‘ชัยเกษม’ประเทศไม่มีทางตัน-คนไทยคุยกันรู้เรื่อง

‘ชัยเกษม’พร้อมนั่งนายกฯ

สุขภาพฟิตแข็งแรงดี

โวมีประสบการณ์เยอะ

‘เพื่อไทย’ระดมมือก.ม.

ช่วย‘อิ๊งค์’สู้คลิปเสียง

“ชัยเกษม” โวพร้อมนั่งนายกฯ ยันสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องห่วง มีประสบการณ์เยอะ ลั่นปท.ไม่ถึงทางตัน คนไทยคุยกันรู้เรื่อง เดินหน้าต่อได้ “วิสุทธิ์” เชื่อ “นายกฯอิ๊งค์” ชี้แจงปมคลิปเสียงได้ บอกยังไม่มองไปถึงเสนอ “ชัยเกษม-ยุบสภา” เหตุสถานการณ์ยังอีกยาว ด้านทีม ก.ม.เพื่อไทยลุยช่วยนายกฯเต็มที่ ’จตุพร’ แกะรอยพิรุธ’ทักษิณ’ปั่นเรื่องเล่าฟาด’ฮุนเซน’รุนแรง เชื่อผู้นำจิตวิญญาณ2ประเทศ แสดงละครขยี้ตอบโต้ตบตาปชช.เอาใจกองเชียร์ ฟื้นคะแนนนิยม ถอนรหัสบ่อนแลกใจเป็นหลังฉากสทร สะกดฮุนเซนเงียบกริบหลุดทำพนันออนไลน์ถูกกม.ซุกซ่อนใจต้องการ

เมื่อวันที่ 11กรกฎาคม2568 นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะเป็นทางออกของสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า เรื่องยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่ถึงจุดนั้น อย่าเพิ่งมาถาม รอให้ไปถึงจุดนั้นก่อนค่อยว่ากัน และอย่าไปคาดการณ์อะไรล่วงหน้า เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ไปถึงจุดที่ น.ส.แพทองธารไม่สามารถทำหน้าที่นายกฯ ต่อได้ พร้อมเป็นทางเลือกตามที่นายทักษิณระบุหรือไม่ คนเคยเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน ก็ต้องพร้อม ไม่ต้องห่วง ตนมีประสบการณ์มาเยอะ ความพร้อมไม่ต้องพูดถึง แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ รอให้ถึงเวลานั้นก่อน ถ้าไปพูดก่อน แล้วไม่เกิดขึ้นจริง จะอายเปล่าๆ

หากสถานการณ์ไปถึงจุดนั้นพร้อมเป็น

เมื่อถามว่า นายทักษิณ เคยพูดคุยให้เตรียมพร้อมรับตำแหน่งนายกฯบ้างหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยและสถานการณ์จะไปถึงจุดนั้นหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ หากเกิดขึ้นจริงก็พร้อมทำงานให้ประเทศ โดยไม่มีเงื่อนไข เรื่องสุขภาพตนแข็งแรงดี ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่เกิดขึ้นจริงก็ใช้ชีวิตกับครอบครัว เมื่อถามว่า มองว่าสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้จะนำประเทศไปสู่ทางตันหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ประเทศไม่มีทางตัน เชื่อว่าคนไทยคุยกันรู้เรื่อง คงไม่มีใครอยากให้ประเทศเดินต่อไม่ได้ และมั่นใจว่าประเทศสามารถเดินต่อได้ เราผ่านอุปสรรคมากี่ยุคสมัยแล้ว

‘วิสุทธิ์’เชื่อนายกฯแจงคลิปเสียงได้

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุประเทศไทยยังไม่ถึงทางตัน โดยมีชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นอีกหนึ่งทางเลือก หาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่ง ว่า นายทักษิณ พูดตามหลักการใน 3สเต็ป แต่ไม่ได้หมายความว่า จะเกิดขึ้นจริง สส.เพื่อไทยไม่ได้กังวลสถานการณ์จะไปถึงขั้นนั้น ทุกคนเชื่อมั่น น.ส.แพทองธาร ไม่มีความผิดกรณีคลิปสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพราะมีเจตนาดีในการพูดคุย ไม่ยกแผ่นดินไทยให้ใคร มั่นใจว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในทางบวก น.ส.แพทองธาร จะได้ทำหน้าที่นายกฯ ต่อไป แต่หากต้องมีไม้สอง นายชัยเกษม มารับช่วงต่อ ก็ไม่กังวล สส.ทุกคนให้การยอมรับและเคารพนายชัยเกษมที่ไม่มีอะไรเสียหาย มีความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ที่นิ่งๆ สามารถทำงานได้ มั่นใจ สส.ทุกคนให้การยอมรับ จะไม่เกิดปัญหาตามมา” นายวิสุทธิ์ กล่าว

เสียงปริ่มน้ำก็ต้องลากกันไปให้ได้

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการโหวตถอนร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีเสียงรัฐบาลสนับสนุนให้ถอนร่าง253เสียง เกินครึ่ง246 เสียงมาเพียง 7เสียง ว่า การโหวตในวันดังกล่าว เสียงรัฐบาลหลายคนติดภารกิจ อาทิ รัฐมนตรีบางคนติดภารกิจราชการต่างประเทศ นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เพิ่งลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ และยังมี สส.บางส่วนออกไปกินข้าว กลับมาโหวตไม่ทัน ยอมรับว่าเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำจริง แต่ต้องลากกันไปแบบนี้ ถ้าให้รัฐมนตรีมาสภาทุกวันพุธ วันพฤหัส ก็พอไปได้ สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องมีวินัยในตัวเอง มาร่วมประชุมสภาทุกครั้ง แม้จะลำบากนิดนึงก็ตาม เสียงรัฐบาลขณะนี้อยู่ที่250กว่า ถึง260เสียง ถือว่าพอไปได้อยู่ แต่ต้องช่วยกัน สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เสียงปริ่มน้ำ เกินมา5-6เสียง ยังไปได้ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน

ทีมกม.เพื่อไทยลุยช่วยนายกฯเต็มที่

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท.ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ บอกว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคำร้อง น.ส.แพทองธาร กรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน มี 3แนวทางคือ น.ส.แพทองธาร รอดคดี หากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมี นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯรับไม้ต่อ หรือยุบสภาว่า ถามตนอยากให้เป็นแนวทางแรกมากที่สุด ยืนยันการเมืองไม่มีทางตัน มันจะมีทางไปได้และในฐานะเป็นพรรคแกนนำ หัวหน้าพรรคกำลังต่อสู้คดีอยู่ ตนในฐานะเลขาธิการพรรคยืนยันว่า พรรคเราพยายามทำทุกอย่างให้ออกแนวทางที่หนึ่งมากที่สุด ขณะนี้ทีมกฎหมายที่ร่วมทำคดีมี ทั้งในส่วนของพรรคและทีมที่น.ส.แพทองธาร ตั้งขึ้นมา เพื่อร่วมกันทำคำชี้แจงต่อศาลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุกับน.ส.แพทองธาร นายชัยเกษม พร้อมใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า นายชัยเกษม เป็นแคนดิเดตของพรรคมีความพร้อมอยู่แล้ว เชื่อว่าสามารถพูดคุยกับพรรคร่วมได้และจะทำงานร่วมกันต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

‘จตุพร’เย้ยกม.กาสิโนแลกบ่อนเขมร

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนเฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร สทร.สร้างเรื่องเล่าคลิปเสียงหลุดระหว่างนายกฯอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตรกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิของกัมพูชา เป็นเพียงการแสดงละครการเมืองผลัดกันขยี้เอาคืนและมีการถอนบ่อนกาสิโนเป็นฉากหลังตบตาประชาชน พร้อมทั้งแกะรอยเรื่องเล่าของทักษิณตอบโต้ฮุนเซนว่า หลังจากคลิปอุ๊งอิ๊ง-ฮุนเซนหลุดเมื่อ 17มิ.ย.เป็นเวลากว่า 20วัน ทักษิณ จึงรุกกลับรุนแรงเมื่อ 9ก.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนออกจากสภา นอกจากนี้ วันที่ 9ก.ค.ทักษิณ ยังเดินสายเล่าเรื่องสร้างโชว์วิสัยทัศน์ชื่นชมลูกสาวตัวเองทำซอฟพาวเวอร์และให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเนชั่นในหัวข้อผ่าทางตันประเทศไทย แสดงถึงการโหมขยี้ใส่ฝ่ายกัมพูชา แต่ถึงขณะนี้ฮุนเซน ยังเงียบกริบ ซึ่งเป็นพฤติกรรมผิดปกติของนักโพสต์สื่อโซเชียลแทบทุกวัน อีกทั้งมีข้อสงสัยเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า การถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนเปิดโอกาสให้ทักษิณ ได้ฟาดกลับฮุนเซนเพื่อเอาใจกองเชียร์คนไทยหรือไม่ ขณะที่ฮุนเซน เงิยบเชียบอยู่ คงหายว้าวุ่นใจได้ชั่วคราวกับบ่อนกาสิโนไทยที่จะมาเป็นอุปสรรคหั่นรายได้บ่อนกัมพูชา

จับโกหกคลิปเสียง’อิ๊งค์’อยู่กันหลายคน

นายจตุพรได้แกะรอยเรื่องเล่าของทักษิณที่ว่า ฮุนเซน ต้องการคุยกับอุ๊งอิ๊ง โดย ผอ.ฮวด ล่ามคนสนิทของฮุนเซนมารอประสานงานอยู่ที่โรงแรมโรสวูด แต่รอนานถึง 3ชั่วโมง ยังไม่ได้ตุย ดังนั้นคณะของนายกฯ ประกอบตัวย นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม ขณะนั้น, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ จึงแยกย้ายกันกลับ การนัดหมายนั้นตามเรื่องเล่าของทักษิณ ทำให้เข้าใจได้ว่า ฮุนเซนต้องให้ ผอ.ฮวด มานัดนายกฯอุ๊งอิ๊ง เพื่อต่อสายคุยกัน แต่ตัวเองไปนอนหลับถึง3ชั่วโมง ซึ่งผิดปกติ จนทักษิณ บอกลูกให้กลับ เรื่องเล่าของทักษิณ ระบุว่า หลังแยกย้ายกันกลับ ฮุนเซนโทรศัพท์เข้าเบอร์ตรงส่วนตัวหาอุ๊งอิ๊ง โดยไม่ผ่านล่าม ผอ.ฮวด ซึ่งขัดกับเสียงในคลิปหลุด เพราะนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ทักทายฮุนเซน ก่อนว่า สบายดีหรือเปล่า”โดยสามัญสำนึกเชื่อว่า ฮุนเซน ไม่จิ้มเบอร์ตรงหาอุ๊งอิ๊ง แต่ต้องผ่านล่าม ผอ.ฮวดก่อน ซึ่งวางคนของตัวเองไว้ประสานงานแล้ว ขณะที่อุ๊งอิ๊ง ก็ไม่ตามคณะ3คนที่แยกจากกันมาคุยด้วย จึงถือโอกาสคุยเอง ซึ่งทักษิณ มั่นใจว่า เวลา 3ชั่วโมง ฮุนเซน วางแผนเตรียมการบันทึกเสียงสนทนาของอุ๊งอิ๊ง”

แฉถอนกม.กาสิโนแลกได้ใจ’ฮุนเซน’

นายจตุพร กล่าวว่า ฟังเรื่องเล่าของทักษิณแล้ว ย่อมสงสัยเพราะการชี้แจงของนายกฯ อุ๊งอิ๊งในกรณีคลิปหลุดมีถึง 4ครั้ง แต่ไม่มีเนื้อหาตรงตามเรื่องเล่าของทักษิณเลย ดังนั้นถ้าสคลิปตามทักษิณเล่าเรื่องมีอยู่จริง ทำไมอุ๊งอิ๊ง ไม่อธิบายเรื่องนี้ เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์กดดันให้เบาลงไปอีกแบบ แต่เรื่องเล่าของทักษิณ สร้างเรื่องให้ใหญ่กว่าไปอีก โดยฟาดเต็ม ใช้คำรุนแรงหนักมาก เช่่่น กล่าวหาวางแผนอัดเสียง, ต่อไปใครจะคบกับมัน หรือซัดเรื่องทอง ยังยกการถ่ายทุกข์ทุกเช้าฝากไว้ที่ส้วมบ้าน ฮุนเซน ซึ่งเป็นคำแรงและคือการท้าทาย แต่ทางกัมพูชาเงียบกริบ อีกทั้งสงสัยเรื่องราวตามเรื่องเล่าของทักษิณว่า ทำไมต้องรอเวลาตอบโต้ในวันที่ 9ก.ค.ซึ่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนออกจากสภา ดังนั้นทำให้เข้าใจได้ว่า ความบาดหมางขัดแย้งของตระกูลชินวัตรกับฮุนเซน มาจากเรื่องบ่อนกาสิโนและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามมาหรือไม่ ทำไมทักษิณเลือกโต้แรงในวันที่ 9ก.ค.หรือเป็นเรื่องถอนบ่อนแลกใจให้ฮุนเซนเงียบ แต่สิ่งนี้ทำให้กองทัพ แม่ทัพนายกองเดือดร้อนต้องตรึงกำลังตามแนวชายแดน อีกอย่างไม่สงสัยกับการแสดงออกจัดเต็มของทักษิณ และอย่าเรียกว่าครอบงำ เพราะการอธิบายในแต่ละประเด็นเมื่อ 9 ก.ค.ใหญ่กว่าการครอบงำ ถึงกับ สทช.โทรหา ผอ.ฮวด ให้ไปบอกลูกพี่ว่า ลูกเราเป็นผู้นำสองประเทศ แล้วจะรบกันเหรอ

ซัด’แม้ว-ฮุนเซน’เล่นละครตบตาปชช.

นายจตุพร ย้ำว่า เรื่องเล่าของทักษิณ จึงไม่ปกติ และการเลือกวัน สทช.เป็นวันถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโนจึงแปลก แล้วยังฟาดแรงทุกเรื่องเพื่อเอาใจกองเชียร์ไทย ส่วนกัมพูชาเงียบกริบ เพราะฮุนเซนเล่นบทกระแทกแรง รุกขยี้ไปก่อนแล้ว ดังนั้นปัญหาผู้นำ 2ประเทศจึงทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นแค่การละครที่ผลัดกันแสดงบทตอบโต้ตบตาประชาชน สิ่งสำคัญวันที่ถอนร่าง พรบ.บ่อนกาสิโน ทักษิณได้เปิดความต้องการใหม่คือ ยกการพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมาย จะทำให้มีรายได้เข้าประเทศถึง 3แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งมากกว่ารายได้จากบ่อนกาสิโน อย่างไรก็ตาม การพนันออนไลน์ เป็นเครือข่ายสำคัญที่โยงจากบ่อนกาสิโน ดังนั้น การขยับตัวทุกอย่างของทักษิณ จึงมีความน่าสงสัยผิดปกติและที่ผ่านมา ฮุนเซน ท้าจะเปิดคลิปเกี่ยวข้องกับสถาบันจะว่าอย่างไงกัน ส่วนทักษิณ เชื่อว่า นายกฯอุ๊งอิ๊ง จะรอดรถูกถอดถอนของศาล รธน.ก็ย่อมคิดได้ หากยังไปไม่ได้ก็เป็นคิวของ นายชัยเกษม นิติสิริ ขึ้นเป็นนายกฯ หรือถ้าไปไม่ได้อีก ต้องยุบสภา ดังนั้นจึงไม่มีทางตันของประเทศ แต่ทางรอดจากคดีความของตัวเองกลับไม่พูดถึง

งัดเงื่อนไขพรรคปชน.ข่มขู่พรรคร่วม

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ทักษิณ ฉายภาพอนาคตจะจับมือพรรคประชาชนร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะพรรคประชาชนเปิดทางโหวตให้นายกฯ ทุกคนที่สัญญาจะทำตามเงื่อนไขนายกฯ ชั่วคราวเพื่อผ่านงบประมาณ69และแก้รธน.แล้วยุบสภา ซึ่งเป็นจริงได้ยากอย่างยิ่ง เงื่อนไขพรรคประชาชนเท่ากับเป็นอาวุธของพรรคเพื่อไทยไปขู่พรรคร่วมรัฐบาลอย่าสร้างปัญหาระหองระแหนขึ้นมา ดังนั้น พรรคใดยึกยักพรรคเพื่อไทย ก็ไม่แคร์ เพราะสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ โดยมีพรรคประชาชนคอยสนับสนุนและไม่เอาตำแหน่งรัฐมนตรีสักกระทรวง สูตรยุบสภาพรรคประชาชน ซึ่งทำจริงได้ยาก แต่พรรคเพื่อไทยนำไปเป็นอาวุธข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อย่าสร้างปัญหา ลีลาการเมืองทักษิณ จึงหยิบเงื่อนไขพรรคประชาชน มาเป็นอาวุธสร้างประโยชน์การเมืองได้หมด จึงเป็นเงื่อนไขทำให้รวมตัวเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไว้ได้

‘รสนา’ซัด’ทักษิณ’สตอไม่แนบเนียน

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทักษิณสตอไม่เนียน ทักษิณสตเรื่องลูกสาวถูก “อังเคิลสารพัดพิษ”หลอกอัดคลิป ยิ่งย้ำชัดว่าลูกสาวไร้วุฒิภาวะเป็นนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ คนที่โกหกเรื่องป่วยทิพย์ชั้น14 ยังกล้ามาแต่งสตอรี่หวังให้ศาลฯและคนไทยเห็นใจว่าลูกสาวถูกหลอกให้รอคุยโทรศัพท์กับฮุนเซนมากกว่า 2 ชั่วโมงที่โรงแรมโรสวูด และไม่ได้ตั้งใจคุยลำพัง แต่มีรมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศและเลขานายกฯ มา รออยู่ด้วยกัน แต่เจอเล่ห์เหลี่ยมฮุนเซน จนต้องคุยเพียงลำพังและถูกอัดคลิปในที่สุด แม้มีข้ออ้างว่า มีรัฐมนตรี 2คนและเลขานายกฯรออยู่ด้วย แต่ก็มีนายฮวดมารอเป็นล่ามแปลภาษาให้ด้วยที่โรงแรมโรสวูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่สุดที่ในการเจรจาความเมือง เหตุใดไม่มีล่ามแปลภาษาที่เป็นคนไทยมาทำหน้าที่ ทำไมจึงใช้นายฮวดที่เป็นคนกัมพูชา และเป็นคนสนิทของฮุนเซนมาเป็นล่ามแปลให้ เป็นสตอที่ไม่เนียน ใช่หรือไม่ การโยนความผิดให้ฮุนเซนที่หลอกให้คนติดตามรอนานกว่า 2ชั่วโมง จนต้องแยกย้ายกันกลับไป เพื่อจะได้หลอกอัดคลิปลูกสาวเพียงลำพัง น่าจะเป็นแค่การแต่งเรื่องมากลบเกลื่อนความผิดร้ายแรงของนางสาวแพทองธาร ใช่หรือไม่

ซัด’แม้ว’อำมหิต/อิ๊งค์วางมือได้แล้ว

ต่อให้ถูกหลอกอัดคลิปตามลำพัง แต่เนื้อหาที่พูดคือสาระสำคัญ ไม่อาจหักล้างได้ ไม่ว่าการออดอ้อนกับผู้นำต่างประเทศที่เป็นคู่พิพาทว่า “เห็นใจหลานหน่อย คนไทยไล่หลานไปเป็นนายกฯเขมรแล้ว และอังเคิล อยากได้อะไรขอให้บอก จะจัดการให้ การเจรจาความเมืองให้เป็นเรื่องในระดับครอบครัวของ2ตระกูล แต่โดนฮุนเซนตอกกลับมาว่า ไม่สามารถเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาแลกกับเรื่องของประเทศชาติ” เป็นข้อความที่นายฮวดไม่ได้แปล ใช่หรือไม่ แค่นี้คนไทยก็ไม่สามารถไว้วางใจให้นางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงการไม่ให้เกียรติแม่ทัพภาค2 การพูดบูลลี่คนใต้บังคับบัญชาว่า พูดเอาเท่ เป็นฝ่ายตรงข้ามกับนางสาวแพทองธารและฮุนเซน เป็นสิ่งที่คนเป็นนายกรัฐมนตรีสมควรพูดกับผู้นำประเทศที่เป็นคู่พิพาทกันหรือไม่ ทักษิณ ช็อคที่ฮุนเซนทำกับลูกสาวแบบนี้ แต่ไม่คิดหรือว่าคนไทยจะช็อคมากกว่าแค่ไหนที่ได้รับฟังสิ่งที่ลูกสาวของนายสทร.ทักษิณ พูดแบบนี้ ดิฉันขอแนะนำว่า ในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่รักลูก ควรให้ลูกลงจากเวทีการเมืองวิบากนี้ เพื่อมีทางรอด อย่าว่าแต่ลูกเลย ขนาดตัวพ่อจะเอาตัวรอดหรือไม่ยังไม่รู้ คนที่เป็นพ่อคนต้องถามตัวเองว่าการดันทุรังให้ลูกเจ็บตัวไม่รู้จบเช่นนี้ ทำไปเพื่ออะไร เพื่อลูกหรือเพื่อตัณหาการเมืองไม่รู้จบของตัวเองกันแน่ แต่ถ้าอ้างว่าต้องยอมให้ลูกเจ็บตัวเพื่อชาติ ก็ต้องถามตัวเองว่าไม่เป็นพ่อที่อำมหิตเกินไปหน่อยหรือ

‘เทพไท’สวนไม่ใช่3ทางออกมี5ทาง

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แทงสวน “ทักษิณ“ ต้อง 5ออปชัน ไม่ใช่3 กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขึ้นเวทีเอ็กซ์คลูซีฟทอล์ค ของเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนหนึ่งนายทักษิณได้พูดถึงคดีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายทักษิณได้พูดถึงทางออกของคดีนี้ว่า มีอยู่ 3ออปชัน คือ 1.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นางสาวแพทองธารไม่ผิด จะทำหน้าที่ต่อไปและอยู่ยาว 2.ถ้าหากว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า นางสาวแพทองธารมีความผิด ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน 3.ถ้าหากออปชันแรกกับออปชัน 2 เดินหน้าไปไม่ได้ ไม่สามารถสร้างเสถียรภาพ หรือได้รับการสนับสนุน ก็เป็นออฟชั่นสุดท้าย คือยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน

ผมในฐานะนักวิเคราะห์ทางการเมือง เห็นว่านายทักษิณลืมทางออกไปอีก 2ออปชัน นั่นก็คือ ออปชันแรก ถ้าหากว่านายทักษิณประเมินสถานการณ์ และความเป็นไปได้ของคดี ถ้าเห็นว่าคดีของนางสาวแพทองธารไปไม่รอด จะถูกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อาจจะชิงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อน เพื่อไม่ให้ความผิดเกี่ยวกับด้านจริยธรรมติดตัวนางสาวแพทองธาร จะเป็นการทำลายอนาคตทางการเมืองของนางสาวแพทองธารได้ ส่วนอีกออปชันหนึ่ง หลังจากที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายชัยเกษมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม และถูกสกัดไม่ให้มีการยุบสภา เพราะรู้ว่าทุกพรรคยังไม่มีความพร้อมในการเลือกตั้ง อาจจะแพ้พรรคประชาชนได้ จึงจำเป็นต้องเปิดดีลใหม่ระหว่างนายทักษิณกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม สรรหานายนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ไม่ใช่นายชัยเกษม ซึ่งมีปัญหาเรื่องสุขภาพและจุดยืนทางการเมือง เรื่องทัศนคติต่อมาตรา112

ชู’บิ๊กตู่’มีโอกาสนั่งนายกฯมากสุด

ถ้าหากว่าจะพิจารณาจากรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ คือนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรครวมไทยชาติ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ารายชื่อทั้งหมดนี้ ชื่อของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความเป็นไปได้มากที่สุด ฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหมดน่าจะเห็นพ้องและยอมรับ เพราะเคยร่วมรัฐบาลด้วยกัน ส่วนนายทักษิณก็สามารถยอมรับได้ เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในกรณีที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ส่วนพรรคประชาชน ซึ่งไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ แต่ก็สมประโยชน์ ถ้าหากพลเอกประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็สามารถนำมาเป็นเงื่อนไข ใช้เป็นประเด็นสำหรับการหาเสียงได้ การที่นายทักษิณบอกว่า มีทางออกอยู่ 3ออปชันนั้น สำหรับความเห็นของผมยืนยันว่า น่าจะมีอยู่ 5ออปชันครับ