รอ‘อิ๊งค์’หมดชนักปักหลังสั่งลุยงานต่อ
‘ทักษิณ’โผล่แล้ว!
ซัดการเมืองไร้สาระ-ฉุดพัฒนา
อัดมท.เดิมไม่ให้ความร่วมมือ
ชอบอิจฉาริษยา/ไล่ไปเข้าวัด
ปัญหาใหญ่ปท./ไล่เข้าวัดบ้าง

“ทักษิณ”เปิดตัว ThaiWORKS ต่อยอดโอท็อป ดึงอดีต“หัวหอกซัมซุง”ร่วมพัฒนาขายของดีเมืองไทย โอดการเมืองไร้สาระ ฉุดการพัฒนา ฟาด“มหาดไทย”เดิม ไม่ร่วมมือ ฝาก“บิ๊กอ้วน”ขับเคลื่อน งานต่อ รอ“อิ๊งค์” หมดชนักลุยงานต่อ ลั่นความไม่สามัคคี -อิจฉา-ริษยา เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ขอให้เข้าวัดบ้างด้าน“คปท.”บุกสภาฯยื่นหนังสือคัดค้านนิรโทษกรรมสุดซอย ขณะที่“เท้ง”แนะสภารับหลักการวาระ 1 แล้วไปเจรจาความเห็นต่างในชั้นกมธ.

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางโชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ “Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond“ ภายในงาน SPLASH-soft power forum 2025 โดย นายทักษิณ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า จุดเริ่มต้นของโอทอปเกิดขึ้นในปี 2545 ซึ่งเริ่มมาจากเมืองโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นคนที่มาเล่ามาจากเจโทร ตนเติบโตที่ชินวัตรไหมไทย เห็นงานแฮนดิคราฟต์มาตลอด ไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ไปไม่ได้ไกลอย่างที่คิด ดังนั้นถ้าเรามีการออกแบบใหม่ๆ การดีไซน์ใหม่ๆและการตลาดดีๆ มันน่าจะไปได้ไกล ทำอะไรที่ชาวบ้านมีส่วนร่วม มีรายได้ เมื่อนั่งคิดอีซออีปิงของญี่ปุ่น เลยทำเรื่องนี้จริงจังและพบว่า ประเทศไทยมีความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือมีงานฝีมือชาวบ้านอยู่ทุกภาคซึ่งปรับได้ แต่ต้องยอมรับว่า ชาวบ้านยังคิดแบบชาวบ้าน มีฝีมือจริง แต่วัสดุไม่สามารถลงทุนได้ ไม่สามารถหาตลาดได้ ไม่สามารถออกแบบใหม่ๆได้ เราก็ต้องไปช่วย

ดึงหัวกระทิ’ซัมซุง’ช่วย’โอทอป’ไทย

นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนที่ตนอยู่เมืองนอก Peter Arnell ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์มาพบกับตน เป็นคนสร้างแบรนด์และทำงานกับ Samsung มาตลอด เลยชวนมาทำ ThaiWORKS ต่อยอดจากโอทอป ปีเตอร์บอกว่าผ้าพันคอแอร์เมสขายผืนละ 50,000 ผ้าพันคอไทยขายได้ 2,000 ทำไมเราไม่เอาลายของแอร์เมส ซึ่งมีทั้งอานม้า รถม้า ลูกม้าซึ่งเป็นลายของเขาซึ่งขายดี ซึ่งเรามีลายบ้านเชียง ซึ่งก็น่าสนใจ ตนมองสินค้าไทยในภาพรวมมีโอทอปเป็นสินค้าฐาน และสินค้าของเอสเอ็มอีเป็นสินค้าประกอบ ตนรู้ว่าโลกยุคนั้นต้องสร้างแบรนด์ แต่ว่าแต่ละบริษัทเล็กๆ หมด หากจะสร้างแบรนด์ต้องใช้เงินเยอะเพื่อนำไปสู่สากล ดังนั้นให้มาเกาะปีกแบรนด์ไทยแลนด์จึงจะสร้างแบรนด์ไทยแลนด์บายยี่ห้อใคร เมื่อแบรนด์แข็งแรงแล้วก็สร้างแบรนด์ตัวเอง จึงอยากจะไปทำร้านในเมืองใหญ่ๆ ในศูนย์ช้อปปิ้งทั้งหลายเพื่อเป็นโชว์รูมของประเทศไทย

รอ’อิ๊งค์’หลุดชนักกลับมาลุยทำงานต่อ

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 10 ก.ค.ตนจะเอาแนวคิดที่จะทำ Thai WORKS มาคุยกับปีเตอร์ โดยจะดูว่า อะไรที่จะนำไปลงหมู่บ้านชุมชน ก็จะฝากให้ รมว.มหาดไทย รมว.อุตสาหกรรมไปช่วยกัน วันนี้เอสเอ็มอีเรามีปัญหาเพราะโดนเอาของจีนราคาถูกมาขาย ซึ่งตนจะเชิญเอสเอ็มอีมาฟังเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นการขับเคลื่อนของ Thai WORKS จะลงไปใน 2 ระดับ ซึ่งระดับสู่ตลาดโลกนั้นเราจะใช้ทีมของปีเตอร์ซึ่งมีความกว้างขวางในวงการตลาดโลกพอสมควร รู้จักแบรนด์ต่างๆ ว่าเราจะผลิตป้อนแบรนด์หรือจะดีไซน์ร่วมอย่างไร หรือจะทำแบรนด์ของเราต่างหาก เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำต่อไป รอให้ท่านนายกฯ ได้กลับไปทำงานก่อน ตนเป็นคนใจร้อนตอนนี้ 76 ปีแล้ว ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน รีบๆทำเถอะ

ปี48การเมืองไร้สาระ-ละเลยเรื่องสำคัญ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าช่วงที่คิดเป็นช่วงปลายปี2548 เป็นช่วงที่การเมืองเริ่มยุ่งแล้ว บ้านเราเสียเวลาเรื่องการเมืองที่ไร้สาระมากกว่าเรื่องที่มีสาระ เลยทำให้เรื่องมีสาระถูกละเลยเป็นประจำ เป็นช่วงๆ เมื่อเจอปีเตอร์เลยอยากสานต่อเพื่อให้แนวคิดเป็นสากล ซึ่งตนเคยคิดว่าถ.ราชดำเนิน เป็นที่ทรัพย์สินกำลังจะหมดสัญญาตนบอกว่าหากเอาแบรนด์ไปใส่หนึ่งห้อง โอทอปหนึ่งห้องสลับกันไปมา ทำให้โอทอปได้เห็นพัฒนาการและปรับตัวเอง ใช้วัสดุดีๆ เพื่อให้ราคาเพิ่มขึ้นให้ปรับตัวไปเรื่อยๆ“และเป็นช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯแต่พอดีมีปฏิวัติเสียก่อนเลยต้องพักไป ตอนนี้กลับมาใหม่ จะเอาของเก่าที่ดีไซน์ไว้มารีเฟรชใหม่ และดูว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อ จำไว้ว่าตนเป็นรัฐบาลหรือไม่เป็นรัฐบาล ไม่มีเลิกทำ เพราะที่ทำทั้งหมดออกเงินเองเพราะต้องการให้เป็นโซเชียลเอนเตอร์ไพรซ์ของคนไทย ไม่ใช่ของการเมือง เพื่อให้การพัฒนาประเทศในด้านครีเอทีฟอีโคโนมีต่อเนื่องยาวนาน”นายทักษิณ กล่าว

ซัดมท.เก่าไม่ร่วมมือ-ฝาก’อ้วน’ขับเคลื่อน

‘วันนี้มันอยู่ที่การเอาจริงเอาจัง หากรัฐเอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็ร่วมมือ เมื่อข้าราชการร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ วันนี้กระทรวงมหาดไทยต้องร่วมมือเต็มที่ เป็นกระทรวงสำคัญที่จะนำนโยบายไปสู่ประชาชน นั่นคือผู้ว่าฯ นายอำเภอกำนันผู้ใหญ่บ้าน เขาอยู่ติดชาวบ้านที่สุด ถ้าเขาร่วมมือปุ๊บทุกอย่างจะขับเคลื่อนได้ คนที่ช่วยขับเคลื่อนคือกระทรวงมหาดไทยต้องมูฟ ปัญหาใหญ่ของประเทศ คือ ความไม่สามัคคี มีความอิจฉาริษยา ถ้าเราอยู่ด้วยความสามัคคี ไม่อิจฉาริษยาเกื้อกูลกัน Soft Power จะมีพลังมหาศาล ถ้าคนไทยมีสิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วจะสามารถสร้างพลัง Soft Power ได้หลากหลายสาขา หลากหลายช่องทางนั่นคือช่องทางทำมาหากิน แม้โลกจะมีเทคโนโลยีใหม่ ทันสมัยแค่ไหนก็หนีคำว่าSoft Powerไม่ได้creativeยังใช้ได้ในโลกใบนี้ ทุกอย่างต้องไม่ทิ้งแกนเดิม เรามีของดีอยู่แล้ว เรามีคนไทยถึงมีสายเลือดใน ต้องเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่สำคัญคือพอสร้างขึ้นพอคนนั้นเริ่มโต คนนี้มาอิจฉากัน ตรงนี้ต้องทิ้งไปบ้างเข้าวัดหน่อย” นายทักษิณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายทักษิณ พร้อม น.ส.แพทองธาร เดินชมบูธภายในงาน อาทิ บูธมวยไทย โดยผู้จัดงานได้มอบนวมหนึ่งคู่พร้อมกางเกงมวยให้กับนายทักษิณ และได้มอบนวมหนึ่งคู่ให้กับนางสาวแพทองธารด้วย ระหว่างนั้นมีแฟนคลับนำหนังสือ“คิดอย่างทักษิณ ชินวัตร Leader of Asia“ ซึ่งพิมพ์ครั้งที่สอง มาให้ นายทักษิณ เซ็นด้วย โดยแฟนคลับดีใจ พร้อมระบุว่า เก็บหนังสือเล่มนี้มานานแล้ว

คปท.บุกสภายื่นค้านนิรโทษสุดซอย

ที่รัฐสภา กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.เคลื่อนขบวนจากสะพานชมัยมรุเชฐมาที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ และคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายพิชิต กล่าวว่า มีเรื่องห่วงใยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรและ ร่างพรบ.นิรโทษกรรม ถึงแม้เมื่อวาน (8 ก.ค. 68) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถอดถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ก็ตามก็มองว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยังคงมีความเป็นห่วง เพราะก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่า จะเดินหน้าเรื่องนี้ต้องจับตาดูว่า อนาคตจะถอยทั้งหมดหรือไม่ อย่างไร ส่วนเรื่องร่างพรบ.นิรโทษกรรม วันนี้เป็นการยื่นเสนอยกแรก โดยเสนอขึ้น 3-4 ร่าง ซึ่งก็เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกสีเสื้อ ตนเองและกลุ่มมวลชนก็ได้รับผลประโยชน์กับร่างนิรโทษกรรมเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก คือความพยายามนำความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเมืองมาแฝงเข้าไปในการนิรโทษกรรม โดยเฉพาะมาตรา112 และการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงความผิดในทางอาญาที่มีผลต่อชีวิต หากมีการสอดไส้นิรโทษกรรมให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและนายทักษิณ ผู้ชุมนุมก็จะต่อต้านให้ถึงที่สุด

‘เท้ง’วอนรับหลักการพรบ.นิรโทษฯ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่อการประชุมสภาฯวันนี้ว่าสำหรับร่างพรบ.ต้องกำชับกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) หรือไม่ เนื่องจากหากมีการนับองค์ประชุมเกิดขึ้นในวันนี้ อาจทำให้ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมทั้ง4ฉบับ ยังไม่ได้ถูกพิจารณา ว่า ทุกพรรคเองให้ความสำคัญในการเดินหน้า พรบ.นิรโทษกรรม ฉะนั้นหากเราอยากจะเดินหน้า เรื่องการนิรโทษกรรม คืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมือง หรือการชุมนุมต่างๆ ก็ควรสร้างโอกาส สร้างบรรยากาศที่ดี ในการรับหลักการวาระที่หนึ่งทุกร่างไปก่อน

สภาฯเริ่มอภิราย’พรบ.นิรโทษ’5ฉบับ

เวลา 13.00น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ โดยมี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เข้าสู่การพิจารณาร่า พรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขและร่างพรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งมี ส.ส.และภาคประชาชนเสนอรวม 5ฉบับ 1.ร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ 2.ร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ.…. เสนอโดย นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม 3.ร่างพรบ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ.…. เสนอโดย พรรคประชาชน 4.ร่างพรบ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ.…. เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723คนและ5.ร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ.…. เสนอโดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นฉบับที่เสนอเข้ามาใหม่ และยังไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระ แต่ประธานในที่ประชุมอนุญาตให้นำมาพิจารณาในคราวเดียวกันได้

‘โรม’จี้การเมืองหันหน้ามาเจรจากัน

จากนั้นเป็นการอภิปรายเสนอในแต่ละร่าง โดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า การนิรโทษกรรมจำเป็นต้องเปิดกว้างให้มากที่สุดและไม่ต้องการเลือกปฏิบัติ ดังนั้น ในร่างกฎหมายของพรรคประชาชน จึงไม่ได้กำหนดฐานความผิด หรือคดีตามมาตราใด ขณะที่ช่วงเวลาไม่ได้กำหนดเวลาสิ้นสุด เพราะที่ผ่านมามีการใช้นิติสงครามเล่นงานประชาชนที่เห็นต่างและใช้เครื่องมือกฎหมายหลายรูปแบบ แต่ที่รุนแรงที่สุดคือประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 รวมถึงกฎหมายความสะอาด หรือการไม่พกบัตรประชาชน กลั่นแกล้งประชาชนที่เห็นต่าง การนิรโทษกรรมการเมืองจะสำเร็จได้ หรือใครจะได้รับการนิรโทษกรรมบ้าง สิ่งสำคัญ คือบรรยากาศการเมืองที่สามารถพูดคุยเจรจาของฝ่ายต่างๆได้

‘ภท.’ห้ามยุ่ง112-ทุจริต-อาญาร้ายแรง

ด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอเนื้อหาของร่างกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย ว่า ฉบับพรรคภูมิใจไทยหลักใหญ่นิรโทษกรรมผู้กระทำผิดจากการชุมนุมทางการเมือง เว้นไม่นิรโทษกรรมให้ 4กลุ่ม คือ กลุ่มทำผิดมาตรา112 กลุ่มทำผิดคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กลุ่มที่ถูกดำเนินคดีอาญาร้ายแรงถึงชีวิตและกลุ่มที่ก่อความเสียหายให้กับเอกชน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรม จะไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะกลุ่มคนการเมือง หนีไม่พ้นเกิดอคติ หรือเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีเพียงคนในกระบวนการศาลยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาระสำคัญของกลุ่มร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมืองนั้น พบว่า เนื้อหามีความคล้ายกัน คือ การนิรโทษกรรมทางการเมือง โดยให้มีกรรมการกลางขึ้นมาพิจารณาบุคคลที่เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม สำหรับคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรมนั้นมีความต่างและแยกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฉบับที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคคภูมิใจไทย ได้กำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนคือ ไม่นิรโทษกรรมคดีมาตรา112 ขณะที่ฉบับของพรรคประชาชนและฉบับที่เสนอโดยภาคประชาชน รวมการนิรโทษกรรมคดี112 ไว้ด้วย

ภท.ซัด’อ้วน’ต้องเด้งผู่ว่าฯทั้งประเทศ

ที่รัฐสภา ในประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าประธานการประชุม ในช่วงเปิดให้หารือความเดือดร้อนของประชาชนก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่ง ว่า ขอฝากไปถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะที่ท่านรับผิดชอบดูแลกระทรวงมหาดไทย (มท.) อยากให้ท่านบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนทั้งประเทศ อย่ามัวคิดล้างแค้นเลย และแม้ท่านจะบอกว่าไม่ได้ล้างแค้น แต่อธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ท่านย้ายภายในอาทิตย์หนึ่ง เป็นเพราะมาจาก จ.บุรีรัมย์ใช่หรือไม่ ถ้าคิดว่าจะย้ายคนที่อดีต รมว.มหาดไทย หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.แต่งตั้ง ท่านจะต้องย้ายผู้ว่าฯทุกจังหวัด ย้ายนายอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งจะทำให้ท่านเสียเวลา อย่างอธิบดีกรมการปกครองเหลือเวลาอีกเพียง 2เดือน ก็จะเกษียณ วันที่ท่านรับตำแหน่งวันแรก อธิบดีกรมการปกครองคนนี้นำกำลังไปทลายบ่อนแถวสายไหม จับนักพนันได้จำนวนมาก แล้วอะไรที่เขาไม่รับสนองนโยบายของท่าน อยากให้มีจิตใจที่เป็นธรรม และเป็นมนุษย์บ้าง

‘อนุทิน’การันตี2อธิบดีมท.ผลงานดี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ในฐานะอดีตรองนายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีคำสั่งโยกย้าย นายไชยวัฒน์จุนถิระพงษ์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และนายนฤชาโฆษาศิวิไลย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งสองราย โดยระบุว่า”เป็นอำนาจของรัฐมนตรี ผมก้าวก่ายไม่ได้ ยุคใครยุคมัน” ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำถึงผลงานของสองอธิบดีนี้ว่าเป็นอย่างไร นายอนุทิน ระบุเพียงว่า “ผลงานดีครับ” เมื่อถามถึงการที่มองว่า เป็นเด็กจากบุรีรัมย์ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครพูดก็พูดกันไป แต่เขาคือข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์ สุจริต