DSIเรียกสอบอีก5ราย
พยานคดีฮั้วเลือกสว.
เส้นเงินโยงขบวนการ
แย้มมีอีกหลายคนเอี่ยว
DSI เตรียมส่งหมายเรียกพยานคดี “อั้งยี่-ฟอกเงิน” สอบปากคำเพิ่มอีก 5 รายเส้นเงินโยงขบวนการจัดฮั้วเลือกสว. ส่วน 3 รายลอตแรกเข้าชี้แจง ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 24/2568
เปิดเผยถึงกรณีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ว่า ภายหลังจากที่มีการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.สินิตา (สงวนนามสกุล) 3.นายสุบิน (สงวนนามสกุล) 4.น.ส.ญาณี (สงวนนามสกุล) 5.น.ส.ภัณนิภา (สงวนนามสกุล) 6.นายอากร (สงวนนามสกุล) และ 7.นายอาทร (สงวนนามสกุล) ให้เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน
เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงพบพฤติการณ์ของทั้ง 7 พยานมีส่วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ คือ มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู รวมถึงยังพบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, สตูล, สงขลา, ระนอง, กระบี่, ภูเก็ต ชุมพร, หนองบัวลำภู,
นครพนม, บุรีรัมย์, บึงกาฬ, อำนาจเจริญ, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, สิงห์บุรี, นนทบุรี, ราชบุรี, พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, เพชรบุรี, ลำพูน, ลำปาง และตราด ปรากฏว่า ในวันที่ 1-3 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา มีพยานเข้าพบแล้ว 3 ราย คือ น.ส.สินิตา นายสุบิน และนายอาทร โดยทั้งหมดล้วนให้การปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้วเลือก สว. พร้อมยืนยันว่า เงินจำนวนดังกล่าวที่ปรากฏในเส้นทางการเงินนั้น เป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายทั่วไป
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงมีการระบุว่าเป็นการโอนเงินเนื่องด้วยมูลหนี้ต่างๆเป็นต้น ซึ่งถ้อยคำให้การของพยานนั้น ไม่ว่าจะชี้แจงอย่างไร พนักงานสอบสวนจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจที่ต้องดูประกอบกับพยานหลักฐานอื่น เพราะไทม์ไลน์ที่พบเส้นทางการเงิน มันเกิดขึ้น 3 ห้วงเวลา คือ ก่อนการเลือก สว.67 ระหว่างการเลือก สว.67 และหลังการเลือก สว.67 จึงต้องโฟกัสไปที่ช่วงการใช้เงินจ้างผู้สมัคร สว.
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า ภายในวันที่ 7-8ก.ค.2568 จะเป็นการสอบสวนปากคำพยานที่เหลือ คือ นายวรพจน์, น.ส.ญาณี, น.ส.ภัณนิภา, นายอากร ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากการที่พนักงานสอบสวนได้สืบสวนเส้นทางการเงินต่อเนื่อง และพบกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักษณะนิติกรรมเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันและคล้ายเคียงกัน จึงออกหมายเรียกพยานเพิ่มอีก 5 ราย ให้เข้าชี้แจงรายละเอียดการเงินดังกล่าว ซึ่งทั้ง 5 รายนี้ เป็นบุคคลภายนอก และเป็นเครือข่ายของพรรคการเมืองเหมือนกับ 7 รายแรก โดยยังไม่ใช่ สว.หรือสส.แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตลอดทั้งเดือน ก.ค.พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะยังพิจารณาออกหมายเรียกพยานเพิ่มเติมอีกแน่นอน เนื่องจากหลักฐานเส้นทางการเงินบ่งชี้ จึงต้องเชิญมาให้ข้อมูลชี้แจงในรายละเอียดข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรม ส่วนจะต้องมีการเรียกพยานที่เคยให้การแล้วมาให้ปากคำซ้ำอีกครั้งหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่า หากมีหลักฐานใดที่คิดว่าจะแสดงต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ก็สามารถนำส่งภายหลังได้ ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อเรียกบุคคลใดมารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี