‘สาวอดีตคนสนิท สว.’ ยื่นร้องจริยธรรม สัมภาษณ์เสียงสั่นด้วยความกลัว-เจอภาวะเครียดสะเทือนใจจะเป็นลมหลายรอบ ด้าน ‘ทนาย’ แจงแทนยื่นสอบจริยธรรมข้อ 21 ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ มั่นใจได้รับความยุติธรรม ไม่หวั่นอิทธิพล ปัดเป็นเกมการเมือง จ้องเลื่อยเก้าอี้ หวังให้‘สว.สำรอง’ขยับเสียบ
8 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา พร้อมด้วยทนายความ แถลงกรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศโดย สว.
ก่อนการให้สัมภาษณ์ ทางผู้เสียหายกำลังเดินมาจุดแถลงข่าวกลับล้มอาการคล้ายจะเป็นลมถึง3 ครั้ง จึงได้นั่งพักก่อน ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามว่าเป็นลมหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่ามีอาการโรค PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder (โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) เป็นภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากบุคคลนั้นได้ประสบ หรือเห็นเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จากนั้นเดินมาที่จุดให้สัมภาษณ์
น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นฟ้องจริยธรรมร้ายแรงกับสว. เราไม่ใช่ผู้กระทำผิดไม่ควรกลัว ควรเปิดหน้าที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยอมรับว่าตอนนี้กลัวมาก แต่ขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน ตนรู้จักกับสว.ท่านนี้เป็นการส่วนตัวเคยคบหากัน แต่มีเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่าทำให้ต้องเลิกคุยกัน โดยไม่สามารถกลับมาคบกันได้อีก
ทั้งนี้ สว.คนคู่กรณี ไม่ได้อยู่ในคณะกรรมาธิการที่ตนทำงาน แต่ยอมรับว่าได้เจอกันบ้าง ซึ่งเราต้องรักษามารยาท ในวันเกิดก็จะต้องมีการทักไปแสดงความยินดี โดยหลังจากที่ตนแจ้งว่าจะมายื่นจริยธรรม ทางคู่กรณีไม่ได้ติดต่อตนมาแต่อย่างใด ส่วนคดีความที่แจ้งความที่ สน. เตาปูนจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น
น.ส.ณัฐสินี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อ 5 พ.ค. ว่า สว. คนดังกล่าวได้ชวนไปทานอาหาร ซึ่งตนไม่สะดวกจึงขอนัดเป็นร้านขนม ย่านบรรทัดทอง โดยยืนยันว่าไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ และสว. มารับตนที่บ้านพัก และหลังจากที่รับประทานเสร็จ สว.คู่กรณีได้ขับรถไปส่งตนที่บ้าน และระหว่างทางสว.คู่กรณีขอคืนดี แต่ตนปฏิเสธ และขอเป็นเพื่อนกันอย่างเดียวดีกว่า ทั้งนี้ภายในรถมีการดึงแขนล็อคตัวไม่ให้ออกจากรถ ซึ่งตนพยายามกระโดดออกจากรถและขัดขืน แต่ถูกรั้งไว้ ส่วนเหตุผลที่เพิ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไปหลายเดือนนั้น เพราะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุม เนื่องจากสว.คู่กรณีเป็นผู้ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการสัมภาษณ์ในรายละเอียดของทนายความนั้น น.ส.ณัฐสินี ได้สะกิดผู้สื่อข่าวเพื่อขอยาดมจากนั้นมีท่าทีทรุดจะล้มจนทำให้คนที่อยู่รอบข้างประคองพยุง ก่อนที่ทีมพยาบาลรัฐสภานำตัวขึ้นรถเข็นและพาไปที่ห้องพยาบาล
ขณะที่นายรดิศทัต ประภานนท์ ทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของคดีอาญานั้นหลังจากที่แจ้งความแล้วเป็นเรื่องของตำรวจที่จะดำเนินการ เพราะได้แจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคดีอาญาที่สามารถไกล่เกลี่ยได้ อย่างไรก็ดีในกรณีของการยื่นร้องเรียนจริยธรรมของสว.ที่เป็นคู่กรณี นั้น มีเอกสารและรายละเอียดที่ชี้ให้เห็นพฤติกรรมของสว.คนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเข้าข่ายผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสว. และกรรมาธิการ ข้อที่ 21 ที่กำหนดว่าต้องไม่กระทำอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะจำต้องยอมรับในการกระทำนั้น และกรณีที่น.ส.ณัฐสินี ป่วยด้วยโรคพีทีเอสดีนั้นเป็นจริงมีการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา
“เรื่องนี้เชื่อว่าจะมีเกิดขึ้นอีกมาก แต่กรณีของน.ส.ณัฐสินีนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ออกมาเปิดหน้าและต่อสู้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องของอดีตของคนที่คุ้นเคย เป็นรุ่นพี่รู้จักกันมา 20 ปีสามารถส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดได้ อย่างไรก็ดีการยื่นร้องจริยธรรมต่อคณะกรรมการของวุฒิสภา ที่เป็นพวกเดียวกับกับ สว.คู่กรณีนั้น ผมยังเชื่อว่ากระบวนการตรวจสอบจริยธรรมจะโปร่งใส พราะสว.ที่เป็นคู่กรณีนั้นมีความผิด ส่วนผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม” นายรดิศทัต กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นกังวลเรื่องถูกอิทธิพลข่มขู่หลังจากนี้หรือไม่ นายรดิสทัต กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ารับหน้าที่เป็นทนายความของ น.ส.ณัฐสินี ได้ 2 วัน หลังจากที่ทนายคนเดิมถอนตัวโดยไม่ทราบเหตุผล เพราะได้ดูหลักฐาน คลิปวีดีโอ แล้วยืนยันพร้อมที่จะช่วยลูกความสู้คดี โดยไม่กลัวอิทธิพลใดๆ เพราะหากกลัวคงไม่กล้าเปิดเผยหน้าต่อสาธารณะ
เมื่อถามว่ากรณีที่มาร้องจริยธรรมหลังจากที่เกิดเหตุมานาน ถูกมองว่าเป็นการรับงานทางการเมือง เพราะมี สว.กลุ่มสำรองต้องการตำแหน่ง นายรดิศทัต กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่เรื่องการเมืองแน่นอน ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี