"เพื่อไทย"ไม่กังวล "ศาลรธน."นัดพิจารณาปม"นายกฯ"ถูกร้องฝ่าฝืนจริยธรรม ชี้คะแนนนิยม"อิ๊งค์"ตกฮวบจะตีกลับถ้าแก้"ปากท้อง"ได้ จวก"แกนนำม็อบ"หน้าเดิมเรียกหาปฏิวัติรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีที่ สว.ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีบทสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เข้าข่ายให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ผู้บริหาร พรรคเพื่อไทยคงมีมาตรการในการเตรียมตัวรับผลคำวินิจฉัยอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่ได้กังวลอะไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถึงขั้นถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่มีการจินตนาการไปหลายอย่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็มั่นใจว่าไม่มีอะไร ซึ่งพวกตนเชื่อมั่นเช่นนั้น จึงไม่จินตนาการอะไรไปไกล
เมื่อถามถึงกรณีที่ผลการสำรวจความเห็นของนิด้าโพล ระบุว่านายกรัฐมนตรีมีคะแนนนิยมลดลงตกไปอันดับ 5 นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ผลการสำรวจความเห็นนี้ไม่ได้เพิ่งทำเมื่อวาน แต่ทำมาตั้งแต่ตอนแรกที่มีปัญหา แต่ตอนหลังคนเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่านายกรัฐมนตรีทำเช่นนั้นเพราะอะไรก็มีความเข้าใจ ว่าที่นายกรัฐมนตรีผู้เช่นนั้นมีความจำเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเพราะมีความเป็นห่วงคนไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา ซึ่งวันนั้นสมเด็จฮุน เซน ประกาศปิดด่านทั้งหมด คนไทยนับหมื่นคนก็จะกลับมาประเทศไทยไม่ได้ ซึ่งขอย้อนถามว่าหากเกิดการปะทะกัน จะมีความเสียหายหรือไม่ ใครจะคุ้มครองคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศในขณะนั้นให้กลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ซึ่งการเจรจาทางการทูตเช่นนั้นไม่ใช่การยกแผ่นดินให้ใคร แต่เป็นการเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการปะทะกัน ซึ่งเป็นความปรารถนาดีของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้คนไทยกลับบ้านโดยปลอดภัย และในวันนั้นมีการโพสต์ข้อความในโซเชียลมากมาย แต่ตอนนี้ถ้าถาม สส.ที่ไปลงพื้นที่กลับมา พบว่าชาวบ้านเข้าใจนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ขออย่าเอามากังวล และวันนี้สิ่งที่ต้องกังวลที่สุดคือ ทำอย่างไรให้เกษตรกรขายข้าวและสินค้าเกษตรได้ราคา โดยรัฐมนตรีที่จะเข้ามาใหม่ต้องทำได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่กังวลผลโพล
เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีผลอะไรใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเมื่อรัฐบาลทำงานได้ผลดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น แก้ปัญหาได้ก็เชื่อว่ากระแสมาดีเอง ดังนั้น ขออย่ากังวลอะไร สิ่งที่กังวลคือปัญหาปากท้องของประชาชนมากกว่า
เมื่อถามว่า ประเมินกรณีที่มีการชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกอย่างไรนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดาของการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการชุมนุมมาตลอด เป็นหมื่นก็มีเป็นแสนก็มี ก็ให้มาแสดงออกไป เราไม่สามารถไปสกัดกั้นได้ ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ที่ตนไม่เห็นด้วยกับม็อบมีเรื่องเดียวคือ ไม่ชอบที่จะให้มีการปฏิวัติ
"จุดประสงค์อะไรที่ผมไม่เห็นด้วยกับม็อบมีเรื่องเดียว คุณจะมาก็มาได้ แต่ไม่ชอบ ที่จะพูดว่าให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร พาประเทศชาติกลับไปอีกยี่สิบสามสิบปี ยังไม่เข็ดอีกหรือ หวังอะไรกับการปฏิวัติรัฐประหารประเทศ เป็นประชาธิปไตยไม่ดีหรือ คุณก็ยื่นแล้ว ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ยื่น ป.ป.ช. ยื่น กกต.ยื่นหมดแล้วนี่ ก็ควรเป็นไปตามกติกาของกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มาแหกปากเรียกร้องให้ทหารออกมา มีหลายคนในม็อบ ผมเห็นอยู่ พอปฏิวัตผ่านแล้วได้ดี ก็รู้อยู่ว่าใคร ก็หน้าเดิมๆ ก็ไม่ อยากไปกล่าวหาเขา เชิญเลย อยากมาก็มา" นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้บานปลายหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า จะบานปลายอะไร เท่าที่ดูมาชุมนุมในวันนั้น เราก็ปล่อยเขามา ไม่ได้ว่ามาน้อยมามาก การออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องที่ดีในระบอบประชาธิปไตย เวลาปฏิวัติรัฐประหาร คุณจะมาแสดงออกแบบนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้เป็นประชาธิปไตย ก็เชิญไม่มีอะไร ไม่ได้จำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจะมากดดันถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า อย่าปิดบ้านเมืองเช่นนั้น เพราะหากรัฐบาลทำงานไม่ได้บ้านเมืองจะเสียหายขนาดไหน และเห็นว่าเมื่อยื่นศาลแล้วควรจะจบ ไม่ใช่จะมาห้ามไม่ให้ใครทำงาน ถือว่าไม่ถูกต้อง ขอถามว่าทำเช่นนี้ประชาชนชอบหรือไม่ และประเทศที่มีม็อบตลอดประชาชนมีความสุขหรืออย่างไร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี