‘ผู้นำฝ่ายค้าน’แนะ‘รัฐบาล’ลงทุนผุดย่านสร้างสรรค์ชู‘ซอฟต์พาวเวอร์’ให้มากกว่า ‘จัดอีเวนท์’รอดู ‘ทักษิณ’ ขึ้นเวทีโชว์วิชั่นจะสามารถกู้ภาพลักษณ์รบ.ได้หรือไม่ เชื่อหากใช้อำนาจต่อรองเป็นจะทำให้ ‘กัมพูชา’ กลับเข้าสู่การเจรจาที่ถูกต้องได้
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2568 เวลา09.45น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมขึ้นเวทีเอ็กซ์คลูซีฟทอล์ค กับ 4 ผู้นำทางความคิดร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย ของเครือเนชั่น ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ คาดหวังการแสดงออกประเด็นทางการเมืองประเด็นทางการเมืองว่า ตนได้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ไปแล้ว ถามว่าคาดหวัง และอยากเห็นอะไรจากนายทักษิณ หากเป็นเฉพาะในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ตนคาดหวังเรื่องการลงทุนในต้นทุนของวัฒนธรรม เพราะที่ผ่านมาเราเห็นการดำเนินการนโยบายเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เป็นการจัดอีเวนท์ต่างๆ เหมือนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่สำคัญคือการลงทุนต่างๆ หรือนำวัฒนธรรมที่เรามีอยู่ไปทำให้เกิดประโยชน์ เช่น สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับย่านสร้างสรรค์ หลายๆ ย่านทั่วประเทศไทย และจริงๆ แล้วในแต่ละหัวเมืองของเรามีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์พยายามที่จะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีการตั้งงบประมาณในการพัฒนาย่านสร้างสรรค์แต่ละย่านในแต่ละหัวเมือง
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า โดยที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้รับความร่วมมือกับท้องถิ่นหรือกระทรวงมหาดไทย ในเมื่อตอนนี้พรรคเพื่อไทย (พท.) ขึ้นมาคุมกระทรวงมหาดไทย และถือเป็นนโยบายเรือธงในการที่จะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ตนอยากส่งข้อแนะนำและอยากเห็นพรรค พท.นำผลการศึกษาที่หน่วยงานของไทยได้ศึกษาไว้ มาลองลงทุนดู ในการที่จะปลูกเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง รวมถึงอยากให้มีการใช้งบประมาณให้ถูกจุดมากกว่าการจัดอีเวนท์ธรรมดา
เมื่อถามว่า การปรากฏตัวของนายทักษิณในช่วงนี้จะสามารถประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องรอดูการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ของนายทักษิณว่าจะสามารถสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ได้หรือไม่ แต่หากคิดในทางกลับกัน ช่วงหลังที่มีความขัดแย้งสูงในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะถอนตัวออกมา ก็จะเห็นบทบาทของนายทักษิณที่ออกมาปรากฎตัวตามหน้าสื่อต่างๆ น้อยลง ฉะนั้น ในตอนนี้ที่นายทักษิณกลับมาปรากฎตัวตามหน้าสื่ออีกครั้ง ก็ต้องรอดูว่าท่านจะแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า คาดหวังว่าจะได้เห็นประเด็นตอบโต้สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าเวลานายทักษิณขึ้นเวทีจะมีประเด็นทางการเมืองอยู่ด้วย ฉะนั้น ในครั้งนี้คงต้องรอติดตามดูว่าจะมีประเด็นทางการเมืองหรือการแสดงวิสัยทัศน์ที่สร้างทางออกให้ประเทศอย่างไร เราต้องรอดู
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการที่ศาลไทยออกหมายจับนายก๊กอาน เจ้าของคราวน์กาสิโนในเมืองปอยเปต ซึ่งมีการโยงถึงนายทักษิณ มองว่าจะทำให้การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความเห็นของตนต่อกรณีดังกล่าว สิ่งที่ไทยสามารถกดดัน สมเด็จฮุน เซน ได้เช่นกัน คือเรื่องของการสื่อสาร เพราะการที่เขาออกมาสื่อสารเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าเขาอ่อนไหวต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้น อำนาจต่อรองหากเราใช้เป็น หรือใช้การสื่อสารในเรื่องของพลังสื่อมวลชน ที่เราต้องการดำเนินการว่าในการสื่อสารที่เราต้องการดำเนินการคือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าจะสามารถกดดันกัมพูชา ในการที่จะกลับเข้าสู่การเจรจาในทางที่ถูกต้องมากขึ้น ไม่ใช่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วทำให้เกิดปัญหาที่มีผลกระทบเกิดขึ้นตามมาเหมือนในอดีต -002
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี