แม่ทัพ2ลั่นทหารเต็มร้อย
กระสุนเต็มแม็กปกป้องปท.

แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุ แนวชายแดนไทย-เขมรเริ่มคลี่คลาย นัดเจรจาไร้อาวุธสัปดาห์ละ 3 วัน แต่พร้อมปกป้องอธิปไตย 100% ถ้าจำเป็น ลั่นไทยมีกระสุนเต็มแม็กฝากถึง “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” รักษาสุขภาพด้วย ส่วนการแก้ปัญหาชายแดนไทย-เขมร ขึ้นกับผู้นำสองประเทศต้องเจรจากัน ทหารพร้อมปฎิบัติตาม ย้ำทำงานได้กับนายกฯทุกคนขอให้มีนโยบายชัดเจนและทำเพื่อชาติ ย้ำมั่นใจสถานการณ์คลี่คลายก่อนเกษียณ

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ฐานอนุพงศ์ อ.น้ำยืน จ. อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่จังหวัดสุรินทร์ศรีสะเกษ - อุบลราชธานี นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้ ทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน พร้อมฝากให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัยดูแลสุขภาพ เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าฝน

พร้อมคุยRBCรอเขมรเคาะวัน

แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และประเด็นการสร้างรั้วแนวปราสาทตาเมือนธมว่า ต้องทำความเข้าใจร่วมกันทั้งสองฝ่ายเรื่องของเขตแดนให้ตรงกัน เพราะถ้าสร้างอาจเกิดความขัดแย้งขึ้นได้ ถ้ายังไม่ได้ทำความเข้าใจกัน จึงต้องให้ระดับสูงพูดคุยกันก่อน ขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาคุยกันมาตลอด โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดความไม่เข้าใจกันก็ต้องพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งบางครั้งเกิดความไม่เข้าใจกันเรื่องเส้นทางลาดตระเวน หรือทหารเปลี่ยนผลัดใหม่ก็ต้องทำความเข้าใจจนทุกวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยระดับกองพันกองร้อยของทั้งสองฝ่ายก็ประสานพูดคุยกันจนทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ขณะนี้รอสัญญาณความพร้อมประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาคหรือ RBC ไทย-กัมพูชา จากผู้นำทางฝ่ายกัมพูชา เพราะในส่วนของไทยโดยเฉพาะ โดยส่วนตัวในฐานะประธาน RBC มีความพร้อมทุกวัน หากจะประชุมวันพรุ่งนี้ก็พร้อมเสมอ

“ เรารอแค่ทางกัมพูชาเป็นหลัก หากแจ้งกลับมาพรุ่งนี้หรือวันนี้ก็พร้อม เพราะเป็นประธานเอง ไม่ยากอะไร” แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาลาดตระเวนและมีการประชาสัมพันธ์เรื่องกระแสรักชาติของกัมพูชาว่า ถือเป็นเรื่องปกติ และทางไทยเองก็เชิญชวนให้ประชาชน มาเที่ยวชมปราสาทตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชา มีหลายปราสาทตั้งแต่ผามออีแดงจังหวัดศรีสะเกษ โดยยืนยันว่า 3 ปราสาท 1 พื้นที่ที่เป็นประเด็นคนไทยสามารถมาได้ทั้งหมด เพราะเป็นเขตของไทยอยู่แล้ว

พร้อมทำงานไม่ว่านายกฯเป็นใคร

สำหรับนโยบายปราบปรามคอลเซนเตอร์-สแกมเมอร์ จะส่งผลเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายรัฐบาล และความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่ปัจจุบันปัญหานี้ลดไปได้มาก มีความเข้มงวดในมาตรการเข้า-ออกด่าน และขอย้ำว่า กำลังตามแนวชายแดนก็ตอบสนองนโยบายรัฐบาล พร้อมย้ำว่าไม่กังวลประเด็นเสถียรของภาพรัฐบาล การเมืองต้องแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตย ในส่วนทหารพร้อมทำงานแม้ว่าจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นใคร และขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายชัดเจนและทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งทหารก็พร้อมจะตอบสนองอยู่แล้ว

ชายแดนดีขึ้นได้อีกหรือไม่อยู่ที่ผู้นำเขมร

แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า จากสถานการณ์ช่องบก 28 พฤษภาคมจนถึงวันนี้ สถานการณ์ดีขึ้นโดยมีการปรับกำลังที่ช่องบก รวมถึงมีมาตรการด่านเป็นการเสริมการทำงาน ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ

พร้อมยอมรับว่า สถานการณ์จะดีขึ้นอีกหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำกัมพูชาได้ว่า จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นได้หรือไม่ เพราะฝ่ายไทยไม่มีปัญหา โดยเฉพาะในประเด็น 3 ปราสาทกับหนึ่งพื้นที่ ที่ทางกัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทหารก็จะควบคุมพื้นที่อยู่เช่นเดิม

ฝากฮุนเซน-ฮุนมาเนตดูแลสุขภาพ

ส่วนจะมีประเด็นอะไรฝากถึงสมเด็จฮุนเซนและฮุนมาเนตหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า อยากให้ดูแลสุขภาพ และยังต้องการให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ แก้ปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของพี่น้องประชาชนทั้งไทยและกัมพูชา

ลั่นไทยมีกระสุนเต็มแม็ก

กรณีกองทัพไทยขอการสนับสนุนกระสุนจาก’จัสแมก’จนมีการวิเคราะห์กันว่า ไทยมีกระสุนไม่เพียงพอ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เรื่องจริง แต่มีการให้ข่าวที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อน โดยยืนยันว่า ทุกวันนี้มีเพียงพออยู่แล้ว พร้อมที่จะปกป้องประเทศชาติ พร้อมย้ำว่า ไทยมีกระสุนเต็มแม็ก

พล.ท.บุญสินยังกล่าวถึงการนัดพบพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาว่า พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตมีการนัดพบกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อเจรจาสัปดาห์ละ 3 วันคือ จันทร์ พุธ ศุกร์ โดยปราศจากอาวุธ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายไปในเชิงบวก ในทุกจุดของชายแดน โดยทหารในพื้นที่ไม่ต้องการปะทะหรือสู้รบ แต่ขึ้นอยู่กับผู้นำรัฐบาลที่ต้องไปพูดคุยกัน และส่งสัญญาณลงมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร

ย้ำทหารพร้อมปกป้องอธิปไตย100%

พล.ท.บุญสินกล่าวย้ำว่า ทหารไทยไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบอยู่แล้ว แต่ในฐานะหน้าที่ทหารก็ต้องปกป้องอธิปไตย และมีความพร้อม 100% มองว่าการประทะกันไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไร แต่หากจำเป็นก็ต้องปกป้องแผ่นดินไทย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าถ้าสถานการณ์เกิดขึ้นจะจบภายในสามวันหรืออาจเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยบอกเหตุหลายอย่าง และความเตรียมพร้อมจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง และย้ำว่ามั่นใจทุกอย่างจบก่อนเกษียณภายใน 2 เดือน

จี้เลิกMOU43ต้นเหตุเขมรเคลมตาเมือนธม

มีความเห็นจากนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รั้วไม้ที่หน้าปราสาทตาเมือนธม ที่รื้อรั้วไม้บริเวณหน้าตัวปราสาทตาเมือนธมออกไปเป็นผลงานจาก MOU43 และJBC กับคณะสำรวจร่วมไทยกัมพูชาดำเนินการแจ้งรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงสั่งผบ.ทบ. และสั่งการลงมายังแม่ทัพภาค 2 และกองกำลังสุรนารี ให้เอารั้วนั้นออก ขั้นตอนเป็นแบบนี้มาจาก MOU43 เลยปั่นป่วนตรงตาเมือนธมและพื้นที่อื่นๆตลอดแนวเขตแดนไทยกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีหมุดกัมพูชาที่เข้ามาปักหลังปราสาทตาเมือนโต๊ด เลยคลุมปราสาทตาเมือนธมนั้นไปด้วย ฝ่ายกัมพูชาจึงพยายามเคลมว่า ปราสาท 2 หลังนี้เป็นของกัมพูชา ฝ่ายไทยปักหมุดตรงหัวสะพานขอบหน้าผาด้านตะวันตกเฉียงใต้ของตัวปราสาทตาเมือนธม 20-25 เมตร จึงยึดถือหมุดนั้น

เราจึงต้องเลิก MOU43 ไงครับ เพราะสร้างแต่ปัญหา

อังเคิลเย้ยไทยทิ้งหินใส่เท้าตัวเอง

มีความเคลื่อนไหวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ระบุว่า ประเทศไทยทิ้งหินใส่เท้าตัวเอง ขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อทางการไทยและตำรวจไทย ที่ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ภายในประเทศของตน การปฏิบัติการนี้ช่วยลดการแพร่กระจายของอาชญากรรมไซเบอร์เข้าสู่กัมพูชา ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่ก่อนหน้านี้เติบโตอย่างไร้การควบคุมมาเป็นเวลานานในแผ่นดินไทย

ล่า‘ก๊กอาน’ก็ต้องสอบ‘ทักษิณ’ด้วย

ฮุน เซนกล่าวอีกว่า การรื้อเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ควรดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้ล่าช้ามาจนถึงปัจจุบัน เพราะในอดีต กัมพูชาต้องประสบปัญหามากมายจากอาชญากรรมที่มีต้นทางจากฝั่งไทย โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย ส่วนที่ทางการไทยปฏิบัติการตรวจค้นบ้านเครือข่ายของก๊ก อาน คนสนิทของฮุน เซนนั้น การที่ไทยปราบปรามและสอบสวน ก๊ก อาน เพราะเขาใกล้ชิดกับตน ดังนั้น กระบวนการยุติธรรมของไทยก็ควรสอบสวนนายทักษิณ ชินวัตรด้วย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่านายทักษิณสนิทสนมกับตนมาก ถึงขนาดห้องพักอยู่ในบ้านของตนด้วยซ้ำ