วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พิธา เป็นของจริง หรือ ของปลอม
เพิ่งมีเวลามา อ่านบทความพิเศษของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในมติชนรายสัปดาห์ ที่เพื่อนๆส่งมาให้ดู ผมอ่านแล้ว ก็เกิดความรู้สึกสงสารใน ”อัตตา“ ของ พิธา ที่พยายามโชว์วิสัยทัศน์ที่นึกว่าทันสมัย อยู่เช่นเดิม ในรูปแบบความคิดแบบขี้ข้าชาวตะวันตก โดยไม่ได้รู้ถึง สภาพความเป็นจริง ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบันนี้ ( โก้วเล้ง กล่าวไว้ว่า บางคนแม้จะยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดก็มีจิตใจที่มืดมนได้) เช่น
1.พิธา ย้ำว่า “ทหารมีไว้ป้องกันประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ ”
ก็ถูกต้อง แต่พิธาไม่ได้มีความคิดนี้แบบตรงไปตรงมา พิธาเคยขยายความพูดถึงเรื่องทหาร ตอนหนึ่งอย่างมีอคติต่อว่า
..80 ปี ประเทศไทย ทหารมีไว้ทำไม ก็จะไปรบกับใคร..[ ลองแหกตาดูซิว่าปัจจุบันนี้มีการรบกันเกิดขึ้นทั่วโลกทั้ง พื้นที่ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่มากกว่า30 แห่ง แม้กระทั้งตามแนวชายแดนไทย ] .. สมมติมีคนมารุกราน ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะรบชนะด้วย ..[ หลังเสียกรุงศรีฯ ครั้งที่ 2 แล้ว ทหารไทยไม่เคยรบแพ้ใครเลยครับ ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ทหารไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ เพราะเป็นแค่การขัดแย้งในระดับท้องถิ่นของเราเอง ข้อพิสูจน์ในปัจจุบัน เมื่อทหารไทยไปเป็น
กองกำลังรักษาสันติภาพให้สหประชาชาติ ในหลายพื้นที่อันตราย ก็ได้รับการยกย่องกลับมาทุกแห่ง ] ..แล้วอีกอย่างคือตอนนี้เป็นเรื่องของอาวุธ ประเทศที่อยู่ใกล้ๆกัน ที่เคยทะเลาะกัน มันไม่ทะเลาะกันแล้ว ทุกวันนี้บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพด้วยซ้ำไป …[ คิดได้ยังไง 5555] ..ถ้าผู้นำฉลาดพอ มันคือเรื่องกฎกติกาสากล มันคือระเบียบโลก ..[ เก่าไปมั้งเรื่องระเบียบโลกสมัยสหรัฐเป็นเจ้าโลกเมื่อเริ่มยุคโลกาภิวัฒน์ใหม่ๆผ่านมา 30 ปีแล้วนะน้อง] ..ยิ่งประเทศเล็กๆอย่างพวกเรายิ่งต้องฉลาด สามารถทำให้ประหยัดงบกองทัพ วันนี้จะมาหาคำตอบกันว่าเราจะทลายทุนทหาร อะไรคือขุมทรัพย์สีเขียว ..[ ทำไมไม่พูดเรื่องการทุจริตของนักการเมือง บ้างล่ะ ]…
2.ยังไม่จบครับ พิธาเขียนต่ออีกว่า “กองทัพที่เข็มแข็งต้องยู่ภายใต้รัฐบาลที่โปร่งไส ตรวจสอบได้” ก็อยากถาม พิธา กลับว่า อีกกี่ร้อยปีที่ประเทศไทยจะได้มีรัฐบาลแบบนี้ แต่ถ้าบังเอิญมีขึ้นเมื่อไรทหารก็ต้องอยู่เฉยๆ โดยอัตโนมัติ เพราะประชาชนจะไปอยู่ข้างรัฐบาลแน่นอน
3.พิธา ต่ออีกว่า “ วันนี้ผู้นำอาเชียนหลายประเทศ รวมถึงไทยมีผู้นำรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นทายาทของสงครามเย็น ”
•ในอาเชียน ผู้นำส่วนใหญ่ ก็ล้วนแต่อยู่ใต้บุคคลในยุคสงครามเย็นเกือบทั้งสิ้น ฟิลิปปินส์ ลูกมาร์คอส / อินโดนิเซีย อดีตนายทหารรบพิเศษ รุ่นสงครามเย็น อายุ 72 ปี / พม่า ก็ทหาร รุ่นสงครามเย็น /ลาว และ เวียตนาม มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ / ไทย และ กัมพูชา ลูกคนในสงครามเย็น เก่าจัดเลย / มาเลเซีย อายุ 77 เป็น Activist ต่อต้านสงครามเวียตนาม ได้มาเป็นนายกฯ แบบแปลกๆ ด้วย
4.พิธา ปิดท้ายด้วยคำหล่อๆที่ใช้หลอกเด็กได้แค่ ม.1เท่านั้น ว่า
”ประวัติศาสตร์กำลังเปิดหน้าขาวให้คนรุ่นนี้ได้เขียนตำนาน บารมีของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งของคนรุ่นพ่อครับ “ ก็อยากถามกับ ว่า ที่ พิธา มีกินมีอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มาจากพ่อ หรือไงครับ
* ในขณะที่ พิธา ยังบ้าตะวันตกอยู่ คนในพรรคประชาชนหลายคนเริ่มเรียนรู้ความจริง จากประสบการณ์จริงๆ บางคนมีบทบาทเปลี่ยนไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และคนยากจน บนพื้นที่จริงๆไม่ใช่หาอ่านบทความจากหนังสือ แบบพิธา และ ดันเป็นหนังสือต่างประเทศอีกด้วย พิธา ยังเป็นของปลอมอยู่เหมือนเดิม ถ้ายังเดินอยู่บนความฝันและหาประสบการณ์จากหนังสือต่างประเทศ แล้วนำเรื่องมาเปรียบใช้ กับสังคมไทย
พลโท นันทเดช / 2กรกฏา ‘68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี