ปรากฏกายออกสื่อสาธารณะเป็นทางการครั้งแรก หลังเกิดกรณีเผยแพร่คลิปเสียงระหว่าง “หลานอิ๊งค์ - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทย และรมว.วัฒนธรรม กับอังเคิล “ฮุน เซน” ที่ทำเอาคนไทยสตั้นไปทั้งประเทศกับวลีเด็ด “อังเคิลจะเอาอะไรก็บอกมา”
อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเวทีที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงาน SPLASH soft power forum 2025 โชว์วิสัยทัศน์หัวข้อ "Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond"
ก่อนเดินทางไปโรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ในฐานะแขกรับเชิญ รายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ค กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งสองเวทีนายทักษิณร่ายยาวยิบยับ ตอบทุกคำถาม แสดงความเห็นทุกประเด็น รวมความฟังได้ว่า นายทักษิณมองประเทศไทยตอนนี้เสียเวลาไปกับการเมืองที่ไร้สาระ พร้อมชี้ปัญหาใหญ่ของประเทศคือ “ความไม่สามัคคี” มีความ“อิจฉาริษยา” เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ส่วนสถานการณ์รัฐบาลที่หลายคนเป็นห่วงเสียงปริ่มน้ำ จะเป็นทางตันทางการเมือง แต่นายทักษิณมองต่างมุมว่า ยัง เขาเชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรเกินกว่าจะแก้ไขได้!!!
และยืนยันเป็น “สทร.” เหมือนเดิม ส่วนจะมีบทบาททางการเมืองมากขึ้นหรือไม่ ถ้าจำเป็นก็ต้องมีมากๆ ก็ขอให้บ้านเมืองไปรอด ส่วนทัวร์จะลงก็ไม่เห็นเป็นไร พร้อมย้ำ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ “ถ้าผมไม่เสือก แล้วใครจะเสือก ปัญหาบ้านเมืองแบบนี้อยู่เฉยไม่ได้”
ส่วนประเด็นคลิปเสียงของลูกสาวกับอังเคิลฮุน นายทักษิณยังมั่นใจข้อกฎหมายข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์ใจของ น.ส.แพทองธาร เชื่อว่าศาลจะรับฟังเหตุผลข้อเท็จจริง เราอธิบายได้ทุกประเด็น
นายทักษิณสรุปความสัมพันธ์กับ “ฮุน เซน” ตอนนี้สะบั้นสิ้น กลายเป็นคนเคยนับถือกันเป็นพี่น้อง ส่วนความเป็นเพื่อนน่าจะต่างคนต่างลืมชื่อกันไปแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นยังเปิดฉากแฉเบื้องหลังที่มาของคลิปเสียงสะเทือนแผ่นดินละเอียดยิบ จนลูกสาวตัวเองต้องติดกับดัก ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับช็อกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร “ทำลูกผมขนาดนี้ ผมสนิทกับฮุน เซนมาก สนิทจริงๆ คิดไม่ถึงว่าคนสนิทกันขนาดนี้เป็นแบบนี้”
ตอนท้ายการสนทนา นายทักษิณบอกด้วยว่า คนไทยก็แปลก มีคนเข้าข้างเขมรส่วนหนึ่ง ควรไปเข้ากูเกิลดูว่าพญาละแวกคือใคร จะได้เข้าใจมากกว่านี้
ฟังสัมภาษณ์วิสัยทัศน์ทั้งหมดทั้งมวล รู้ชัดคือ นายทักษิณไม่ได้มองต้นเหตุของปัญหา มาจากตัวเองบ้างหรือไม่ ไม่ฉุกคิดสักนิดว่า ต้นสายปลายเหตุมาจากตัวเขาด้วยหรือไม่
โยนบาปโยนโทษให้การเมืองไร้สาระ พรรคร่วมตั้งรัฐบาลบางพรรค โทษความไม่สามัคคี ฟาดพวกอิจฉาริษยาเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ หรือการกล่าวหาคนไทยส่วนหนึ่งเข้าข้างเขมร การเมืองไทยจึงไม่พัฒนา ทำให้ตัวเขายังต้องอยู่ “สทร.” หลังส่ง “ลูกสาว” แพทองธาร ที่ประสบการณ์การเมืองน้อยนิด แม้จะติดสอยห้อยตามนายทักษิณลงพื้นที่หาเสียงมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ มานั่งบริหารประเทศ
ตลอดสองปีของนายกฯแพทองธาร จึงต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์สารพัด แถมถูกร้องเรียนให้องค์กรอิสระตรวจสอบมาตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล จนเข้ารับตำแหน่ง หนึ่งในหลายข้อร้องเรียน มีเรื่องกล่าวหา “ยอมให้นายทักษิณครอบงำพรรค ครอบงำรัฐบาล” อยู่ด้วย เรียกว่าทุกครั้งที่นายทักษิณเคลื่อนไหวใดๆ สังเกตได้ ทัวร์มักจะไปลง “นายกฯผู้ลูก” เสมอ
ที่ยืนยันได้อีกว่านายทักษิณ ไม่คิดว่าตัวเองเป็นต้นตอหรือเป็นหนึ่งในสาเหตุความปั่นป่วนทั้งหลายในประเทศและระหว่างประเทศ จากการตอบพิธีกรที่ถามตรงๆ คิดหรือไม่ว่าตัวเองคือทางตันของประเทศ และปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวเอง นายทักษิณก็บอกว่า มีคนไม่ชอบหน้าเขาเป็นพิเศษ มีขาประจำตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว บางคนไม่รู้จักหน้ากันด้วยซ้ำ
ผ่านมาเกือบสองทศวรรษ แต่ความคิดพ่อนายกฯ ก็ยังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล จึงต้องเข้าไป “สทร.” ยังฉุกคิดไม่ได้ว่า ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความปั่นป่วนวุ่นวายด้วยหรือไม่ แล้วการกระทำของตัวเองส่งผลทำร้ายลูกสาวทางอ้อมหรือไม่ มุ่งมองแต่ว่ามีกลุ่มคนไม่ชอบหน้าตัวเองเป็นพิเศษ จนอาจหลงลืม ก้มลงมองดูพฤติกรรมของตัวเองไป
เช่นนี้แล้ว จะมาผ่าทางตันการเมือง ผ่าทางตันประเทศได้อย่างไร?
- ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี