'เท้ง'ย้ำมุ่งสกัดนายกฯนอกระบบ

ปัดหนุน'อนุทิน'

ไม่ได้เล็งใครนั่งนายกฯชั่วคราว

‘เพื่อไทย’รุมถล่มแนวคิด

‘อ้วน’ย้ำมีอำนาจยุบสภา

ฮึ่มย้ายขรก.มท.เกียร์ว่าง

“อิ๊งค์” เข้า“วธ.”สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฝากตัวชาววธ. รับแย่ต้องพักงานนายกฯแต่เป็นโอกาสดีได้นั่งรมว.วัฒนธรรม ชู’ซอฟพาวเวอร์’ขับเคลื่อนปท."ภูมิธรรม"วางเคพีไอ3เดือน ขู่ปรับกำลัง"ขรก.มท."หากไม่ตอบสนอง แจงต้องสลายสี’สิงห์’ลั่นยุค"มท.อ้วน"ขรก.ไม่ต้องเดินตาม ยังมั่นใจหลังถูกประเมินรบ.อายุสั้น ลั่นใครเกียร์ว่างระวังโดน ม.157 ย้ำอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาฯตามรธน.’เท้ง’ชี้ไม่ได้เล็งใครนั่งนายกฯชั่วคราว แค่แถลงการณ์แสดงจุดยืนป้องกัน"นายกฯนอกระบบ"

เมื่อเวลา 09.09น.วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก ทันทีที่มาถึงได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9จุด จากนั้นนายกฯพบปะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต้อนรับว่า ในนามกระทรวงวัฒนธรรม รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ น.ส.แพทองธาร ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งรมว.วัฒนธรรมอีกตำแหน่งหนึ่ง เรามีความรู้สึกว่านโยบายที่ท่านอยากจะผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ หรือการต่อยอดวัฒนธรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนจะมีพลังในการขับเคลื่อนมากขึ้น เชื่อว่าพลังซอฟต์พาวเวอร์จะมีความแข็งแกร่งเกิดขึ้นแน่นอนในยุคที่นายกฯมาควบรมว.วัฒนธรรม พวกเราจะสนองนโยบายการทำงานอย่างเต็มที่

‘อิ๊งค์’โอดแย่หน่อยหยุดหน้าที่นายกฯ

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของประเทศหลายนโยบายไม่ว่า จะเป็นเรื่องของซอฟพาวเวอร์หรือวัฒนธรรมของเราที่บอกว่าไปที่ไหนก็สามารถขายให้ทั่วโลก ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงเล็กๆแต่วัฒนธรรมของเราเป็นวัฒนธรรมที่ทั่วโลกชอบและเป็นสิ่งที่มีมูลค่าในตัวเอง ตอนนี้อาจจะแย่หน่อยที่ต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจมากที่ได้มีโอกาสได้ทำงานในส่วนของการเป็นรมว.วัฒนธรรม ถือเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วย ตอนนี้ตนได้พักทำหน้าที่นายกฯ แต่ก็มีโอกาสได้ทำหน้าที่รมว.วัฒนธรรมอย่างเต็มที่

‘อ้วน’นำ 2รมช.เข้าเฝ้าพระสังฆราช

เวลา 08.30น.ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงมหาดไทยวันแรก ภายหลังได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย พร้อม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ โดย นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหารและเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ในวัดราชบพิธฯ

‘ภูมิธรรม’วางเคพีไอ3เดือนขู่ปรับ’มท.’

ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมมอบนโยบายกับหัวหน้าส่วนราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า พวกเราทั้ง 3คนจะร่วมกันทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยดี ส่วนการพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76จังหวัด รวมถึงนายอำเภอ และข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ก็ได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า ตนมาทำงานอย่างง่ายๆ ไม่ต้องการผู้ติดตามที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผลงานต้องสำคัญกว่าหน้าตา ไม่ต้องมาเจอหน้าบ่อย แต่ผลงานต้องเป็นรูปธรรม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า มท.ต้องดีขึ้นกว่าเดิม สิ่งสำคัญการวัดประเมินผลตนไม่ต้องการตัวเลขอย่างเดียว แต่สิ่งที่อยากเห็นคือ ผลงานเป็นรูปธรรม เพราะตั้งแต่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง การแก้ปัญหายาเสพติดตนเห็นตัวเลข แต่ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ยังไม่รู้สึก ดังนั้น ตนจึงบอกไปว่า ประชาชนเขารู้หมด แต่ทำไมผู้ว่าฯ ตำรวจจึงไม่รู้ ตนจึงให้นโยบายยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่และต้องร่วมมือกัน อยากจะเห็นภายใน3เดือนนี้ มีรูปธรรมที่จับต้องได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะขออนุญาต ก่อนถึงเดือนก.ย.ผมจะขอปรับกำลังใหม่ เพื่อให้คนที่เหมาะกับงาน สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกระดับ ถ้าอยากจะเห็นอะไรดีขึ้นและคิดว่าเป็นปัญหาให้มาบอก ประตูห้องผมเปิดตลอดเวลา” นายภูมิธรรม กล่าว

ปราบยานรกต้องเห็นผลก่อนก.ย.นี้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า และได้ฝากไปว่าสิ่งที่ตนเคยทำมา ให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และอธิบดี รวมทั้งผู้ว่าฯ ทุกคน อยากเห็นกระทรวงมหาดไทยภายใต้ 3 รัฐมนตรีนี้เป็นอย่างไรขอให้บอก อะไรที่รู้สึกอึดอัด ติดใจอยากทำแล้วไม่ได้ทำ ขอให้มาบอก เพราะว่าอะไรก็ตามที่มันทำให้เกิดการไร้ประสิทธิภาพขอให้บอก ถ้ามาบอกแล้วกล้าทำผมจึงให้ทำ ทำได้ผมจะสนับสนุนต่อ ทำไม่ได้แล้วได้พิสูจน์กันตามศักยภาพที่มี เพราะฉะนั้นภายใน ก.ย.นี้ได้เห็นแน่ ว่าใครทำอะไรถูกต้องเหมาะสมกับงานของตัวเองเพียงใด ถามย้ำว่า นโยบาปราบยาเสพติดจะเข้มข้นเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่ไม่รู้ แต่การปราบยาเสพติดวันนี้ ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าไม่เป็นปัญหาและภัยที่คุกคามเขา เพราะวันนี้มันคุกคามไปทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน

ไม่มีสิงห์ดำ-สิงห์แดง-ทำเพื่อปชช.

เมื่อถามถึงกรณีแนวคิดสลายแบ่งสีสิงห์ อย่างกรณีสิงห์ดำ หรือสิงห์แดง เข้าใจได้ว่าจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.ธรรมศาสตร์ แต่สิงห์น้ำเงินอาจดูเหมือนว่าหมายถึงบางพรรคการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเข้ามาและฟังก็เห็นว่ามีทุกสี พร้อมย้ำว่า ได้ยินว่ามีสิงห์น้ำเงินนะ แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญอยู่ที่การตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่ ตนไม่อยากให้เวลาทำงานข้าราชการมาเดินตามตน อยากให้มีเวลาทำงาน หากใครมีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานค่อยมารายงาน ตนก็อยากจะเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะแบบนั้นไม่ใช่ตน

‘พท.’ขำดัน’หนู’นั่งนายกฯชั่วคราว

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เห็นข่าวพรรคประชาชนจะโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกชั่วคราวเพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นจริงผมขำกลิ้ง พรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่พรรคภูมิใจไทยไม่อยากแก้ จึงพยามขัดขวางเรื่อยมา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การทำประชามติ ซึ่งพรรคเพื่อไทยพยายามเจรจากดดันแล้วกดดันอีก แต่ก็ยังไม่ได้ผล ฟางเส้นสุดท้าย เมื่อพรรคภูมิใจไทยขัดขวาง พ.ร.บ.Eentertainment complex อีก จนนำไปสู่การขอกระทรวงมหาดไทยคืน และกำลังจะไล่ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่ภูมิใจไทยอาศัยจังหวะความขัดแย้งไทย-กัมพูชาชิงลาออก รักษาหน้าพรรคไว้ ประหนึ่งว่ารู้ล่วงหน้า

ชี้ย้อนแย้งเหตุ’ภท.’ได้ประโยชน์

นายก่อแก้ว ระบุว่า การที่พรรคภูมิใจไทยไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ เพราะได้ประโยชน์จากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งออกแบบมาทำให้รัฐบาล จากการเลือกตั้งไม่เข้มแข็ง ไร้เสถียรภาพ พรรคขนาดกลางจะสามารถต่อรอง เรียกร้องได้มากกว่าปกติ ยังไม่นับเรื่อง สว.ที่มีการกล่าวหาว่ามีการฮั้วเกิดขึ้น จนทำให้พรรคการเมืองบางพรรค ได้รับประโยชน์จากการฮั้วนี้ไปด้วยหรือไม่ ดังนั้นผมมองว่าการที่พรรคประชาชนจะโหวตให้คุณอนุทินมานำแก้ รัฐธรรมนูญ จึงเป็นแนวคิดที่ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน”

‘ณัฐวุฒิ’ชี้หวังโหวต’หนู’นายกฯ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงข้อเสนอ พรรคประชาชน ที่จะผ่าทางตันด้วยการร่วมโหวตนายกฯ แต่ไม่เป็นรัฐบาล และต้องมีแนวทางแก้รัฐธรรมนูญและยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ว่า เป็นสิทธิ์โดยชอบของพรรคประชาชนที่จะเสนอทางออกของสถานการณ์ และเป็นธรรมดาที่จะมีคนแสดงความเห็น 1.ถ้านายกฯแพทองธาร พ้นตำแหน่ง พรรคประชาชนพร้อมโหวตให้คุณอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯตามที่ดีลกันไว้ โดยพรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาล 2.ข้อเสนอนี้ไม่ใช่การโหวตให้คุณชัยเกษมจากพรรคเพื่อไทย เพราะคะแนนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเพียงพออยู่แล้ว และตามข่าวพรรคอันดับ 2 รวมไทยสร้างชาติเคยเสนอชื่อคุณชัยเกษมก่อนหน้านี้ จึงไม่มีเหตุที่จะถอนตัว 3.สมมติฐานนี้ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลของเพื่อไทยไปร่วมกับภูมิใจไทยทั้งหมด(เอาเข้าจริงไม่แน่ว่าจะไปหมด) พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชน เท่ากับฝ่ายค้านมี 284 เสียง และเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย 211เสียง 4.แกนนำรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยมี 69 เสียง อันดับ 2 รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง อันดับ 3 กล้าธรรม30+ พรรคอันดับ2และ3 จะมีอิทธิพลมาก อำนาจต่อรองสูง เสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นเป้าหมายสำคัญของดีลนี้ เป็นไปไม่ได้

ถามกลับแล้วเอายังไงกับเรื่องฮั้วส.ว.

5.แม้จะมีเงื่อนไขให้รัฐบาลภูมิใจไทยทำตาม ทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ คลี่คลายสถานการณ์กัมพูชาซึ่งผมเห็นด้วย หากบิดพลิ้วจะใช้เสียงพรรคประชาชนคว่ำ แต่ระยะเวลา 6 เดือนก่อนยุบสภาสิ้นปี จะบังคับให้ภูมิใจไทยทำแต่เรื่องเหล่านี้ได้จริงหรือไม่ เพราะการถืออำนาจบริหารกำกับกระทรวงต่างๆย่อมต้องทำเรื่องอื่นด้วย หากเกิดความไม่ชอบมาพากล พรรคแกนนำฝ่ายค้านซึ่งต้องคอยโหวตประคองรัฐบาลจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างไร 6.ดูเหมือนคดีฮั้วสว.จะเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับพรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจคราวก่อนก็ไม่มีเรื่องนี้ และการเสนอดีลนี้ไม่น่าจะมีคดีฮั้วสว.เป็นองค์ประกอบในการพิจารณา ถ้าตั้งรัฐบาลภูมิใจไทยสำเร็จ มีคนจากพรรคการเมืองบางพรรคเป็นรมว.ยุติธรรม กำกับราชการ DSI ชะตากรรมของคดีฮั้วสว.ที่กำลังเดินหน้าจะเป็นอย่างไร 7.หากเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คนสำคัญในครม.เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้วสว.มีหมายเรียกไปให้ปากคำ และอาจเป็นผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่ที่DSI กำลังทำอยู่ด้วย พรรคประชาชนจะกำหนดท่าทีอย่างไร เข้าใจเจตนาที่จะผ่าทางตัน แต่เสถียรภาพของทั้งรัฐบาลและการเมืองในภาพรวมจะไม่เกิดขึ้นจากดีลนี้

ปชน.ใช้142เสียงหาทางออกให้ปท.

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืน7ข้อของพรรคต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ว่า ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ ไม่ได้หมายถึงพรรคหนึ่งพรรคใด วัตถุประสงค์การแสดงจุดยืนดังกล่าวเป็นเพราะต้องการสื่อสารไปถึงประชาชนว่า ประเทศไม่มีวันถึงทางตัน ถ้าสถานการณ์ไปถึงขั้นที่ไม่สามารถเลือกนายกฯคนใหม่ได้จริงๆ พรรคปชน.ยินดีและจะใช้142เสียงในการฝ่าทางตันให้ประเทศ แต่ต้องมีเงื่อนไขบางอย่างที่ปลดล็อกการเลือกนายกฯ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า เงื่อนไขยุบสภาคงไปได้ยากแล้ว ในบัญชีแคนดิเดตใครเหมาะสมเป็นนายกฯมากที่สุด นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายกฯรักษาการยังมีอำนาจในการยุบสภาอยู่ ฉะนั้นช่องทางยุบสภายังไม่ถึงทางตัน อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร แต่ถ้ายังเป็นแบบในปัจจุบันเราเองก็เล็งเห็นว่า สถานการณ์อาจนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งในกระบวนการนิติสงคราม ซึ่งถ้าเดินถึงตรงนั้น ตนยังยืนยันหลักการเดิมว่า เราพร้อมใช้142เสียงหาทางออกให้ประเทศโดยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล เมื่อถามว่า วัตถุประสงค์จริงๆคือการต้านรัฐประหารใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมจะใช้กลไกทุกอย่างในการขับเคลื่อนประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ เช่น เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เราจะใช้กลไกในสภาให้รัฐบาลถอนร่างออกไป โดยไม่นำกลับมาอีก รวมถึงมีการฝ่าทางตันอื่นๆ เช่น การทำประชามติ

สกัดปัญหานายกฯคนนอก-รัฐประหาร

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่ได้ถึงทางตัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นการตอบที่ไม่ได้ผิดอะไร น.ส.แพรทองธารก็ยังเป็นนายกฯอยู่ การจะเดินหน้าไปสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็อาจมีตัวเลือกอื่นๆ เช่น น.ส.แพทองธาร ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ยังมีอีกหลายช่องทางที่จะนำไปสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ การที่พรรคปชน.ออกมานำเสนอแต่เนิ่นๆ ถึงจุดยืนเมื่อวาน เพราะเราต้องการป้องกันไม่ให้กระแสสังคม หรืออารมณ์ทางสังคมนำไปสู่การเรียกร้องให้มีนายกฯนอกระบบ ใช้กระบวนการที่ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย ตอนนี้อารมณ์สังคมคือ ขาดความเชื่อมั่นต่อ คุณแพทองธารและต้องการให้เปลี่ยนตัวนายกฯเร็วที่สุด ฉะนั้นหลักการของเราในตอนนี้ คือทำให้สังคมเชื่อมั่นว่าการเมืองมีทางออกเสมอ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ยิ่งโหวตนายกฯแล้วไปร่วมรัฐบาลแบบนี้จะยิ่งเกิดเดดล็อก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีการประเมินและมีเครื่องหมายเครื่องมือที่คอยกำกับทิศทางรัฐบาลชั่วคราวให้เดินไปสู่เงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน ส่วนมีใครติดต่อมาให้โหวตแล้วหรือยัง ตอนนี้ยังไม่มีมีการพูดคุยกันในระดับแกนนำ แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปว่า สามารถวิเคราะห์ฉากทัศน์ทางการเมืองได้ ระหว่าง ส.ส.ต่างพรรค ตนก็รับทราบข่าวสารจากเพื่อนสมาชิกในพรรค ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีดีลหลังบ้านอะไรทั้งนั้น

เย้ย’อิ๊งค์’คุมเสียงในสภาไม่ได้จนล่ม

เมื่อถามว่า เกมสภาล่มหากนายกรัฐมนตรีกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้จะสามารถควบคุมเสียงได้มากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าที่ผ่านมาน.ส.แพทองธาร สามารถกำกับเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้จริงและไม่ได้คิดว่าการที่กลับมา จะสามารถควบคุมเสียงของรัฐบาลได้เพิ่มมากขึ้น สภาพที่ขาดเสถียรภาพ พรรคร่วมรัฐบาลสามารถส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยได้ตลอดเวลาก็ยังเกิดขึ้นอยู่แล้ว

ปชน.ปัดมีธงชู’หนู’นั่งนายกฯชั่วคราว

ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงแนวคิดที่พรรคประชาชนสนับสนุนนายกฯชั่วคราวว่า มีการตีความว่าพรรคประชาชนจะโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ตนขอยืนยันว่าปิดชื่อพรรค ปิดชื่อนายกฯไปเลย หากรับเงื่อนไขได้ พรรคประชาชนพร้อมยกมือให้เพื่อเปิดทางออกให้ประเทศและนำไปสู่การยุบสภาในที่สุด อาจจะไม่ได้ในเร็ววันนี้ ขอให้ผ่านพ้นช่วงที่จะต้องแก้ปัญหาต่างๆไปก่อนก็ได้ แต่ก่อนปลายปีนี้ควรจะต้องมีการยุบสภาได้แล้ว เมื่อถามว่า มองว่าข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องพูดคุย สื่อสารกัน ทั้งนี้ประชาชนยังไม่เข้าใจว่าจะเกิดทางตันได้อย่างไร ขณะนี้เรากำลังพูดถึงฉากทัศน์หนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้น คือหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม หลุดจากตำแหน่งนายกฯ ดังนั้นต้องมีการเปิดทางให้โหวตนายกฯ คนใหม่ ซึ่งตอนนั้นอาจจะวุ่นวายกว่าเดิม บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลต้องพยายามขย่มเก้าอี้ต่อรองอำนาจ และอาจจะรวมเสียงข้างมากไม่ได้

ลั่นใครรับเงื่อนไขได้โหวตให้หมด

เมื่อถามว่า มองไว้หรือไม่ว่าจะโหวตให้กับใคร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่กังวลว่าเป็นใคร แต่ขอให้อยู่ในบัญชีของแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง และรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน ที่ต้องทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เราไม่แคร์แล้ว เพราะว่าช่วงเวลาที่เหลือ คือการเตรียมตัวเพื่อไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ต่อไป ฐานะที่เราเป็นพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งในสภาฯ เราอยากใช้เสียงของเราอย่างมีค่ามากที่สุดในการนำเสนอทางออกให้ประเทศ ไม่ให้นำไปสู่ทางตันหรือไปเรียกร้องให้เกิดการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญอื่นๆ

‘โตโต้’งง’พท.’รุมถล่มแค่เสนอทางออก

นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.รองเลขาธิการพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้พรรคเพื่อไทย เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า งงมากแม่ พรรคประชาชนยังไม่บอกสักคำว่าโหวตใคร แต่เพื่อไทยร้อนรน ก่อนอื่นต้องย้ำว่า ไม่มีใครการันตีได้ว่าอนาคตของนายกแพทองธารจะเป็นอย่างไรต่อ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา คงมี 3 แนวทางที่เป็นไปได้ คือ 1.รอด เป็นนายกต่อไป 2.ไม่รอด พ้นจากตำแหน่งนายก 3.รอดแบบมีเงื่อนไข หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะตำแหน่งนายก แต่ดำรงตำแหน่งรมว.วัฒนธรรมต่อไป เราต่างรู้ดีว่า นิติสงครามที่เพื่อไทยกำลังเผชิญอยู่นี้ เพื่อไทยเป็นผู้พาตัวเองมาถึงจุดนี้ ภายใต้ผู้นำที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หาใช่เพราะฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนไม่ ทุกวันนี้ตนเห็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อย คอยชักแม่น้ำทั้งห้า พุ่งเป้าโจมตีมาที่พรรคประชาชน ไม่ว่าพรรคเราจะเสนอทางออกให้สังคม เสนอทางออกให้ประชาธิปไตยของไทยด้วยความหวังดีอย่างไรก็ไม่เป็นที่เข้าใจ ที่สำคัญข้อเสนอของเราไม่เคยแลกหรือเรียกร้องตำแหน่ง หรือเก้าอี้ในรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย วันที่ผลักไสไล่ส่ง ภูมิใจไทยออกไป ทำให้เขามาเป็นฝ่ายค้าน เสียงรัฐบาลก็ปริ่มน้ำ ตนถามว่า พรรคประชาชนผิดหรือ วันที่นายกฯพลาดจากการเจรจาทางโทรศัพท์กับฮุนเซนโดยไม่ระมัดระวัง จนนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญและปลุกนิติสงครามขึ้นมา ถามว่า พรรคปชน.ผิดหรือ ถ้าวันนี้พรรคปชน.เสนอทางออกว่า ทางออกเดียวของประชาธิปไตยเวลานี้คือ การยุบสภาในวันที่รัฐบาลเพื่อไทยยังมีอำนาจทำได้ ก่อนจะเกิดทางตันและปลุกอสูรกายตัวต่อไปขึ้นมา เราก็ผิด

กลายเป็นส้มผิด-ส้มกระสันอำนาจ

นายปิยรัฐ ชี้แจงอีกว่า ที่เราเสนอยุบสภาก็เพื่อยังคงยืนยันว่า ประชาธิปไตยมีทางออกเสมอ และเวลานี้มันยังมีทางออก คือ สภาผู้แทนฯ พรรคประชาชน จึงเสนอรัฐบาลชั่วคราว ด้วย 2 สัญญาประชาคมและ 1 เงื่อนไขสำคัญ 2สัญญาประชาคม คือ 1.ต้องประกาศเส้นตายว่าจะมีการยุบสภาภายในสิ้นปีนี้ 2)ยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าในช่วงเวลาที่เหลือ ได้แก่ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยทำประชามติพร้อมการเลือกตั้ง, แก้ไขสถานการณ์ไทย-กัมพูชา, ผ่านงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน

1 เงื่อนไข คือ พรรคประชาชนจะยังคงเป็นฝ่ายค้าน จะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่พร้อมจะประคับประคองรัฐบาลให้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส และเดินตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้ หากไม่เป็นไปตามนั้น ฝ่ายค้านก็พร้อมใช้กลไกรัฐสภาเพื่อล้มรัฐบาลได้ทันที ทางออกที่พรรคเราเสนอนี้ ต้องขีดเส้นใต้ให้ชัดเจนว่า เราเสนอทางสาธารณะอย่างเปิดเผย ไม่ได้ทำลับๆ ล่อๆ และไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่สิ่งที่ตนรับรู้กลับกลายเป็นว่า คนของเพื่อไทยหลายคนตั้งป้อมถล่มพรรคส้ม ทั้งที่เราก็ไม่ได้บอกว่าจะโหวตใคร ทำไมร้อนรน หรือเพราะตัวเองรับเงื่อนไขไม่ได้ เลยด่าไว้ก่อน แต่ถ้าจำไม่ผิดพรรคเพื่อไทยก็เคยเสนอการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบาย ดังนั้นจะติดใจเงื่อนไขเราทำไม ทั้งที่เรื่องราวทั้งหมดก็เพื่อไทยเป็นคนผูก แต่กลับแก้ไม่ได้ เราจึงเสนอทางแก้ให้ กลายเป็นส้มผิด ส้มกระสันอำนาจ ใครไม่งง ผมงง

‘บิ๊กเนม’ปชป.’ร่วมพรรคใหม่’ดร.เอ้’

สำหรับความเคลื่อนไหวที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าทำพิธีสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม บริเวณลานพระแม่ธรณี ถนนราชดำเนิน ในเวลา 10.00น.พร้อมยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการทันทีหลังพิธี มีรายงานว่า การลาออกของ นายสุชัชวีร์ เพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ที่ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจัดตั้งขึ้น เบื้องต้นอาจใช้ชื่อว่า“พรรคไทยก้าวใหม่”นโยบายด้านการศึกษา นวัตกรรม และสวัสดิการสำหรับคนรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์กระแสการเมืองที่ต้องการพรรคการเมืองตัวเลือกใหม่ อย่างไรก็ตาม ปรากฎชื่อของบิ๊กเนมพรรคประชาธิปัตย์หลายคนที่จะเข้าร่วมด้วย อาทิ ทีมของนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป.นายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา ส่วน นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรค ยังไม่ตัดสินใจ

มุ่งการเมืองระดับปท.-เน้นการศึกษา

โดย นายสุชัชวีร์ แถลงถึงการลาออกว่า การก้าวออกจากพรรคครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เกิดจากอุดมการณ์ที่ยึดมั่นมาตลอด ที่ต้องการทำการเมือง โดยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งตนจะมุ่งมั่นเริ่มต้นแก้ปัญหาประเทศด้วยการพัฒนาคนในเรื่องการศึกษา

เมื่อถามว่า จะเปิดตัวพรรคใหม่เมื่อใด นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ยังพูดคุยกันอยู่ คงต้องรออีกสักพัก ถามย้ำว่า มุ่งไปที่การเมืองระดับประเทศแล้วใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้เรื่องของประเทศสำคัญที่สุด ตนโฟกัสไปที่เรื่องการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม ก่อนตายตั้งใจไว้แล้วว่าอยากเป็นพลเรือนชั้น1ของโลก ขอให้ประเทศไทยได้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เหมือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้

‘คุณหญิงกัลยา’ยันยังอยู่ ปชป.

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ยอมรับมีการพูดคุยกับ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสมัยที่ตนนั่งเป็น รมช.ศึกษาธิการ ได้ตั้งให้นายสุชัชวีร์เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี และเห็นพ้องต้องกันว่าการจะพาประเทศก้าวข้ามปัญหาไปได้ คือต้องให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่ เน้นการวิจัยและพัฒนาคน เพราะสิ่งนี้เท่านั้นที่จะนำพาชาติให้เจริญรุ่งเรืองและแก้ปัญหาต่างๆ ส่วนการตั้งพรรคการเมืองยังไปไม่ถึงจุดนั้น เพียงแค่คุยกัน และปัจจุบันตนยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ลาออกไปไหนเมื่อถามย้ำว่า อนาคตจะลาออกเหมือน นายสุชัชวีร์ หรือไม่ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่วันนี้ยังอยู่ปชป.และพรรคการเมืองอื่นก็ยังไม่ได้ตั้ง เป็นเพียงการพุดคุยและคิดตรงกันมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา

จับตา’จักรภพ’นั่ง’โฆษกรบ.’

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ และมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อมอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยการประชุม ครม.ครั้งต่อไปในวันที่ 8 ก.ค.ที่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม นอกจากวาระปกติแล้ว คาดว่ายังมีการเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองของรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า จะมีการเสนอชื่อแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยจะมีการเสนอชื่อ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาแทน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่คาดว่าจะไปดำรงตำแหน่งอื่น ซึ่งนายจักรภพ ได้มีการกรอกประวัติ และตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ภายหลังตั้งโฆษกเสร็จสิ้นแล้ว พรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมจะเสนอแต่งตั้งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่ง ที่ก่อนหน้านี้ นายคารม พลพรกลาง อดีตรองโฆษกฯ ลาออก เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อีกด้วย