รัฐบาลส่อถอน
ร่างพรบ.กาสิโน
อ้าง‘ลดขัดแย้ง’
รอข้อสรุป7ก.ค.
“จุลพันธ์”ยอมรับ รัฐบาลพิจารณา ถอน“ร่างพ.ร.บ.สถาบันเทิงฯ”จากวาระประชุมสภา รอให้ “รมต.ใหม่”ได้ร่วมตัดสินใจ หวังลดความขัดแย้งในสังคม ยันไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยในงานเสวนา สเปเชียล ทอล์ก หัวข้อ “เชื่อมั่นประเทศไทย : โจทย์ใหญ่รัฐบาล?” ที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ต่อการเสนอร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า ยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาล โดยวิปรัฐบาล และผู้แทนคณะรัฐมนตรีกำลังพิจารณาการเลื่อน หรือถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมาจากการพิจารณาในสภา ซึ่งมีวาระการพิจารณาวันที่ 9 ก.ค. 2568 โดยคาดจะประชุมวิปรัฐบาล นำโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสรุปผลได้ภายในวันที่ 7 ก.ค. นี้ ว่าจะเป็นมีมติถอน หรือเลื่อนออกไปอย่างไร
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องพิจารณาเลื่อน หรือถอนพ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้มาจากว่าห่วงเรื่องเสียงสนับสนุนในสภาจะไม่พอ แต่มาจาก 2 เหตุผลหลัก คือ 1.ขณะนี้รัฐบาลเพิ่งมีการปรับ ครม.ใหม่ และมีรัฐมนตรีใหม่หลายคน 14-15 ตำแหน่งที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ชุดเดิม ดังนั้น เมื่อมีการปรับรัฐมนตรีใหม่เข้ามา จึงควรให้สิทธิทุกๆ ท่านร่วมพิจารณาและตัดสินใจกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนให้ตกผลึกเสียก่อน
ส่วนอีกเหตุผลมาจากการที่ขณะนี้เกิดปัญหาหลายมิติขึ้น ทั้งยาเสพติด ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ยังเป็นปัญหาค้างคา รวมถึงเกิดการชุมนุม มีผู้คัดค้านบนท้องถนน จึงต้องลดโทนความขัดแย้งของบ้านเมือง จึงมีข้อเสนอให้เลื่อนการพิจารณา หรือถอนร่างกฎหมายกลับมาที่ ครม.ก่อน ถ้าเห็นว่า มีความเหมาะสมแล้ว ก็ค่อยเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีกครั้ง
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขั้นตอนการถอน หรือเลื่อนร่างกฎหมายนั้น หากมีการเลื่อนวาระพิจารณา จะต้องให้มีการพิจารณา และโหวตกันในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอมติให้เลื่อนไปก่อน แต่หากมีความจำเป็นต้องถอนกฎหมายออกมา ก็ต้องใช้มติจาก ครม. เนื่องจากเรื่องนี้ เป็นมติครม. ในเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้ว ดังนั้น ก็จะต้องประชุมครม. และเสนอเข้าสภา เพื่อลงมติถอนร่างกฎหมายกลับมาไว้ที่ครม.ไปก่อน
ส่วนการถอนร่างกฎหมายดังกล่าว จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายกรัฐมนตรี แชร์โพสต์ที่ระบุถึงนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล ที่มีกาสิโน 10% ด้วยเป็นการเตะชามข้าวฮุนเซนนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า อาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยได้ แต่ยืนยันว่าการถอนร่างกฎหมายของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
นายจุลพันธุ์ยอมรับว่า การถอนหรือเลื่อนพิจารณา ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯออกไปจะมีผลกระทบต่อแผนการดึงดูดเงินลงทุนและปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวธรรมชาติมานาน โดยขาดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งจากเท่าที่รับฟังความเห็น และหารือกับนักลงทุนต่างชาติ ก็แสดงความพร้อมเข้ามาลงทุนโครงการสถานบันเทิงครบวงจรขนาดใหญ่ในไทยไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาทภายใน 2 ปีนี้ แต่หากเลื่อน หรือถอนกฎหมายออกไป ก็ไม่รู้จะมีการกลับมาลงทุนได้อีกเมื่อไรเหมือนกัน
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การประชุมสภาฯ ครั้งถัดไป วันที่ 9 ก.ค.มีการประชุม และโหวตร่างกฎหมายอยู่แล้ว โดยพบว่าร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... (เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์) เข้าเป็นลำดับแรก แม้จะขอถอนแต่ต้องลงมติว่ายอมให้ถอนหรือไม่ ตนเชื่อว่าต้องเดินหน้าลงมติได้
ขณะที่ นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Veerapun Suvannamai ระบุว่า…ถอนเถอะครับท่าน! เริ่มกระบวนการใหม่ตั้งแต่หาเสียงเลย ว่า “พรรคท่านจะทำกาสิโนถูกกฎหมาย หากประชาชนเลือกท่านมาใหม่ จะไร้ข้อกังขาเลย” แต่ที่ผ่านมาไม่เคยใช้นโยบายนี้หาเสียง ตอนนายกฯแถลงนโยบายก็ไม่ได้มีเรื่องกาสิโน ปัญหาของประเทศมีเรื่องต้องรีบอีกเยอะ ขอให้ท่านใจเย็นๆ กับเรื่องนี้ ถอนไปก่อนเถอะครับเชื่อผม!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี