จัดฉากยั่วยุถ่ายคลิปทำ‘ไอโอ’
ทัพ2แฉเล่ห์เขมร
ลาดตระเวนล้ำดินแดนไทย
ยันกองทัพพร้อมเผด็จศึก
‘สม รังสี’ถลกหนัง‘ฮุนเซน’
เล่นเกมถอดสัญชาติกัมพูชา
กองทัพภาคที่ 2 เผย ทหารกัมพูชาตั้งใจลาดตระเวนล้ำแดนไทย ถ่ายคลิปยั่วยุจัดฉากให้ดูเหนือกว่า นำไปเผยแพร่ในโซเชียลข่มทหารไทย ขณะที่ทหารไทยพร้อมรับมือ ไม่ประมาทเดินหน้าปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ลือเปิดชายแดนหาดเล็ก 7 หรือ 10 กรกฎาคมนี้ นายอำเภอคลองใหญ่เผย 2 จังหวัดหารือ และมีความสัมพันธ์ดี ยังไม่ยืนยันเปิด แต่การค้าซบเซามาก ทางด้าน“สม รังสี”เปิดไทม์ไลน์แฉแรงจูงใจเบื้องหลัง “ฮุน เซน” เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน โดยฝ่ายกัมพูชานำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์การโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม วันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา เรื่องการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว โดยทหารกัมพูชาชี้หน้าทหารไทย
ส่วนกรณีชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา บริเวณจุดชมวิว “ภูผี” ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้ปราสาทโดนตวลและเขาพระวิหาร ภายในคลิปมีการระบุจะใช้กำลังกัน
ล่าสุด แหล่งข่าวกองทัพภาคที่ 2 ประเมิน ว่า ทหารกัมพูชาตั้งใจลาดตระเวนเดินล้ำเข้ามาในเขตไทย พบกับทหารไทยที่ออกลาดตระเวนอยู่บ่อยครั้งเพื่อถ่ายคลิปวิดีโอ ซึ่งคลิปเหล่านี้มาจากฝั่งกัมพูชาทั้งหมด
โดยภายในคลิปจะเห็นทหารกัมพูชา 3-4 นาย ยกโทรศัพท์ถ่ายรอบด้านเก็บภาพทุกมุม พร้อมให้ทหารด้านหน้า 4-5 นาย พูดจายั่วยุให้ทหารไทยตอบโต้และเกิดการโต้เถียง ทำให้คลิปดูเหมือนทหารกัมพูชาข่มทหารไทยได้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการถ่ายคลิปเพื่อทำไอโอเผยแพร่ในประเทศ แสดงให้ประชาชนกัมพูชาเห็นว่าทหารของตนข่มทหารไทยได้
แหล่งข่าวระบุผ่านสำนักข่าวไทยโพสต์ในตอนท้ายว่า พฤติกรรมของทหารกัมพูชาเป็นกลยุทธ์ที่ทหารไทยรับรู้กันดี และพร้อมรับมือควบคู่กับการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มกำลังและไม่ประมาท
ทางด้าน นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า การปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการค้าขายในบ้านหาดเล็ก ที่มีชาวกัมพูชามและชาวหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ทำการค้าขายกันตามแนวชายแดนต้องหยุดชะงักลงไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากทางฝ่ายทหารกองบัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ยังมีมาตรการห้ามรถบนต์ และรถบรรทุกสินค้าเข้าไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นเช่นนี้มากว่า 11 วันแล้ว ร้านค้าในบ้านหาดเล็ก การขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนทั้งหมดทำไม่ได้ และร้านค้าต้องปิดร้านเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านทั้งสองจังหวัดมาซื่อขายเหมือนเดิม ส่งผลให้ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กซบเซา และเงียบไปทั้งหมด
“ยอมรับว่า สถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ชายแดนทั้งสองจังหวัดเจรจาและหารือกันด้วยมิตรภาพที่ดี ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น นักเรียนของกัมพูชายังเดินทางเข้ามาเรียนหนังสือตามปกติ มากน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งฝ่าย จ.ตราดยังอนุญาตให้ผู้ป่วยของเกาะกงเข้ามาทำการรักษาในโรงพยาบาลในจังหวัดตราดได้ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายเคสแล้ว ส่วนข่าวที่ว่า จะมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กไม่เกินวันที่ 7 หรือ 10 กรกฎาคม 2568 นั้น เป็นเพียงข่าวที่ยังต้องประเมินสถานการณ์ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ แต่ยอมรับว่า มีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ยังยืนยันชัดเจนไม่ได้ เพียวแต่มีการเจรจาในเรื่องนี้กันจริงๆ” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น.ที่บริเวณด่านถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไม่มีรายงานบุคคลเดินทางเข้ามายังฝั่งไทย มีเพียงชาวกัมพูชาเดินทางออก 2 คนเท่านั้น ส่วนด้านมนุษยธรรมมีนักเรียนกัมพูชาข้ามแดนมาโรงเรียนฝั่งไทย จำนวน 70 คน ประกอบด้วย 1) โรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม 15 คน 2) โรงเรียนบ้านหาดเล็ก 47 คน 3) โรงเรียนบ้านคลองมะขาม 1 คน 4) โรงเรียนอนุบาลวัดคลองใหญ่ 7 คน ขณะที่สถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ยังคงปกติ
ด้านนายนิโรจน์ วัติราชกูร หัวหน้าชุดศุลกากรคลองใหญ่ เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการปิดจุดผ่านแดนถาวรหาดเล็ก ซึ่งในแต่ละปีมีมูลค่าการค้าขายปีละ 3.5 หมื่นล้านบาท หรือเดือนละ 3,000 ล้านบาท หรือวันละ 100 ล้านบาท โดยประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกประมาณ 2.8 -3.0 หมื่นล้าน และนำเข้าเพียง 3,000 ล้านบาท ส่วนในระดับจังหวัดมีมูลค่าไม่มากนัก
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของ จ.ตราด ที่ส่งออกสินค้าการเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ขาดรายได้ไประดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการของไทยที่เข้าไปลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ทั้งชุดสายไฟรถยนต์สำเร็จรูป,กลุ่มธุรกิจสิ่งทอ ที่มีกางเกงขาสั้นบุรุษทำด้วยโพลีเอสเตอร์,เสื้อเชิ้ตบุรุษทำด้วยเส้นใยสังเคราะห์,เสื้อทีเชิ้ตสตรีทำด้วยโพลีเอสเตอร์,กางเกงขาสั้นสตรีทำด้วยโพลีเอสเตอร์ กลุ่มอาหารทะเลสด เช่น ปลาสดหรือแช่เย็น กุ้งมังกรทั้งตัวแช่เย็นหอยนางรมแช่เย็นปูแสมทั้งตัวแช่เย็น ที่เป็นสินค้าที่นำเข้ามาได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ ชุดสายไฟรถยนต์สำเร็จรูปที่ต้องนำเข้าจากไทยกำลังขาดวัสดุดิบและอาจจะต้องหยุดการผลิตชั่วคราว
สำหรับกลุ่มสิ่งทอซึ่งผลิตเสื้อชุดกีฬาชั้นนำส่งให้ทีมฟุตบอลในยุโรปยังผลิตต่อได้ เนื่องจากมีการสั่งวัตถุดิบมาสำรองไว้ก่อนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ได้มีการขยับออกไปผลิตในพื้นที่ประเทศอื่นเนื่องจากเกรงว่าสถานการณ์อาจจะยืดเยื้อ
“ส่วนข่าวที่มีการพูดคุยในระยะนี้เรื่องที่จะมีการเปิดด่านในราววันที่ 7 หรือ 10 กรกฎาคม 2568 นั้น ผมก็ได้ยินมาเช่นกัน เนื่องจากมีนักลงทุนรายใหญ่ได้มีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อขอให้เปิดในช่วงนี้ เพื่อลดผลกระทบกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งยังต้องติดตามกันต่อไป ขณะที่มีการแจ้งจากนักธุรกิจชาวไทยที่มีการสั่งซื้อสินค้าก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีคำสั่งซื้อก่อนปิดด้านฝ่ายความมั่นคงก็อนุญาตให้แล้ว แต่ฝ่ายกัมพูชามีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นเรือบรรทุกสินค้าที่จดทะเบียนในกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ส่งไปขึ้นที่ท่าเรือเกาะกงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา และส่งรูปมายืนยันแล้ว ”นายนิโรจน์กล่าว
ทางด้าน สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ที่ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า แรงจูงใจที่แท้จริงเบื้องหลังข้อเสนอของฮุน เซน ในการเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อเพิกถอนสัญชาติกัมพูชาจากพลเมืองของเขาเอง ฉันยังส่งข้อความถึงคนงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับความหมายของกฎหมายฉบับนี้และอนาคตที่จะเกิดขึ้น เพื่อทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวนี้ เราต้องตรวจสอบห่วงโซ่เหตุการณ์ที่นำไปสู่การเคลื่อนไหวดังกล่าว
26 มิถุนายน: นายกรัฐมนตรีแพทองธารของไทยเดินทางไปยังชายแดนกัมพูชา-ไทยและเปิดโปงว่ากาสิโนของกัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมที่ก่อขึ้น
27 มิถุนายน : เพื่อตอบโต้ ฮุนเซนตอบโต้ด้วยความโกรธ ไม่ใช่ด้วยท่าทีทางการทูต แต่ด้วยอารมณ์ เขาใช้เวลาสามชั่วโมงในการออกอากาศทางโทรทัศน์แห่งชาติเพื่อระบายความคับข้องใจส่วนตัวที่มีต่อครอบครัวทักษิณและกล่าวหาว่าทักษิณไม่สามารถควบคุมลูกสาวของเขาได้
28 มิถุนายน : ฉันออกแถลงการณ์เปิดโปงกิจกรรมทางอาชญากรรมที่คล้ายกับมาเฟียในกัมพูชา สื่อมวลชนของไทยรีบหยิบเรื่องนี้มาเผยแพร่ทั่วประเทศทางสถานีโทรทัศน์หลักทุกแห่ง ฮุนเซนซึ่งหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะกลัวว่าจะถูกต่อต้านและไม่สามารถหักล้างความจริงได้
29 มิถุนายน : ฮุนเซนซึ่งโกรธจัดและถูกกดดันจนมุมได้ตอบโต้ด้วยการเสนอเพิกถอนสัญชาติกัมพูชา
ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่ากฎหมายนี้ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายฉันโดยเฉพาะและข่มขู่คนงานชาวกัมพูชาในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย มาเลเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น แต่ฉันขอร้องให้ทุกคนอย่ากลัว การกระทำนี้จะมีผลเสียตามมา ตรงกันข้าม กฎหมายนี้เป็นพรที่แฝงมา
กฎหมายระหว่างประเทศอยู่เคียงข้างคุณ อนุสัญญาจากปี 1954 และ 1961 โดยเฉพาะปกป้องบุคคลที่ไร้สัญชาติหรือถูกถอดสัญชาติโดยไม่เป็นธรรม ความพยายามของฮุนเซนในการติดอาวุธสัญชาติจะไม่ยืนหยัดต่อหน้ากฎหมายและความสามัคคีของโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี