เพจ'ประชาคมหมอ'ตบหน้าพรรคส้ม ซัดเล่นบทตี 2 หน้า ค้านไม่สุดซอย เว้นช่องผสมพันธุ์ส้มแดง
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2568 เพจเฟซบุ๊ก "ประชาคมแพทย์" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
"สองหน้าทางการเมือง: พรรคประชาชน ภาพลวงตาของคนรักความยุติธรรม?"
" เป็นฝ่ายค้านที่ค้านไม่สุดซอย ยังเหลือทางถอย ให้แดงมารวมกับส้ม"
---
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พรรคประชาชน (ปชน.) สร้างแบรนด์ทางการเมืองแบบชัดเจน... “ฝ่ายประชาธิปไตย ผู้ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องและหลักนิติรัฐ”
แต่วันนี้...ความจริงที่ปรากฏกำลังทำให้ภาพนั้นสั่นคลอนอย่างหนัก
---
สองปาก สองมาตรฐาน จากคนในพรรคเดียวกัน
ฝ่ายหนึ่ง: รังสิมันต์ โรม
อดีตดาวเด่นฝ่ายตรวจสอบ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แบบไม่ไว้หน้า
ชูประเด็นเรื่อง "จริยธรรมของนายกรัฐมนตรี"
วิพากษ์วิจารณ์กรณี “ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ” ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "อภิสิทธิ์ชน"
เรียกร้องให้ สภาผู้แทนราษฎรและ ป.ป.ช. เดินหน้าเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงกับนายกรัฐมนตรี
อีกฝ่าย: ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน)
ออกมาวิพากษ์ศาลรัฐธรรมนูญแบบตรงๆ
ใช้ถ้อยคำแรง... “นี่คือนิติสงคราม”
กล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจนอกหลักประชาธิปไตย เพียงเพื่อกำจัดนักการเมือง
ตำหนิกลไกตุลาการที่กำลังทำหน้าที่สอบสวนจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร
---
คำถามใหญ่: ตกลงพรรคนี้อยู่ข้าง "จริยธรรม" หรือ "คะแนนเสียง"?
สิ่งที่น่าสลดใจที่สุด คือ... ทั้งสองคน... อยู่พรรคเดียวกัน
รังสิมันต์ โรม : เรียกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมขั้นเด็ดขาด
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ : โวยศาลรัฐธรรมนูญ ว่าทำเกินกว่าเหตุ
Test เดียวกัน:
เรื่องเดียวกัน...... นายกรัฐมนตรีคนเดียวกัน...
แต่ได้สองมาตรฐานสองน้ำเสียง
คำถามง่ายๆ... แล้วประชาชนจะเชื่อฝ่ายไหน?
หรือความจริงคือ... อย่าไปเชื่อใครเลย เพราะทั้งสองฝ่ายก็แค่เล่นบทตามยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคตัวเอง
---
เป้าหมายลับ: ยุบสภา เพื่อรีเซ็ตเกมเลือกตั้ง
เกมที่พรรคประชาชนกำลังเล่นตอนนี้... ชัดเจนว่าไม่ใช่เพื่อความยุติธรรม...
แต่เพื่อ “สร้างเงื่อนไขยุบสภาให้เร็วที่สุด”
เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังได้กระแสจากคนเบื่อและชังนายก จากนิด้าโพล ความนิยมของนายกรัฐมนตรีตกต่ำสุด
เพราะรู้ว่า หากลากยาวจนมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ความจริงเรื่องจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร อาจกระทบต่อยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในแผนการเมืองเดียวกัน
พูดตรงๆ คือ... พรรคประชาชนกำลังกลัวว่าถ้าศาลวินิจฉัยเสร็จ... ผลกระทบจะกระจายไปถึงพันธมิตรทางการเมืองที่แอบร่วมผลประโยชน์ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็คือพรรคเพื่อไทย ซึ่ง จะถูกกระทบไปทั้งพรรค จน ไม่อาจมาเติมเสียงรวม แดงกับส้มได้ อีกต่อไป และมีความเป็นไปได้สูงว่า เรื่องราว ขยายไปถึง โอกาสพรรคเพื่อไทยถูกยุบพรรค จากข้อหาการครอบงำ พันธมิตรที่เคยอ้างว่าอยู่ฝั่งประชาธิปไตยจะไม่เหลือ ให้มาเติมเสียง ส้ม
---
ความเสื่อมที่อันตรายที่สุด: การแสร้งเป็นฝ่ายคุณธรรม...แต่เลือกยืนข้างความไม่ถูกต้อง เมื่อผลประโยชน์มาเยือน
ความน่ากลัวของสถานการณ์นี้ไม่ใช่แค่การเมืองเล่นเกม
แต่คือ... พรรคที่เคยสร้างภาพว่าตัวเองคือฝ่ายยุติธรรม กลับแสดงให้เห็นว่า... "หลักการ" ที่พูด...ไม่เคยมีจริง
เมื่ออยู่ฝ่ายค้าน... โจมตีรัฐบาลว่าไร้จริยธรรม
พอมีโอกาสเสนอทางเลือกว่าจะ ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับภูมิใจไทย หรือเรียกร้อง ให้นายกลาออก กลับเลือก กดดันให้ยุบสภา... พร้อมกับคัดค้านคำสั่งให้นายกหยุดปฏิบัติหน้าที่ เสมือน ปกป้องผู้นำที่ตัวเองเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อวานตะโกนเรื่องนิติรัฐ... วันนี้ด่าศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยไม่รอผลการสอบสวนจริยธรรม
นี่หรือ... พรรคการเมืองที่อ้างตัวว่าปกป้องประชาชน?
นี่หรือ... พรรคที่ประชาชนเคยฝากความหวังเรื่องความยุติธรรม?
---
บทสรุป: “ยืนคนละขา พูดคนละปาก...แต่สุดท้ายก็อยู่พรรคเดียวกัน”
" เป็นฝ่ายค้านที่ค้านไม่สุดซอย ยังเหลือเส้นทางถอย ให้แดงมารวมกับส้ม"
ถ้าใครยังคิดจะฝากความหวังกับพรรคประชาชน... วันนี้คงต้องถามตัวเองให้หนักๆ ว่า...
"ระหว่างภาพลักษณ์... กับความจริง... คุณเลือกจะเชื่ออะไรกันแน่?"
เพราะพรรคที่เปลี่ยนจุดยืนได้ตามผลประโยชน์... ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เขาเคยวิจารณ์มาตลอด... "
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี