ขาประจำ’ออกโรงรุมถล่ม‘ทักษิณ’

ไร้สำนึก-หลงตัวเอง

‘เทพไท’เย้ย‘ขายฝัน-แก้ตัว’

‘จตุพร’คาใจถอนก.ม.กาสิโน

‘หมอวรงค์’ซัดไม่เห็นหัวปชช.

“จตุพร”จับพิรุธ“ทักษิณ”โผล่เคลียร์ทุกปมร้อน ชี้ถอนกาสิโน-โชว์ซอฟต์พาวเวอร์-ซัดฮุนเซนแตกหักสัมพันธ์ 30 ปี เกิดในวันเดียวไม่ใช่บังเอิญ แนะคนไทยจับตาท่าทีฮุนเซน ถ้าไม่ฟาดกลับอาจมีดีลลับถอน“กาสิโน”แลก“เทพไท”ซัด“ทักษิณ” หลงยุค-หลงตัวเองเย้ย “ขายฝัน-แก้ตัว” ทั้งสิ้น ชี้วิสัยทัศน์ ไม่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล “หมอวรงค์” ซัด’ทักษิณ’ไร้สำนึก-ไม่เห็นหัวปชช.เปิด5ประเด็น ตอกกลับ’ขาประจำ’คือคนหวังดี เตือนให้มีสำนึก ทำดีเพื่อชาติในบั้นปลายชีวิต’หมอพรทิพย์’ซัดกรรมกำลังไล่ล่า’คนทำร้ายแผ่นดินเกิด-ลูกตัวเอง’’นักข่าวอาวุโส’ซัด’ทักษิณ-ตระกูล’ต้นตอปัญหา ‘เพื่อไทย’อวย‘แม้ว’พูดทำให้เห็นภาพมากขึ้นย้ำจุดยืนไม่นิรโทษม.112 ยึดร่างรทสช.เป็นหลักร่วมกันเดินหน้าประเทศ รับเสียงรบ.ปริ่มน้ำ‘วิสุทธิ์’ขู่กางชื่อคนโดดประชุม

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยตั้งข้อพิรุธกับการเคลื่อนไหวของทักษิณ ชินวัตร ที่บังเอิญหลายเรื่องเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทั้งถอนร่างพรบ.เอนเทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือบ่อนกาสิโน โชว์วิสัยทัศน์เวทีโอท็อปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และแสดงความเห็นผ่าทางตันการเมืองที่เวทีเครือเนชั่นเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น

‘จตุพร’จับพิรุธ‘ทักษิณ’เคลียร์ทุกปม

นายจตุพรมองว่า สิ่งสำคัญการปรากฎตัวและเกิดสถานการณ์ในวันเดียวถึง 3 เหตุการณ์ คือ การพูดซอฟพาวเวอร์เพื่อยกระดับชื่อ รมว.วัฒนธรรมที่เป็นลูกสาวและการเคลียร์เรื่องราวต่างๆรวมถึงความน่ากังขาภายใต้การถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโน และประกาศตัดความสัมพันธ์พี่-น้องกว่า 30 ปีกับฮุนเซน เพราะทำให้ นายกฯ อุงอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เสียหาย ดังนั้น การออกโงครั้งนี้ ดูเหมือนทางการเมืองไม่ใช่เรื่องโดยบังเอิญ แต่น่าสงสัยว่า ได้จัดวางเตรียมการและจัดฉากที่สมจริงสมจังมากที่สุดถ้าเป็นการเล่นละครแล้ว คงเล่นได้เนียนๆกันมาก จึงเตือนคนไทยอย่าเพิ่งหลงเชื่อกับมายาภาพการเมืองเช่นนี้ของทักษิณ ให้เฝ้ารอดูอาการอีกสักพักว่าจะเกิดแรงกระแทกตามมาจากฝ่ายฮุนเซนและกัมพูชาหรือไม่

ถอนกาสิโนหวังแลกเปลี่ยนอะไร?

“ถ้าฮุนเซนเงียบจึงน่าสงสัยว่าการถอนร่างกาสิโน เป็นการแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่ซึ่งไม่ได้ว่าใคร เป็นเพียงตั้งข้อสังเกต เหมือนหลังเหตุการณ์ปี 53ที่เราไปรบ แต่ทุกคน (ที่ต่อสู้กัน) ไปอยู่ในห้องเดียวกันที่ฮ่องกง ผมตกใจและคาดไม่ถึงเลยว่าเป็นพวกเดียวกัน แล้วไปรบเสี่ยงตายกันทำไม”นายจตุพร ย้ำ

พร้อมสงสัยว่าทักษิณเลือกมาแตกหักและเคลียร์ทุกเรื่องราวในวันเดียวกันนั้น สิ่งสำคัญต้องรอเฝ้าดูอาการของฮุนเซนด้วย ถ้ายังเงียบกริบก็เข้าใจว่ามีการแลกกับกาสิโนหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดมันจะมาบังเอิญอะไรในวันเดียวกัน ถ้าฮุนเซนซัดกลับแสดงว่าไม่ได้แลกผลประโยชน์กัน

ปลุกปชช.จับตาอย่าเพิ่งวางใจแตกหัก

นายจตุพรกล่าวว่าประชาชนไม่ควรผลีผลามกับฉากการเมืองที่เกิดขึ้น ยิ่งการอ้างเหตุถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนเพราะมี ครม.เข้ามาใหม่ ซึ่งฟังไม่ขึ้นเลย หรืออ้างทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ดีพอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกศึกษาและทำความเข้าใจกับประชาชนมาดีแล้ว ขนาดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เคยเตือนไว้ก็ยังไม่ถอน ดังนั้นรอบนี้เราอย่าโง่ ต้องเฝ้ารอดูกันต่อไป

ส่วนกรณีคลิปเสียงนายกฯ อุ๊งอิ๊งกับฮุนเซน หลุดนั้น ทักษิณ บอกกัมพูชาโทรศัพท์มาหานายกฯอุ๊งอิ๊งเอง ซึ่งขัดกับคำพูดของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง และคนเข้าใจว่า ผอ.ฮวด ลามและคนสนิทของฮุนเซน อยู่กัมพูชา แต่ทักษิณบอกอยู่ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ ดังนั้น อย่าเพิ่งเชื่อว่า ทักษิณ จะแตกหักฮุนเซน เพราะการพูดของทักษิณนั้นรุนแรงมาก ย่อมทำให้ฮุนเซนโกรธแน่นอน

จี้ฮุนเซนเปิดชื่อ7นักการเมือง-ปล่อยคลิป

นายจตุพรยังเรียกร้องว่า ถ้าไม่เป็นมายาการเมือง ฮุนเซนต้องเปิดรายชื่อ 7 นักการเมืองฝากเงินในกัมพูชา และทยอยปล่อยคลิปเสียง มีกี่คลิป เปิดมาเลยวันละคลิป แต่ถ้าฮุนเซนเงียบกริบแสดงว่า แลกกับกาสิโน และมองว่าแม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถอนร่างพรบ.กาสิโนไปแล้ว แต่การพนันออนไลน์ยังเถื่อน ไม่ถูกกฎหมายและไทยยังไม่ปราบปรามอย่างจริงจัง โดยปล่อยให้คนไทยตกเป็นเหยื่อเล่นกันอยู่นั้น จึงเข้าข่ายน่าสงสัยที่สุด ส่วนรายได้หลักกาสิโนอีกอย่างคือการฟอกเงิน

“ถ้าพรุ่งนี้(10 ก.ค.)สมเด็จฮุนเซน ฟาดกลับตั้งแต่เช้า เปิดเผย 7รายชื่อนักการเมืองพร้อมจำนวนเงินเท่าไร เข้ามาอย่างไร มีคลิปอย่างไร ผมว่าเราจะเห็นสงครามการเมืองของ 2 ครอบครัวดุดันขึ้น เป็นศึกล้างแค้นกันของตระกูลชินกับฮุนเซน แตว่าถ้าไม่มีอะไรเลย คงคิดเป็นอื่นไม่ได้แล้วว่า มีการแลกผลประโยชน์หลังฉากกันหรือไม่”

ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างทักษิณกับฮุนเซนยังดีกันอยู่ ย่อมสงสัยอีกว่าทักษิณบอกมีการวางแผนอัดคลิปนั้น มาจากสาเหตุอะไร แล้วอยู่ดีๆมาถอนร่าง พรบ.กาสิโนจึงเป็นเรื่องแปลก ยิ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกก่อนหน้านี้ว่าประธานาธิบดีจีนเตือนถึง3ครั้ง จนส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปถึง 90%แต่นายกฯอุ๊งอิ๊ง ยังไม่ฟัง

จับตาแม้วย้ำการเมืองไม่ถึงทางตัน

ส่วนความร่วมมือกับพรรคประชาชนหรือพรรคส้มหรือไม่นายจตุพร กล่าวว่า คำพูดของทักษิณมักเน้นบอกช่วงเวลาว่า“ตอนนี้”จะไม่ร่วมและอ้างยึดหลักการจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายให้กับสถาบันกษัตริย์ เท่ากับเหน็บแนม แดกดันพรรคประชาชนอีกครั้งหนึ่ง

อีกทั้งย้ำว่าการเมืองรอบนี้มีความน่าสงสัยทุกเรื่องราวรวมทั้งคำประกาศเป็นนายกฯของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ คนที่สามของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการเมืองถึงทางตันหรือไม่ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แต่ต้องเข้าใจว่า ทักษิณ พูดเน้นถึงแต่การเมือง“ตอนนี้” และสิ่งสำคัญต้องจับตาฮุนเซนจะเงียบและใช้การเมืองท่าหมอบกราบหรือไม่กับอาการดุดันท่ารบของทักษิณ

เมื่อทักกษิณเน้นคำว่า“ตอนนี้”ไม่เป็นเพื่อนกันแล้ว จะเชื่อถืออะไรกับคำพูดแบบนี้เพราะแต่ก่อนด่าพรรคประชาธิปัตย์แล้วถูกซัดกลับจนเสียผู้เสียคนก็จับมือกันได้ โจมตีพรรคภูมิใจไทย ด่าไล่หนูตีงูเห่ายังจับมือตั้งรัฐบาลกันได้ แล้วกล่าวหาพรรครวมไทยสร้างชาติ และกับพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับด่าเพ้อเจ้อ เลอะเทอะรวมถึงด่ากับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ทุกเรื่องราวเหล่านี้ มันไม่มีอยู่จริงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันเลย

ไม่เพียงเท่านั้น ในอดีตเคยประกาศกับคนเสื้อแดงว่า เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจะเข้ามานำการต่อสู้ แต่ทหารยิงไป 2 แสนกว่านัด ประชาชนตายเป็นร้อยก็ไม่เข้ามา แล้วยังถีบหัวเรือส่งขึ้นฝั่ง ซึ่งทุกอย่างที่พูดมันมีข้อสรุปอย่างเดียวว่า ไม่น่าเชื่อถือเลย

ย้ำสิ่งไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นวันเดียวกัน

“วันนี้สิ่งไม่น่าเชื่อถือมันบังเอิญเกิดขึ้นในวันเดียวกันอีกคือวันที่ถอยในเรื่องบ่อนกาสิโน แล้วซัดกลับเอาคืนในหลายอย่างพอหอมปากหอมคอ การเมืองมันแสดงมายากันแบบนี้ มีบางครั้งอยู่ในห้องกระแทกกันรุนแรง ออกนอกห้องหัวเราะกันคิกคักให้คนเห็น ดังนั้นถ้ากัมพูชาไม่เล่นเกมหนักฟาดกลับ มีคลิปก็ไม่เปิด มีรายชื่อก็ไม่ทำ อันนี้น่าสงสัยว่าสำเร็จแล้วเพราะบ่อนกาสิโนเลิกไปแล้ว”

นายจตุพรกล่าวว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้ ตนไม่ต้องการให้คนไทยตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่จนวิตกจริตกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะในอดีตเรื่องแบบนี้ ตนเคยเห็นและถูกกระทำมาหลายครั้งครา จนไม่รู้ว่าอะไรเท็จอะไรจริง ดังนั้น เพื่อความถูกต้องแล้ว ต้องไม่เชื่อไว้ก่อน

‘เทพไท’ซัด‘แม้ว’หลงยุค-หลงตัวเอง

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง ระบุว่า...ทักษิณ:หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัวผมได้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใน 2เวที 2 สถานที่ คือ เวทีSPLASH-Soft Power Forum 2025 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กับที่เวที Exclusive Talk ผ่าทางตัน ของเครือเนชั่น ประเด็นที่นายทักษิณได้แสดงวิสัยทัศน์เรื่องซอฟพาวเวอร์และตอบคำถามของพิธีกรดำเนินรายการในเวทีผ่าทางตันการเมืองไทยพอที่จะสรุปประเด็นการแสดงวิสัยทัศน์ได้ดังนี้

1.นายทักษิณยังเป็นคนหลงยุค ยังคิดว่าประเทศไทยยุคนี้ เหมือนกับ20ปีที่แล้ว สมัยที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ยังใช้แนวความคิด“คิดใหม่ทำใหม่ ตามองดาวเท้าติดดิน”อยู่ซึ่งในความเป็นจริงโลกเปลี่ยนไปมาก ยุคนี้เป็นยุคดิจิตัลเป็นยุคโลกโซเชียล นายทักษิณยังจมปลักกับแนวความคิดเดิมๆอยู่ 2.นายทักษิณยังหลงตัวเอง พยามพูดถึงความสำเร็จและผลงานในอดีต ขุดผลงานในอดีตมาขาย ตั้งแต่เรื่องโอท๊อป เรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หรือการแก้ปัญหาต่างๆของรัฐบาลในยุคนายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาเทียบกับยุคนี้ไม่ได้ พยายามที่จะเอาผลงานในอดีตมากลบเกลื่อน และเรียกความเชื่อมั่นให้รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ฉะแรงวิสัยทัศน์‘ขายฝัน-แก้ตัว’

3.นายทักษิณขายฝัน เห็นจากการพูดถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องกำแพงภาษีของโดนัลทรัมป์ บอกว่าใจเย็นๆมีทางออก อย่าตกใจ พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องใช้เวลา เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คุมกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค การทำงานก็ต้องบูรณาการ และก็ต้องค่อยๆคิด ส่วนเรื่องความมั่นคง บอกว่าการแก้ปัญหาชายแดนไม่มีเหตุรุนแรง

4.นายทักษิณพูดแก้ตัว จะเห็นได้จากการพูดแก้ตัวเรื่องกรณีคลิปหลุดของสมเด็จฮุนเซ็นเรื่องรัฐบาลพรรคเพื่อไทยชุดนี้ได้ส.ส.มาน้อย ทั้งที่ข้อเท็จจริงได้ยกกระทรวงทางเศรษฐกิจให้กับพรรคร่วมทั้งหมด พรรคเพื่อไทยยึดกระทรวงที่ใช้อำนาจทางการเมืองเป็นหลักเช่นกระทรวงมหาดไทยพยายามพูดดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทยไม่ยอมรับเงื่อนไขในการแลกกระทรวง พูดถึงเรื่องการฮั้วส.ว.พูดถึงลูกชายนักการเมืองไปประกาศว่าพ่อจะเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคมนี้ พูดถึงทางออกของรัฐบาลชุดนี้โดยการข่มขู่ว่าถ้านางสาวแพทองธารไปต่อไม่ได้ จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าเจอทางตันก็ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่สิ่งที่คุณทักษิณพูด สรุปได้ว่า “หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัว” ทั้งสิ้น

‘วรงค์’ซัด’แม้ว’ไร้สำนึกไม่เห็นหัวปชช.

ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อระบุว่า“ขาประจำ”ผมได้ยินนายทักษิณพูดคำว่า”ขาประจำ”บ่อยครั้งมาก เมื่อตัวเองได้มีโอกาส แสดงวิสัยทัศน์ แม้แต่ล่าสุดก็จะพูดถึง”ขาประจำ”บนเวที คำคำนี้ถ้าฟังผิวเผิน เหมือนกับตนเองทำดี ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชน แล้วมีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ชอบตนเองหรืออิจฉาก็จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ให้ร้าย เพราะอคติ ผมคิดว่า ถ้านายทักษิณทำใจให้กว้าง รับฟังมุมเห็นต่าง นายทักษิณอาจจะหูตาสว่างขึ้น ปรับชุดความคิด สามารถนำความรู้ความสามารถ มารับใช้ประเทศชาติได้ ถามจริงๆว่านายทักษิณไม่รู้ตัวจริงๆหรือว่าสิ่งที่ตนเองทำไปนั้นมันถูกต้องเพื่อประชาชนจริงหรือ

“ผมกลับมองว่ามันไม่ใช่ สิ่งที่คุณทำ มันเป็นการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน มองประชาชนโง่ สิ่งที่คุณทำ เหมือนคนที่ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความละอาย อยากทำอะไรก็ทำ ไม่เกรงกลัวกฏหมาย ใช้อภิสิทธิ์ พูดแบบชาวบ้านคือ “กูไม่แคร์” คนที่เขารักความถูกต้อง เขารับไม่ได้ต่อพฤติกรรมของคุณ เขาจึงส่งเสียงออกมาให้คุณรู้ตัว และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมาก ก็ไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ของคุณ ที่สำคัญ คุณทำในสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่างกรรมต่างวาระ”นพ.วรงค์ระบุ

ยัน‘ขาประจำ’คือคนหวังดีเตือน

นพ.วรงค์ระบุอีกว่าคนกลุ่มที่รู้ทันคุณก็ออกมาเตือนด้วยความหวังดี ให้คุณปรับปรุง ให้คุณมีสำนึก แต่คุณกลับไปเรียกคนกลุ่มนี้ว่า”ขาประจำ”เพื่อให้เห็นรูปธรรม ในพฤติกรรมของคุณ1.การป่วยที่ชั้น14 จนสังคมตั้งข้อสงสัย ว่ามีการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ เพื่อช่วยเหลือ ไม่ต้องอยู่ในเรือนจำนานถึง 6 เดือน จนแพทยสภามีมติลงโทษจริยธรรมของแพทย์ และขณะนี้ก็มีการไต่สวนในชั้นศาลฎีกา คนปกติเมื่อสังคมตีแผ่ความจริง คุณต้องรู้สึกละอายกันบ้าง แต่ดูแล้วคุณไม่สำนึกอะไรเลย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกคุณด้วยว่า การให้ปากคำของพยาน ต่อศาลในคดีนี้ ยิ่งเห็นทิศทางของคดี ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย

ซัดดึงดันกาสิโน-ปมร้อนคลิปเสียง

2.นโยบายกาสิโนดูแล้วคุณมีส่วนเจ้ากี้เจ้าการให้รัฐบาลอุ๊งอิ๊งผลักดันนโยบายนี้เพื่อมอมเมาประชาชน ถึงขนาดผู้นำจีนเคยเตือนถึงสามครั้ง ภาคประชาชนออกมาคัดค้านอย่างเต็มที่ แถมไม่ใช่นโยบายหาเสียง สุดท้ายนโยบายนี้ก็ไปไม่รอด คุณคิดว่า ประชาชนที่ออกมาคัดค้านคือ”ขาประจำ”หรือ 3.กรณีคลิปเสียงที่ฮุนเซนปล่อยออกมา มันยิ่งสะท้อนถึง ชุดความคิดของอุ๊งอิ๊ง และความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกระหว่าง ครอบครัวกับประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และอธิปไตยของชาติ ส่วนนี้ยังไม่นับรวม เรื่องพื้นที่ทางทะเลที่คุณพูดบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์ และอุ๊งอิ๊งก็ไปพูดว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอยก็แบ่งกันคนละครึ่ง คุณคิดว่าประชาชน เขาตามพวกคุณไม่ทันหรือ? สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไปไม่รอด 4.การกล่าวอ้างถึงเบื้องสูง คุณไม่รู้ตัวเลยหรือว่า คุณชอบอ้างเบื้องสูงบ่อยมากไม่ว่าจะเป็นพระมหากรุณาธิคุณ พระเมตตา คำต่างๆเหล่านี้ ประชาชนฟังแล้ว กลับมองคุณไม่ดี คุณมีส่วนทำให้เกิดการระคายเคือง แต่ดูคุณไม่มีสำนึกใดๆ

อัดยับคนไม่อยู่กับร่องกับรอย

5.ความไม่อยู่กับร่องกับรอย พูดดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ภาษาชาวบ้านบอกว่าพูดไปเรื่อย ทั้งๆที่ในพระบรมราชโองการ คุณยอมรับผิด สำนึกผิด ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม คุณก็มาพูดตอนหลังว่าถูกยัดข้อหา คุณเคยโจมตีนโยบายแจกเงินว่าไม่มีสมอง สุดท้ายคุณก็ทำ เคยบอกว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลาน แต่สุดท้ายกลับมาสร้างความวุ่นวาย นี่เป็นตัวอย่างของความไม่อยู่กับร่องกับรอย ความจริงเรื่องที่คุณทำ มีนักวิชาการเขียนเป็นหนังสือได้เป็นเล่ม ผมเพียงต้องการเตือนสติให้คุณรู้ตัวว่า คุณคือนักโทษคดีทุจริต ที่ได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษ คุณควรต้องมีสำนึกมากกว่านี้ ที่เขียนครั้งนี้ต้องการเตือนสติคุณ โดยไม่มีอคติใดๆ เผื่อคุณจะมีสำนึก ทำดีให้กับชาติบ้านเมือง ในบั้นปลายชีวิต และเชื่อว่า”ขาประจำ”จะหมดไป แถมท้ายอีกนิดครับ ผมคิดว่าลูกสาวคุณ “ไม่ได้เรื่อง” ควรกลับไปเลี้ยงลูกได้แล้ว

‘หมอพรทิพย์’ซัดกรรมกำลังไล่ล่า

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตผู้อำนวยการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ก่อนออกเดินทางขอโพสต์มุมมองต่อสิ่งที่น่าจะใกล้จุดจบ ได้เห็นพิธีกรสื่อช่องหนึ่งอวยมาสักพักจนมาทำหน้าที่สัมภาษณ์ก็ให้รู้สึกว่าเออหนอเงินทำได้ทุกอย่าง พอเมื่อวานมีการออกมาสำแดงหน้าจอ ก็ใช้วิธีฟังสรุปแทนเพราะให้รู้สึกสงสารสมเพช และดีใจที่กรรมทำงาน ฟังแล้วคุมใจไว้อย่าโกรธ อย่าแช่งให้เปลืองใจเรา นี้คือเรื่องราวของคนที่ทั้งตาและใจไม่เห็นธรรม กอบโกยให้ตัวเอง ทำร้ายแผ่นดินเกิด ทำร้ายลูกตัวเองแต่ก็โทษคนอื่นหมด คนชั่วทั้งหลายดูไว้ กรรมกำลังไล่ล่า ทางออกประเทศไทยชัดเจนคนชั่วกำลังถูกจัดการ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ฟังผ่านๆไปถ้าหนักใจ #รักแผ่นดินเกิด

ซัด’ทักษิณ-ตระกูล’ต้นตอปัญหา

นายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊ก “Thepchai Yong” ระบุว่า ได้ฟังที่ทักษิณพูดในเวทีที่เครือเนชั่นจัดให้มาแสดงวิสัยทัศน์แล้วก็สรุปได้ไม่ยากว่าแกมองว่าคนอื่นเป็นปัญหาของประเทศไทย แต่ไม่เคยสำนึกเลยว่าตัวแกเองและคนในตระกูลของแกต่างหากคือต้นตอของปัญหาของประเทศนี้(ยังน่าสงสัยว่าแกชอบอะไรเป็นพิเศษกับเดอะเนชั่นถึงได้ไว้วางใจให้เป็นเวทีเพื่อพูดในสิ่งที่แกอยากจะพูดมาตลอด)

พท.อวย‘แม้ว’พูดทำให้เห็นภาพมากขึ้น

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯร่วมเป็นแขกรับเชิญและโชว์วิสัยทัศนทางการเมืองในรายการผ่าทางตันประเทศไทยว่าสิ่งที่เราได้ฟังนายทักษิณพูดบนเวทีคือประเทศไทยและการเมืองไทยไม่ถึงทางตัน ทุกปัญหามีทางออกและในทางออกก็เห็นฉากทัศน์จากนี้ไปคือ1.หากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรมว.วัฒนธรรม รอดก็กลับมาปฎิบัติในหน้าที่นายกฯต่อยาวๆ 2.หากไม่รอดก็จะมีการโหวตเลือกนายกฯใหม่คือนายชัยเกษม นิติสิริ ที่เราทุกคนก็เห็นว่าท่านแข็งแรง และ3.หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่มีใครอยากให้เกิดคือการยุบสภาฯ โดยสิ่งที่เราได้ฟังเพิ่มเติมคือนายทักษิณไม่ได้มองปัญหาเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้แต่ท่านมองปัญหาเป็นสิ่งที่ต้องท้าทายในการแก้ไขปัญหา

“การที่นายทักษิณออกมาเมื่อวันที่10ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ก็ทำให้คนที่รอมองว่าการรอคอยสิ้นสุดลง และท่านก็เล่าหลายเรื่องที่คนตั้งคำถาม ซึ่งท่านคืออดีตนายกฯ เป็นกองเชียร์ของรัฐบาล ฉะนั้นสิ่งที่นายทักษิณพูดคนที่ติดตามการเมืองก็จะเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น”นายอนุสรณ์ ย้ำ

ยอมรับเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำจริง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านมองว่า การที่รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากการพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากกลัวเสียงไม่เพียงพอว่า เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า เสียงเราพอ หากรัฐมนตรีที่เป็นสส. รวมถึงสส.รัฐบาลทั้งหมดมาประชุม เสียงเราก็เพียงพออยู่แล้ว และยอมรับว่า เสียงฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำแต่ย้ำว่าหากรัฐมนตรีที่เป็นสส.รวมถึงสส.รัฐบาลทั้งหมด อย่างไรก็โหวตกฎหมายผ่าน แม้จะผ่าน10หรือ20เสียงก็ถือว่าผ่าน ไม่เป็นอะไร ถามว่า มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังห่วงอยู่ จะบอกว่าไม่เป็นห่วงไม่ได้ แต่หากทุกคนมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง สส.ทุกคนมาทำหน้าที่ในสภาฯ ก็ไม่น่าเป็นห่วง อะไร

ขู่พร้อมเปิดชื่อคนโดดประชุม

“เหมือนที่ผมเคยพูดไปหากวันไหนที่องค์ประชุมสภาฯล่มก็ขอให้มีการเปิดชื่อสส.คนไหนบ้างที่โดดหรือประชุมสภาฯ โดยไม่เว้นว่าจะเป็นพรรคไหนรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย ประชาชนจะได้รู้ว่าแค่สัปดาห์ละสองวันก็มาทำงานไม่ได้ ต่อไปก็อย่าเป็นเลย ประชาชนจะได้รู้กำพืดว่าใครเป็นอย่างไร” นายวิสุทธิ์ กล่าว เมื่อถามว่า หากเปิดชื่อจะมีปัญหาในการทำงานร่วมกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่สนใจจะเปิดชื่อให้ทุกคนได้ตรวจสอบ ประชาชนจะได้ทราบรวมถึงสื่อมวลชนก็อยากทราบว่าใครบ้างที่โดดประชุมสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นสส.หรือรัฐมนตรี ก็อยู่กันเช่นนี้ อยู่ได้ ไม่เป็นอะไร และขอประชาชนอย่าเชิญสส.ไปร่วมงานในวันพุธหรือวันพฤหัสบดี แต่ให้เชิญไปวันเสาร์ และวันอาทิตย์ เพื่อที่สส.จะได้มาทำงานในสภาฯ

‘พท.’ย้ำจุดยืนไม่นิรโทษความผิด112

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงท่าทีของพรรค ต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมจำนวน5ฉบับว่าเรื่องนี้พรรคพท.เคยเสนอไปแล้วและมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะช่วยคนนั้นคนนี้ซึ่งไม่เป็นความจริง เราเพียงต้องการให้การเมืองเดินหน้าไปได้โดยไม่นิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตหรือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112แต่เพื่อให้สามารถเดินไปได้เราจึงถอนร่างของพรรคพท.ออกทำให้ขณะนี้จะพิจารณาอยู่5ร่าง

แย้มรองปธ.2โควตาพท.สส.อีสาน‘

ประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงการโหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2หลังนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลาออกจากตำแหน่งว่ายอมรับว่าด้วยเสียงที่ปริ่มน้ำก็ยังมีบางกลุ่มหรือบางพรรคอยากได้ ยืนยันว่าขณะนี้ยังเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย แต่ต้องให้ผู้ใหญ่ในพรรคที่ไปดีลกันไปคุยกันให้จบก่อน ไม่มีปัญหา เพราะการเลือกรองประธานสภาฯคนที่2 ใช้เวลาไม่มาก ยังไม่ได้คุยกัน หากพรรคได้ก็ต้องเป็นโควตาภาคอีสาน เพราะภาคเหนือมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 อยู่แล้ว