาว

นายกฯ สรุปผลสืบสวน 3 เดือนตึก สตง.ถล่ม เผยออกแบบ-ก่อสร้างผิดกฎหมาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved